วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

เจ้าหญิงในไฟชำระ

 



 
นักบุญแคทเธอรีนแห่งสวีเดนได้เดินทางไปกับมารดาของเธอคือนักบุญบริดจิตแห่งสวีเดนเพื่อจาริกแสวงบุญที่กรุงโรม นั่นเป็นยุคค.ศ.1300 และการเดินทางไปยังนครนิรันดรนั้นยากลำบากมาก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นชนชั้นสูงของสวีเดนและมาจากสถานะที่มั่งคั่งร่ำรวยก็ตาม แต่นักบุญบริดจิตเป็นผู้ที่มีใจศรัทธาร้อนรนและเธอปรารถนาที่จะชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยการทำพลีกรรมเพื่อเป็นกิจใช้โทษบาป แคทเธอรีนเองพยายามเลียนแบบวิธีการใช้โทษบาปของมารดาของเธอ
 
วันหนึ่งแคทเธอรีนอยู่ในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์หลังเก่า,เป็นมหาวิหารที่สร้างในยุคก่อนยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและสถาปัตยกรรม(เรเนซองต์) ดังนั้นจึงยังไม่สวยงามเหมือนในภายหลังยุคเรเนซองต์ซึ่งบรรดาศิลปินจะทำให้สถานที่แห่งนี้สวยงามเหมือนที่เรารู้จักในตอนนี้ ขณะที่แคทเธอรีนสวดภาวนาอยู่นั้น มีสตรีคนหนึ่งสวมอาภรณ์สีขาวและสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีดำเดินเข้ามาหาเธอ ผู้หญิงคนนั้นขอให้แคทเธอรีนสวดภาวนาให้แก่คนๆหนึ่งที่เพิ่งเสียชีวิตไป สตรีผู้นั้นบอกกับแคทเธอรีนเกี่ยวกับผู้ตายนั้นแต่เพียงสั้นๆถึงสภาพที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตว่า-เธอเป็นชาวสวีเดน-"เป็นผู้หญิงในประเทศของเธอคนหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอ" 
 
แคทเธอรีนถามชื่อของผู้เสียชีวิตที่ต้องการความช่วยเหลือ สตรีลึกลับผู้นั้นตอบว่า"ผู้หญิงคนนั้นคือเจ้าหญิงกิดาแห่งสวีเดน(Princess Gida of Sweden) ภริยาของชาร์ลส์พี่ชายของเธอ" เรื่องนี้ทำให้แคทเธอรีนตกตะลึง: ภรรยาของพี่ชายของเธอได้เสียชีวิตไปแล้วขณะที่เธออยู่ในกรุงโรม,ห่างจากบ้าน 1,600 ไมล์ แคทเธอรีนอ้อนวอนสตรีที่สวมเสื้อคลุมสีดำให้มากับเธอ เพื่อบอกข่าวนี้ให้กับบริดจิตมารดาของเธอด้วยกัน แต่สตรีผู้นั้นปฏิเสธโดยสิ้นเชิงและพูดสั้นๆแต่เพียงว่า “ฉันมีหน้าที่มาส่งข่าวให้แก่เธอคนเดียวเท่านั้น และไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่อื่น เพราะฉันต้องจากไปทันที” สตรีแปลกหน้ายังได้บอกล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ต่อไปด้วยว่า "เธอไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยความจริงนี้ ในอีกไม่กี่วันจะมีผู้ส่งสารคนอื่นมาจากสวีเดนเพื่อนำมงกุฎทองคำของเจ้าหญิงกิดามามอบให้เธอ เจ้าหญิงได้ยกมรดกให้กับเธอตามพินัยกรรม เพื่อความมั่นใจว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากคำอธิษฐานภาวนาของเธอ”
 
มงกุฎทองคำถูกเสนอให้แคทเธอรีนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับคำอธิษฐานภาวนา! อย่างไรก็ตาม สตรีแปลกหน้านั้นได้กล่าวกับแคทเธอรีนอย่างเข้มงวดถึงความจำเป็นในการสวดภาวนาอย่างเร่งด่วนและการทำพลีกรรมอุทิศให้แก่ผู้ตาย "เธอจงเผื่อแผ่ความเมตตาแก่เจ้าหญิงในทันทีเถิด,ความช่วยเหลือด้วยใจเมตตาของเธอ,เพราะเจ้าหญิงกำลังต้องการคำอธิษฐานภาวนาของเธออย่างเร่งด่วนที่สุด" เมื่อสตรีผู้นี้กล่าวคำพูดเหล่านี้แล้วเธอก็หายไป แคทเธอรีนโศกเศร้ากับการตายของ กิดามากและประหลาดใจกับการปรากฏตัวของสตรีแปลกหน้านี้
 
แคทเธอรีนรีบกลับไปหามารดาของเธอ,นักบุญบริดจิต,ผู้ซึ่งมองเห็นความจริงของการประจักษ์นี้ นักบุญบริดจิตได้บอกกับแคทเธอรีนลูกสาวของเธอว่า อันที่จริงแล้วสตรีแปลกหน้านั้นก็คือ กีดา นั่นเอง "เธอคือพี่สะใภ้ของลูก,กิดาเองที่มาปรากฎตัวให้ลูกเห็น...เธอยังคง ต้องชดใช้ความผิดในวัยเยาว์ของเธอ ให้เราทั้งสองทำทุกอย่างเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กิดาเถิด มงกุฎทองคำที่เธอส่งมาให้ลูกเป็นสิ่งที่ผูกมัดในภาระนี้กับลูก”
 
ไม่นานหลังจากนั้น,ข้าราชการจากราชสำนักสวีเดนคนหนึ่งได้มาที่กรุงโรม และเขาได้นำมงกุฎทองคำของกิดามาด้วย เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนแรกที่แจ้งข่าวร้ายเรื่องการตายของกิดาให้แก่นักบุญบริดจิตและแคทเธอรีน แต่ทั้งสองท่านรู้เรื่องนี้แล้ว แทนที่จะสวมมงกุฎ,นักบุญบริดจิตและแคทเธอรีนได้ขายมงกุฏและนำเงินนั้นใช้จ่ายสำหรับพิธีมิสซาและงานการกุศลโดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งเวลาให้วิญญาณของ กิดาผ่านพ้นเปลวไฟของไฟชำระโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
 
* * *
 
บทความนำมาจากหนังสือ Purgatory ของ Fr Schouppe รูปภาพข้างบนเป็นรูปภาพของนักบุญแคทเธอรีนแห่งสวีเดน St Catherine of Sweden
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น