วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565

กิเลสตัณหาขัดขวางความรัก

 



ตัณหาราคะเป็นเนื้อหนัง,เป็นเรื่องฝ่ายโลก
 
ความรักเป็นเรื่องฝ่ายจิต
 
และอย่างที่เราทราบจากพระคัมภีร์ ทั้งสองสิ่งนี้ทำสงครามกัน แอสโมเดอุส(Asmodeus)เป็นปีศาจแห่งราคะที่ฆ่าสามีเจ็ดคนของนางซาราห์ติดต่อกันในคืนแต่งงานของพวกเขา เรื่องนี้ปรากฏอยู่ในหนังสือโตบิต(Tobit)
 
กาลาเทีย 5:17 กล่าวว่า “ความปรารถนาของเนื้อหนังขัดแย้งกับพระจิตเจ้า และพระจิตเจ้าก็ทรงปรารถนาตรงข้ามกับเนื้อหนัง สองสิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกัน”
 
ตัณหาเป็นการทำตามใจตัวเอง ความรักทำสิ่งที่ตรงกันข้าม
 
ตัณหาเป็นสิ่งหลอกลวง ตัณหาคือการหลงตัวเอง ตัณหายึดติดอยู่ที่ตัวมันเอง 
แล้วสิ่งใดที่มีชัยชนะในชีวิตของคุณ?
 
คุณมีปัญหาเรื่องความรักหรือ? สาเหตุอาจเป็นเพราะตัณหาในตัวคุณ เป็นเพราะความปรารถนาทางเนื้อหนัง(ที่ไม่ใช่การแต่งงาน) หรืออาจทำไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ,เงิน,ทรัพย์สมบัติ,เพื่อความสนุกสนานหรือเพื่อความพึงพอใจอื่นๆ? ตัณหาเป็นความปรารถนาทางเนื้อหนังที่มากเกินไปหรือเป็นความผิดปกติของจิตใจ(ถูกประจญล่อลวง) ตัณหาของเนื้อหนัง, ตัณหาของตา, และความหยิ่งทะนงในตนเอง—สิ่งเหล่านี้,"ล้วนไม่ได้มาจากพระบิดา แต่มาจากโลกทั้งสิ้น” (1ยอห์น 2:16)
 

เราต้องระวังสายตาและความคิดของเราอยู่เสมอ “แต่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ใดมองหญิงด้วยความใคร่ ก็ได้ล่วงประเวณีกับนางในใจแล้ว” พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราใน มัทธิว 5:28
 
นั่นคือตัณหาราคะอีกรูปแบบหนึ่ง
 
ตัณหาขัดขวางพระจิตเจ้า และหากปราศจากพระจิตเจ้าก็ไม่มีความรักที่แท้จริง
 
ความรักดำรงอยู่ตลอดไป ตัณหาราคะเป็นสิ่งชั่วคราว
 
ตัณหาคือความเห็นแก่ตัว
 
ความรักคือการมอบตัวเองให้
 
ตัณหาเป็นพลังที่อยู่เบื้องหลังการล่วงละเมิดมากมาย
 
ตัณหาที่ไม่สมหวังสร้างความโกรธแค้น สร้างความเกลียดชังและอาจจบลงด้วยการฆาตกรรม ความโกรธแค้นทำให้เราไม่ยอมให้อภัยแก่ผู้อื่น ความเกียจคร้านนำไปสู่ความเฉื่อยชา ความปรารถนาในสิ่งที่คนอื่นเป็นหรือมีนำไปสู่ความอิจฉาริษยา สิ่งเหล่านี้คือบาปหนัก
 
จงละทิ้งกิเลสตัณหาในใจเสียเถอะแล้วคุณจะเป็นอิสระ! วิญญาณของคุณจะสดชื่นแจ่มใส!
 
คุณมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นหรือไม่? คุณรู้สึกโกรธผู้อื่นทันทีหรือไม่ เมื่อเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณ? คุณมี “ความภาคภูมิใจในชีวิต” หรือไม่?
 
ชำระล้างมโนธรรมของคุณให้สะอาดบริสุทธิ์เถิด และทำอย่างนั้นได้โดยการกำจัดราคะตัณหาในตัวคุณให้หมดก่อน ลองมองย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กของคุณ เวลานั้นคุณมีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีใจที่บริสุทธิ์ผุดผ่องมิใช่หรือ?
 
ชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยการสวดภาวนา ศึกษาและอ่านพระคัมภีร์(ทุกวัน) ไปสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิทบ่อยๆ มอบความปรารถนาทั้งหมดที่คุณมีให้กับพระเยซูและขอให้พระองค์มาประทับอยู่ในจิตใจของคุณ โยนขยะทั้งหมดในจิตใจของคุณทิ้งไปเสีย ทำลายความสัมพันธ์ทางวิญญาณที่ผิดทั้งหมด ขจัดราคะตัณหาในอดีต(และความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น) และตกแต่งภายในจิตวิญญาณของคุณด้วยสีขาวและบริสุทธิ์เพื่อต้อนรับพระเยซูให้มาสถิตอยู่กับคุณ
 
+ + +
 
- ปรีชาญาณ
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น