Jacques Fesch เป็นฆาตกร และเวลานี้เขาได้รับเกียรติในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า
ไม่มีวันสายเกินไปที่จะพบพระหรรษทานของพระเจ้า
เป็นการเหมาะสมที่เราจะเริ่มแนะนำเรื่องราวของชายคนนี้ด้วยข้อความจากพระวรสารของนักบุญลูกา 15: 23-24 ซึ่งเล่าเรื่องการกลับมาของลูกล้างผลาญ — “จงนำลูกวัวที่ขุนอ้วนแล้วไปฆ่า แล้วกินเลี้ยงฉลองกันเถิด เพราะลูกของเราผู้นี้ตายไปแล้วและกลับมีชีวิตอีก หายไปแล้ว ได้พบกันอีก”
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1954 ฌาคส์ เฟช( Jacques Fesch) ได้สังหารตำรวจคนหนึ่งและทำให้คนสามคนบาดเจ็บ มันไม่ใช่ความผิดพลาดในการพยายามขโมยเงินจากพ่อค้าแลกเปลี่ยนเงิน แต่สิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามแผน ฌาคส์ถูกจับและถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานกระทำการฆาตกรรม เขาถูกตัดสินประหารชีวิต และในวันที่ 1 ตุลาคม 1957 เขาก็ได้ถูกประหารชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว
ฌาคส์เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย พ่อของเขาเป็นนายธนาคารที่ประสบความสำเร็จจากเบลเยียม พ่อของเขายังเป็นศิลปินและไม่เชื่อในพระเจ้า และไม่ค่อยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอบรมสั่งสอนลูกชายของเขา ฌาคส์ถูกเลี้ยงดูแบบคาทอลิกโดยแม่ของเขา โดยนิสัย,เขาเป็นคนช่างฝัน เขายังขี้เกียจและไม่แสดงความทะเยอทะยานในเรื่องใด พ่อแม่ของเขาหย่าร้างกันเมื่ออายุ 17 ปี ฌาคส์เริ่มหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง และการประพฤติผิดของเขาทำให้โรงเรียนไล่เขาออก พ่อของเขาให้งานเขาทำที่ธนาคาร แต่ ฌาคส์ซึ่งละทิ้งความเชื่อคาทอลิกไปแล้ว, เริ่มเที่ยวเตร่จัดงานปาร์ตี้และประสบปัญหา
Pierrett แฟนสาวของ ฌาคส์ตั้งท้อง เมื่อ ฌาคส์อายุ 21 ปี เขากับ Pierrette แต่งงานกันแบบเรียบง่าย เขาลาออกจากตำแหน่งที่ธนาคารของบิดาและไม่ทำอะไรที่มีความหมายต่อชีวิต เขาเมินเฉยต่อภรรยาและลูกของเขา และให้กำเนิดลูกอีกคนหนึ่งกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
ตอนนี้ ฌาคส์มีอายุ 24 ปี เขามีภรรยา ลูกสาว และลูกอีกคนหนึ่งกับหญิงอีกคน เขารู้สึกเบื่อหน่ายต่อชีวิตและถามพ่อที่ร่ำรวยของเขาว่าจะซื้อเรือให้เขาเพื่อแล่นไปยังตาฮิติได้หรือไม่ พ่อของเขาปฏิเสธ
ฌาคส์,ด้วยความผิดหวัง, เขาดิ้นรนที่จะหาเงินด้วยตนเอง ฌาคส์หาซื้อปืนและพยายามจะปล้นเงินจากพ่อค้าเงินผู้หนึ่ง
ชื่อของพ่อค้าเงินคือ Alexander Silberstein ฌาคส์ตีเขาที่ศีรษะ แต่ Silberstein พยายามกดปุ่มฉุกเฉินส่งเสียงเตือน ตำรวจนายหนึ่งชื่อ Jean Vergne อยู่ใกล้ๆ และวิ่งไปที่เกิดเหตุ ฌาคส์วิ่งออกจากที่เกิดเหตุ แล้วหันหลังกลับและยิงกลับออกไปอย่างดุเดือดใส่เจ้าหน้าที่ที่กำลังมา ตำรวจ Jean Vergne เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ผู้ยืนดูเหตุการณ์สามคนได้รับบาดเจ็บ ฌาคส์ถูกจับในอีกไม่กี่นาทีต่อมาขณะที่เขาพยายามวิ่งเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดิน
หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวเกี่ยวกับความโหดร้ายของเหตุการณ์นี้ และข่าวกระจายไปทั่วฝรั่งเศส ขบวนศพของเจ้าหน้าที่ที่ถูกสังหารก็อยู่ในรายการข่าวทางโทรทัศน์ทั้งหมด หนังสือพิมพ์ได้ติดตามการพิจารณาคดีของฌาคส์ และบรรยายข่าวเหมือน "ละครน้ำเน่า" ทำให้ประชาชนรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปด้วยในขณะที่กำลังมีการพิจารณาคดี ในวันที่ 6 เมษายน 1957 ฌาคส์ถูกตัดสินประหารชีวิตในข้อหาก่ออาชญากรรม วิธีการประหารชีวิตในฝรั่งเศสคือการประหารชีวิตด้วยกิโยติน
ฌาคส์ถูกคุมขังเดี่ยวที่เรือนจำ La Sante ในปารีส เมื่อผู้คุมเรือนจำเข้ามาหาผู้ต้องโทษเป็นครั้งแรก ฌาคส์ก็ไล่เขาไป แต่ผู้คุมยังคงพยายามต่อไป และในที่สุดทั้งสองก็สนิทสนมกัน ในช่วงเวลานี้ เพื่อนเก่าของ ฌาคส์ได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ ท่านเริ่มไปเยี่ยมเขา ฟันเฟืองที่สามในวงล้อแห่งการกลับใจของฌาคส์คือทนายของเขา ชื่อของทนายคือ Baudet และเขาเป็นคาทอลิกใจศรัทธา
สำหรับพระเจ้า, ทุกสิ่งเป็นไปได้
ชายทั้งสามทำงานร่วมกันเป็นเครื่องมือแห่งพระหรรษทานที่ไหลมาจากเบื้องบน ชายผู้ต้องโทษเริ่มพิจารณาตรวจสอบชีวิตของเขา เขายอมรับความเจ็บปวดและความปวดร้าวที่เขาก่อให้คนมากมาย และเขาก็เริ่มกลับใจ ฌาคส์ได้กลับมาสู่ความเชื่อคาทอลิกอีกครั้ง เขาโอบกอดความเชื่อด้วยสุดจิตใจ
ตอนนี้,ฌาคส์ถือว่าห้องขังของเขาเป็นดังอาศรม เขาอ่านชีวประวัติของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีและนักบุญเทเรซาแห่งลิซิเออซ์ เขาติดต่อกับครอบครัวของเขาบ่อยครั้ง โดยเฉพาะพี่ชายและแม่เลี้ยง เขาเขียนบันทึกทางจิตวิญญาณที่วันหนึ่งจะเป็นที่ประทับใจของคนหลาย ๆ คน เขาคืนดีกับภรรยาของเขาในคืนก่อนที่เขาจะตาย ในวันที่ 1 ตุลาคม 1957 เกือบหกเดือนหลังจากถูกตัดสิน, ฌาคส์ถูกประหารชีวิตในความผิดของเขา
Pierrett ภรรยาของฌาคส์และ Veronica ลูกสาวของเขาจัดพิมพ์จดหมายของฌาคส์เพื่อเป็นตัวอย่างของการได้รับการไถ่กู้ให้รอด ตอนแรกไม่มีใครสนใจ แต่ด้วยความช่วยเหลือของซิสเตอร์คาร์เมลไลท์นามว่า Sister Veronique และคุณพ่อออกัสติน(Augustin-Michel Lemonnier) พวกเขาก็ได้ตีพิมพ์ผลงานของฌาคส์ออกมา
ตั้งแต่ปี 1970 จนถึงปัจจุบัน ผลงานเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลาย ๆ คน
วันที่ 21 กันยายน 1987, พระคาร์ดินัลฌอง-มารี ลุสติเกอร์(Jean-Marie Lustiger) อาร์ชบิชอปแห่งปารีส ได้เปิดการพิจารณาเกี่ยวกับชีวิตของฌาคส์ เฟสช์ ในปี 1993 กรณีของเขาถูกเสนอต่อโรมอย่างเป็นทางการ ทำให้ ฌาคส์ได้รับสถาปนาเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า
เราเริ่มเรื่องด้วยข้อความจากพระคัมภีร์เรื่องลูกล้างผลาญ เป็นเรื่องราวของการให้อภัย และเราจะปิดท้ายด้วยข้อความจากพระวรสารนักบุญลูกา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการกลับใจของบุคคลหนึ่งที่โดดเด่นที่สุดตลอดกาล นั่นคือเรื่องของโจร Dismas ที่ถูกตรึงกางเขนพร้อมกับพระเยซูเจ้า เขาพูดกับพระเยซูขณะถูกตรึงบนไม้กางเขนว่า
“ข้าแต่พระเยซู โปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วยเมื่อพระองค์จะเสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่าวันนี้ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์” ลูกา 23: 42-43
สำหรับพระเจ้า ความเมตตาและการให้อภัยเป็นนิรันดร
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น