วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565

รูปภาพเล่าเรื่อง

 

รูปภาพนักบุญเทเรซาแห่งอาวิลลาได้รับนิมิตของพระจิตเจ้า(Saint Teresa of Ávila's Vision of the Holy Spirit ) วาดโดย Peter Paul Rubens.ในปี 1612-1614 ปัจจุบันอยู่ในพิพิทธภัณท์ the Museum Boijmans Van Beuningen ในรอตเตอร์ดัม
 
รูปภาพแสดงให้เห็นนิมิตที่นักบุญเทเรซาแห่งอาวิลาได้บรรยายไว้ในหนังสือชีวประวัติของเธอ(ยังมีรูปภาพอีกเวอร์ชั่นหนึ่งซึ่งอยู่ที่พิพิทธภัณท์ the Fitzwilliam Museum in Cambridge) รูปภาพนี้เป็นหนึ่งในสามเวอร์ชั่นที่หลงเหลืออยู่
 
บทภาวนาของนักบุญเทเรซาเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์(St Teresa’s Prayer to Redeem Lost Time)
 
ข้าแต่พระเจ้า ผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาของพระเมตตาทุกประการ 
ลูกยอมรับอำนาจปกครองของพระองค์ 
เมื่อระลึกถึงปีที่ผ่านมาซึ่งสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ 
ลูกเชื่อว่าพระองค์,พระเจ้า,ทรงสามารถเปลี่ยนเวลาที่สูญเสียไปเหล่านี้ให้กลายเป็นผลดีได้ 
ลูกช่างน่าเวทนายิ่งนัก,แต่ลูกเชื่อว่าพระองค์ทรงกระทำได้ทุกสิ่ง 
โปรดทรงฟื้นฟูเวลาที่ลูกทำให้สูญเสียไปด้วยเถิด 
โปรดประทานพระหรรษทานของพระองค์แก่ลูก,ทั้งในเวลานี้และในอนาคต 
เพื่อที่ลูกจะได้ปรากฏเบื้องพระพักตร์พระองค์ในอาภรณ์มงคลสมรสของพระองค์ด้วยเทอญ
 อาแมน
 

ผลงานของ Francesco Robba ชื่อ’Altar of the Holy Cross’ อยู่ในโบสถ์ Križevci, Church of the Holy Cross
 
“ถ้าเราต้องการไตร่ตรองเรื่องฝ่ายวิญญาณ,เราต้องแบกกางเขนราวกับว่ามันเป็นหนังสือ […]พระคริสตเจ้าเองทรงเป็นหนังสือแห่งปรีชาญาณเล่มนี้,ซึ่งพระบิดาทรงเขียนไว้ภายใน(หนังสือ),เมื่อพระองค์เสด็จมาด้วยพระฤทธานุภาพของพระเจ้า และเขียนไว้ภายนอก(หนังสือ),เมื่อพระองค์ทรงรับพระวรกาย อย่างไรก็ตาม,หนังสือเล่มนี้ถูกเปิดบนไม้กางเขน และหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เราต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจส่วนลึกแห่งพระปรีชาญาณของพระเจ้า”
 
- นักบุญโบนาเวนตูลา(บทเทศน์ Sermones de Tempore, Feria VI in Parasceve, sermo II, n. II)
 
ผลงาน Altar of the Holy Cross นี้เป็นผลงานแกะสลักของ Francesco Robba เป็นการแกะสลักหินอ่อนที่งดงามยุคศิลปะแบบบาโร๊คอยู่ทางตอนเหนือของโครเอเชีย
 

ความทุกข์ทรมานเป็นเหมือนการจุมพิตที่พระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกแขวนอยู่บนกางเขนทรงประทานมายังบุคคลที่พระองค์ทรงรักในหนทางที่พิเศษ เพราะความรักนี้,พระองค์ทรงประสงค์ที่จะเชื่อมโยงกับพวกเขาในงานแห่งการไถ่กู้ของพระองค์ 
- นักบุญโบนาเวนตูลา
 
ลองมองดูใกล้ๆ,เพื่อช่วยในการเพ่งพินิจและการเจริญเติบโตฝ่ายจิต,ภาพวาดผลงานของ Bartolomé Esteban Murillo รูปของนักบุญฟรังซิส อัสซีซี กำลังโอบกอดพระคริสต์ 
 
องค์ประกอบโดยรวมมีศูนย์กลางอยู่ที่การเพ่งมองอันทรงพลังของฟรังซิสต่อพระคริสต์ที่ถูกตรึงกางเขน ฟรังซิสอยู่ต่ำกว่าพระคริสต์,ซึ่งบ่งบอกถึงความยากจนและความถ่อมตนของท่าน, เป็นการรับรู้ว่าพระคริสต์ทรงดำรงอยู่สูงสุดและไม่มีอะไรที่อยู่เหนือพระองค์
 
“ใต้เท้า”ของฟรังซิสข้างหนึ่งกำลังเหยียบโลก – นั่นหมายถึงการปฏิเสธสิ่งที่เป็นของโลกทั้งหมดของท่าน ทำให้ผู้ชมอาจจำข้อความบางตอนจากพระวรสารเมื่อดูฟรังซิสปฏิเสธโลก นั่นคือ: “จะเป็นประโยชน์อะไรต่อมนุษย์ หากเขาได้โลกทั้งโลกเป็นกรรมสิทธิ์แต่ต้องเสียวิญญาณไป?” โดยการปฏิเสธสิ่งต่างๆทางโลก (เช่น สถานะ,ความมั่งคั่ง,เกียรติยศ,ชื่อเสียง,ความสุข ฯลฯ) ท่านจึงสามารถยกตัวเองขึ้นเพื่อน้อมรับพระคริสต์
 
ฟรังซิสไม่เพียงแต่ยกตัวเองขึ้นเท่านั้น แต่พระคริสต์ทรงโน้มพระองค์มาหาฟรังซิสด้วย,โดยทรงเอื้อมมือลงไปโอบกอดเขา ภาพที่สวยงามบรรยายถึงชีวิตฝ่ายจิตของคริสตชนนี้สอนเราว่าเมื่อเราเอื้อมมือไปหาพระคริสต์,พระองค์ก็ทรงเอื้อมมือลงมาหาเราเช่นกัน เป็นความยากจนของฟรังซิสที่โอบรับความยากจนของพระคริสต์
 
ทูตสวรรค์ถือข้อความจากพระวรสารของลูกาว่า “ผู้ที่ไม่สละทุกสิ่งเพื่อเรา ก็ไม่สามารถเป็นศิษย์ของเราได้” เป็นอีกครั้งที่ภาพสะท้อนถึงความยากจน นั่นคือการสละทุกสิ่งเพื่อติดตามและโอบรับพระคริสต์
 
การละทิ้งทุกสิ่ง,ทั้งสิ่งที่เป็นวัตถุและไม่ใช่วัตถุ,เป็นก้าวแรกในการเติบโตฝ่ายคุณธรรม การเติบโตในด้านคุณธรรมของนักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีได้รับการยกย่องจากรางวัลที่คริสตชนต่างก็มีความหวังว่าจะได้รับในนิมิตอันเป็นสุข
 
– Ben Duphiney, “Virtue: Possible with Poverty”, Clarifying Catholicism
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น