เป็นไปไม่ได้ที่จะมีความศักดิ์สิทธิ์หากปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยเหตุนี้จึงอธิบายได้ว่าทำไมความศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นเรื่องที่ยาก
ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตน จิตใจของเราจะไม่เปิดรับพระจิตเจ้า เราจะไม่ได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์ เพราะเรานำตัวเราออกจากการเยียวยารักษา ซึ่งนั่นคือออกจากพระเจ้า
สิ่งที่เป็นอุปสรรคกีดขวางมากมายที่เราประสบ,ที่ทำให้เรามึนงง เกิดจากการขาดสิ่งดังกล่าวนี้
"เมื่อผู้มีใจถ่อมตนสองคนมาอยู่ร่วมกันทำงานด้วยกัน พวกเขาจะเข้ากันได้ดีเสมอ" Thomas À. Kempis เขียนไว้ในหนังสือของท่าน โทมัส เคมปิสเป็นพระสงฆ์นักบวชที่เป็นผู้เขียนหนังสือ”จำลองแบบพระเคริสต์”ที่ให้แรงบันดาลใจและมีชื่อเสียง ท่านยังได้เขียนหนังสืออีกเล่มหนึ่งชื่อว่า “ความอ่อนน้อมถ่อมตนและการยกจิตใจขึ้นหาพระเจ้า(Humility and the Elevation of the Mind to God) เวลานี้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษและออกวางจำหน่ายแล้ว
“แต่เมื่อคนที่มีใจหยิ่งทะนงในตัวเองสองคนมาอยู่ร่วมกันและทำงานด้วยกัน พวกเขาจะแข่งขันกันเองและความแตกแยกจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
“เป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวง...การฝึกฝนตนเองให้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นการฉลาดที่จะกลัวการพิพากษาที่มองไม่เห็นของพระเจ้าและควรคิดคำนึงบ่อยๆเกี่ยวกับจุดจบของตนเอง สิ่งนี้เป็นลักษณะของคนที่ถ่อมตนอย่างแท้จริง เขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากการสรรเสริญเยินยอของมนุษย์ เพราะคนที่ยึดถือในสง่าราศีของสวรรค์จะไม่ถือว่าสง่าราศีของแผ่นดินโลกนี้มีความสำคัญมากนัก”
วัฒนธรรมของเราในปัจจุบันที่อิงอยู่กับ การเมือง,ความมั่งคั่ง,และผู้มีชื่อเสียง—ทั้งหมดนี้ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับสวรรค์ และยิ่งไปกว่านั้น,มันมักจะเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงในการเดินทางไปสู่ที่นั่น
บุคคล "สำคัญ" จำนวนมากมักไม่ให้ความสำคัญกับอีกด้านหนึ่ง
แต่ดวงตาจะเปิด
ความประหลาดใจจะปรากฎขึ้นทุกๆจุดหักเหของชีวิต
“บุคคลที่แสวงหาการสรรเสริญและการยกย่องในชีวิตนี้จะไม่มีวันมั่นคงในความจริง”
“บุคคลดังกล่าวซึ่งจิตใจของเขาขึ้นอยู่กับคำสรรเสริญและความเห็นชอบจากมนุษย์ ไม่สามารถรักพระเจ้าอย่างแท้จริงเหนือสิ่งอื่นใดได้ หรืออย่างดีที่สุด — เขารักพระเจ้าด้วยใจที่แตกแยกเท่านั้น
“ผู้มีอำนาจเหนือผู้อื่นซึ่งมีใจอ่อนน้อมถ่อมตนย่อมเป็นที่รักยิ่งของพระผู้เป็นเจ้า และเขาจะได้รับเกียรติที่เหมาะสมจากพระองค์ ผู้ที่อยู่ภายใต้ผู้อื่นและยอมรับอย่างถ่อมตนจะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ในสวรรค์ บุคคลที่มีสติสัมปชัญญะและมีใจบริสุทธิ์จะเป็นเพื่อนกับทูตสวรรค์และเขาเป็นดังเครื่องประดับของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และผู้ที่หนีจากความวุ่นวายของกิจกรรมทางโลกจะก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในพรหมจรรย์และการควบคุมตนเอง”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง: วิบัติแก่ผู้ที่ปฏิบัติต่อคริสตศาสนาโรมันคาทอลิกทำให้กลายเป็นเรื่องการเมือง,สังคม, หรือความรู้ทางปัญญา วิบัติแก่บรรดาผู้ให้เหตุผลในการไม่นบนอบเชื่อฟัง
วิบัติแก่ผู้ที่พูด...มากกว่าอธิษฐานภาวนา
“ผู้มีความศรัทธา...รักและฝึกฝนตนเองในความสันโดษ เพื่อที่เขาจะได้เพ่งพินิจพิจารณาพระเจ้าอย่างอิสระและตั้งใจมากขึ้น”
“พระสงฆ์นักบวชผู้รักษาความเงียบและสวดภาวนาอย่างต่อเนื่องจะเดินไปกับพระเจ้าและเข้าไปในความลึกลับของสวรรค์ ผู้ที่ทำกิจการที่ดีและอดทนต่อความอยุติธรรม จะรวบรวมผลลัพท์อันน่ามหัศจรรย์สำหรับตัวเขาเองในอนาคต
“แต่คนที่หมกมุ่นอยู่กับการพิจารณาคำถามและปัญหาที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน และเพิกเฉยต่อคุณธรรมของความถ่อมตน เขาได้ขุดหลุมสำหรับตัวของเขาเอง เขาจะล้มลงอย่างแน่นอน”
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น