วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

อัศจรรย์หลังจากบราเดอร์อังเดรเสียชีวิตแล้ว

 



 
เมื่อแปดปีที่แล้วในสัปดาห์นี้ที่ บราเดอร์อังเดร เบเซตติได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญจากพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 บราเดอร์ผู้อ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างศาสนสถานของนักบุญโยเซฟในมอนทรีออลเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1937 เมื่ออายุได้ 91 ปี ตลอดช่วงชีวิตของบราเดอร์อังเดรและอีกหลายปีต่อมานับแต่ที่ท่านเสียชีวิต ท่านได้รับการยกย่องอันเนื่องมาจากการรักษาที่อัศจรรย์มากมาย ในช่วงหกวันหลังจากที่ท่านเสียชีวิต,ผู้คนนับล้านเดินผ่านโลงศพของท่าน ซึ่งล้อมรอบด้วยไม้ค้ำยันและไม้เท้านับร้อยอันจากผู้ที่ยืนยันถึงพระพรที่พวกาเขาได้รับโดยอาศัยบราเดอร์อังเดร ต่อไปนี้เป็นข้อความที่ตัดตอนมาจาก The Register of Jan. 21, 1937:
 
--------------------------
 
มอนทรีออล MONTREAL – ไม่นานหลังจากการตายของบราเดอร์อังเดร ผู้ก่อตั้งศาสนสถานนักบุญโยเซฟ(St. Joseph’s Oratory,),ได้มีการทำปูนปลาสเตอร์รูปหล่อของบราเดอร์อังเดรขึ้นมา จากรูปหล่อนี้จะมีการสร้างอนุสาวรีย์ขนาดเท่าตัวจริงขึ้นในภายหลัง
 
จดหมายส่งคำอำลาต่อบราเดอร์อังเดรซึ่งมี 44 ลายเซ็น ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ให้การเป็นพยานของการได้รับการรักษาทางกายภาพอย่างอัศจรรย์โดยอาศัยคำอธิษฐานภาวนาของบราเดอร์อังเดร จดหมายนี้ถูกวางไว้ในโลงศพพร้อมกับร่างของบราเดอร์อังเดรก่อนที่จะนำโลงศพไปไว้ในห้องพิเศษที่อยู่ใกล้กับศาสนสถาน
 
สำเนาจดหมายจะประกอบอยู่ในเอกสารที่จะจัดทำขึ้นสำหรับการเสนอกรณีของบราเดอร์อังเดรในการประกาศเป็นนักบุญ เนื่องจากมีลายเซ็นของบุคคลที่ได้รับการยืนยันว่าได้รับการรักษาอย่างอัศจรรย์เป็นจำนวนมาก
 
ในจำนวนลายเซ็นต์เหล่านี้มีลายเซ็นต์ของนายฟรองซัวส์ เลอกูเยอร์(Francois Lecuyer) ตำรวจมอนทรีออลที่ได้รับการรักษาให้หายจากโรครูมาติสม์(โรคไขข้ออักเสบ)โดยการแทรกแซงช่วยเหลือของบราเดอร์อังเดร.
 
เลอกูเยอร์ซึ่งอายุ 52 ปีเกษียณจากกรมตำรวจเมื่อสองปีก่อนเนื่องจากโรคไขข้ออักเสบ เขาได้รับการรักษาโดยแพทย์ แต่ไม่เคยไปที่ศาสนสถาน(Oratory) เพื่อพบกับบราเดอร์อังเดรในห้องพักของท่าน ในวันฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า เขานั่งอยู่ข้างวิทยุฟังการออกอากาศจากศาสนสถานนักบุญโยเซฟ ซึ่งร่างของบราเดอร์ อังเดรเพิ่งถูกส่งไป
 
เมื่อพระสงฆ์ซึ่งกำลังพูดทางวิทยุกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าบราเดอร์อังเดรจะเสียชีวิตแล้ว แต่จิตวิญญาณของท่านยังคงอยู่กับเราเพื่อที่เราจะได้อธิษฐานภาวนาและได้รับพระหรรษทานโดยผ่านทางท่านเหมือนเช่นตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่” เลอคูเยอร์รู้สึกประทับใจกับคำพูดนี้ เขาและสมาชิกในครอบครัวของเขาได้อธิษฐานภาวนาไปพร้อมๆกันกับคำอธิษฐานภาวนาที่ถ่ายทอดจากศาสนสถาน เขาสวดอ้อนวอนขอให้หายจากโรคไขข้ออักเสบด้วยความร้อนรน(ตามที่ผู้ให้การเป็นพยานบอก) เขาดูค่อนข้างซีดและน้ำตาไหลบนใบหน้าของเขา
 
เมื่อสิ้นสุดรายการ เลอคูเยอร์ เดินเข้าไปในครัวและทันใดนั้นก็ตระหนักว่าเขาทำเช่นนั้นโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าหรือไม้ค้ำยัน ... “ชั่วครู่หนึ่ง” เขาพูด “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมยืนอยู่ได้ด้วยเท้าทั้งสองข้าง ผมเรียกภรรยาและถามว่า 'แต่ไม้ค้ำยันของผมอยู่ที่ไหน' และเธอก็ประหลาดใจและร้องออกมา: 'อยู่ข้างวิทยุ' ”
 
ตั้งแต่นั้นมา เลอคูเยอร์ ก็เดินไปมาได้ตามปกติและบอกว่าเขาไม่เจ็บปวดอีกเลย เขาได้เดินทางไปที่ศาสนสถานและเดินผ่านโลงศพที่บรรจุร่างกายของบราเดอร์อังเดร ด้วยความขอบคุณ
 
มีรายงานอีกกรณีหนึ่งของอาเธอร์ ดูคาเม(Arthur Ducharme) เด็กชายอายุ 8 ขวบ ซึ่งแขนขวาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
 
เขาประกาศว่าแขนของเขาได้หายเป็นปกติและหายขาดทันทีหลังจากที่ได้สัมผัสเท้าของบราเดอร์ อังเดรด้วยแขนของเขา ซึ่งอยู่ในปูนปลาสเตอร์ ในเวลาที่เขากำลังเดินผ่านโลงศพของบราเดอร์อังเดร เมื่อสัมภาษณ์แม่ของเขา,เธอกล่าวว่าอาเธอร์ไม่สามารถใช้แขนได้ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ
 
อาเธอร์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลานานและต้องเย็บแผลถึง 41 ครั้ง ไหล่ของเขาหล่นลงมาในอัตราที่น่าตกใจและนิ้วของเขาก็ยึดติดกันมากขึ้นเรื่อยๆ
 
แพทย์แนะนำให้ทำการผ่าตัดอีก แต่การผ่าตัดถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากวันหยุดคริสต์มาส ดังนั้นเขาจะต้องเข้าโรงพยาบาลเด็กในวันรุ่งขึ้น
 
มีการดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อเก็บรักษาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของบราเดอร์อังเดรเพื่อเป็นพระธาตุของคณะกางเขนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งบราเดอร์ อังเดรเป็นสมาชิก
 
ยังมีรายงานอีกว่า หัวใจของบราเดอร์อังเดรจะถูกเก็บรักษาไว้ในโกศ ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้องใต้ดิน แต่ภายหลังจะนำไปวางไว้ในมหาวิหารเมื่อสร้างเสร็จ
 
โปรเตสแตนต์และชาวยิว เช่นเดียวกับชาวคาทอลิกมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในในการรับพระพรของบราเดอร์อังเดรด้วย ท่านRev. Burton S. Robinson แห่งโบสถ์ Fairmont St. Giles ประกาศไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่บราเดอร์ผู้ต่ำต้อย คำประกาศของโรบินสันต่อสาธารณชนเป็นหนึ่งในคำรับรองของผู้ที่เป็นโปรเตสแตนต์ที่เป็นพยานในการได้รับความช่วยเหลือของบราเดอร์ อังเดร.
 
โรบินสันเปรียบเทียบบราเดอร์อังเดร ว่าเหมือนนักบุญโจนออฟอาร์คและกษัตริย์เดวิด ในลักษณะที่พระเจ้าทรงค้นหาบุคคลในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิดเพื่อให้มารับใช้พระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
 
โรบินสันประกาศว่า บราเดอร์อังเดร “ไม่เพียงแต่เป็นผู้ทำการอัศจรรย์เท่านั้น” แต่ชีวิตของเขาคือ “อัศจรรย์ อัศจรรย์ของพระเจ้า”
 
โรบินสันกล่าวต่อไปว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้มีความเชื่อในเรื่องอัศจรรย์สมัยใหม่และการรักษาด้วยความเชื่อ บราเดอร์อังเดรไม่เคยทำตัวว่าเป็นผู้ทำการอัศจรรย์ หรือพระศาสนจักรคาทอลิกเองก็ไม่เคยประกาศว่าเขาเป็นดังเช่นที่ว่านั้นเลย
 
เขาพูดเสริมว่า “แต่ในยุคของวัตถุนิยม ที่มีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และการรักษาโรคภัยไข้เจ็บนี้ เพื่อท้าทายเราในวันที่เรามีมีชีวิตที่สะดวกสบายและมีสิ่งสนองตอบต่อความพึงพอใจของเรา,พระเจ้าทรงประทานบราเดอร์ผู้ต่ำต้อยให้กับโลก ผู้ซึ่งโดยความดีอันแท้จริงและความเชื่อในศาสนาที่เรียบง่าย เขาได้นำชายและหญิงหลายพันคนมาสู่มโนธรรมของจิตใจ เป็นวิธีที่ซึ่งพระเจ้าทรงกระทำเพื่อพวกเขาด้วยบางสิ่งบางอย่างที่วิธีการธรรมดาทั่วไปที่เรามีไม่สามารถทำได้”
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น