บทความอ้างอิงจากหนังสือของ Adam Blai, The Catholic Guide to Miracles
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ผมถูกปลุกให้ตื่นอย่างไร้มารยาทในคืนหนึ่งด้วยกลิ่นไหม้อันแรงกล้า ของอากาศรอบๆ เตียง มันดูหนักและหนาด้วยอนุภาคของฝุ่นที่ไหม้เกรียม ในอาการง่วงนอนของผม,ผมคิดว่ามีคนทิ้งหม้อมันฝรั่งที่เคลือบดินไว้บนเตานานเกินไป และตอนนี้ผิวหน้าที่กลายสภาพเป็นโคลน,มันก็ไหม้ แต่เมื่อผมพยายามจะลุกจากเตียง,กลิ่นของดินบนกองไฟก็ฟุ้งเข้ามาหาผมอย่างแรง,ผลักผมให้ถอยหลังไป ผมไม่สามารถแม้แต่จะส่งเสียงร้องว่ามีบางอย่างติดไฟ จากนั้นกลิ่นเหม็นรุนแรงก็พุ่งเข้าใส่ผม มันไม่ได้มาจากธรรมชาติ และผมก็รู้ว่ามันเป็นการโจมตีของปีศาจ ผมจึงร้องออกมาว่า "ท่านอัครเทวดามีคาแอลผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดภาวนาเพื่อผมด้วย" ผมเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำเสก ทันทีที่ผมเรียกท่านอัครเทวดามีคาแอลและพรมน้ำเสกไปในอากาศ,กลิ่นก็หายไปอย่างสิ้นเชิง
สองสามวันต่อมา ผมกำลังหลับสนิท เมื่อรู้สึกว่าร่างกายสั่นสะเทือนจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ผมตื่นขึ้นก็พบว่ามีร่างสีดำอยู่ข้างประตูห้องน้ำซึ่งปรากฏเป็นร่างที่ใหญ่โตที่ประกอบด้วยหมอกสีดำ ดูเหมือนเถ้าถ่านสีดำนับล้านกำลังจับกลุ่มตรงมาที่ผม ร่างกายของผมแข็งทื่อเหมือนเป็นหิน ผมคิดอะไรไม่ออก แต่ผมก็ร้องเรียกนักบุญมีคาแอลอีกครั้ง และเมื่อผมกระพริบตา,ร่างสีดำนั้นก็หายไป ผมคิดว่าต้องนอนโดยมีพระธาตุนักบุญมีคาแอลของผมใกล้ตัวไว้ และตั้งแต่ที่ผมได้ปฏิบัติสิ่งนี้เป็นกิจวัตรตอนกลางคืนด้วยการวางพระธาตุของเจ้าชายแห่งทูตสวรรค์ไว้ใต้หมอนของผม ปรากฏการณ์แปลกๆในเวลากลางคืนก็หยุดลง
ผมไม่อยากจะยอมรับว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นในชีวิตของผม เหตุการณ์เกิดเพิ่มขึ้นเกินกว่าจะจินตนาการได้ตั้งแต่ผมเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับคุณพ่อปีโอ ก็มีเหตุการณ์เป็นไปตามรูปแบบที่คาดเดาได้เสมอ เมื่อผมคืบหน้าในการเขียนหนังสือคุณพ่อปีโอ ก็จะมีการโจมตีของปีศาจที่ทำให้ใจของผมไม่สงบและตื่นตระหนก เมื่อตอนต้นปี,ผมต้องสวดภาวนาเพราะจะต้องเขียนหนังสือคุณพ่อปีโอสองบทแรกใหม่อีกครั้ง เมื่อเริ่มงานเขียนก็มีกลิ่นเหม็นและร่างของหมอกดำมารบกวนการนอนหลับของผม
ตอนแรก,เพื่อนสนิทของผมคิดว่าเรื่องราวการโจมตีของปีศาจในแต่ละวันของผมเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แต่ตอนนี้เพื่อนของผมอย่างน้อยหนึ่งคนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้หมดกำลังใจ นั่นเป็นเพราะคนที่ต่ำต้อยอย่างผมบังอาจเขียนหนังสือเกี่ยวกับนักบุญที่มหัศจรรย์และต่อสู้กับพลังปีศาจซึ่งพยายามทำให้ผมหมดกำลังใจที่จะดำเนินการโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม,เหตุการณ์นี้ก็สอนผมว่าความศักดิ์สิทธิ์และการพึ่งพาทูตสวรรค์ของผมยังขาดอยู่ที่ตรงไหน พระธาตุนักบุญมีคาแอลเป็นของขวัญล้ำค่าของผม ทำให้ผมรู้วิธีที่จะใช้พระธาตุนี้ในสงครามประเภทนี้ ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ดังนั้น,ในช่วงเวลาตื่นนอน ผมจะวางพระธาตุไว้ด้านในเสื้อ และตอนกลางคืนผมก็จะวางพระธาตุให้อยู่ใกล้ศีรษะของผม แต่ก่อนพระธาตุนักบุญมีคาแอลค่อนข้างจะอยู่ห่างไกลจากตัวผม,อยู่ในถุงผ้าลินินในกล่องไม้ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมต้องการพระธาตุนี้อยู่กับตัวของผมหรือข้างตัวของผมตลอดเวลา
หากไม่ใช่การปกป้องของนักบุญมีคาแอลแล้ว,ผมคิดว่าคงจะไม่สามารถเขียนหนังสือศักดิ์สิทธิ์นี้ได้ พระธาตุนักบุญมีคาแอลเป็นหินก้อนเล็กๆบรรจุอยู่ในกล่องกำมะหยี่สีแดง หินนี้มาจากถ้ำหินปูนในเมืองการ์กาโน,ประเทศอิตาลี ที่ซึ่งนักบุญไมเคิลประจักษ์มาและฝังจิตวิญญาณแห่งทูตสวรรค์ของท่านไว้ในกำแพงหินด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 490 เมื่อนักบุญมีคาแอลประจักษ์แก่พระสังฆราชและบอกว่าถ้ำนั้นเป็นของท่านเอง เราต้องย้อนเวลากลับไปสู่ยุคหนึ่งในช่วงปลายทศวรรษ 400 เมื่อเศรษฐีผู้สูงศักดิ์ชื่อเอลวิโอมาที่ปากถ้ำเพื่อหาวัวตัวผู้ที่พลัดหลงจากฝูงวัวของเขา ในเวลานั้น,ถ้ำถูกทำให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มนักรบนอกศาสนาที่กระหายเลือด และเมื่อเอลวิโอพบวัวของเขาติดอยู่ที่ธรณีประตูถ้ำ เขาก็กังวลว่าคนนอกศาสนาจะโกรธที่สถานที่ของพวกเขาถูกรบกวนจากวัว เอลวิโอพยายามดีงลากวัวกลับไปยังพื้นที่ที่ฝูงวัวของเขากำลังเล็มหญ้า แต่วัวไม่ขยับเขยื้อน,มันยังคงอยู่ที่จุดนั้น เอลวิโอโกรธมากเพราะไม่มีอะไรทำให้มันขยับได้ เขาพยายามกระตุ้นวัวด้วยการยิงธนูไปที่มัน แทนที่ธนูจะพุ่งไปที่วัว,ลูกธนูกลับพุ่งมาที่นักยิงธนูแทน
เอลวิโอ(Elvio) รู้สึกสิ้นหวังในการที่จะย้ายวัวของเขาออกจากวิหารนอกรีตนั้น เขาขอคำแนะนำจากพระสังฆราชลอเรนโซ ไมโอราโนแห่งซิปอนทัม(Bishop Lorenzo Maiorano of Sipontum) พระสังฆราชไมโอราโน,สงสัยว่ามีบางสิ่งแปลกๆ ท่านสั่งให้ทำการสวดภาวนาและทำพลีกรรมเป็นเวลา 3 วัน เมื่อสิ้นสุดวันที่ 3 นักบุญมีคาแอลได้ประจักษ์แก่พระสังฆราชและประกาศว่า "ข้าพเจ้าเป็นผู้รักษาสถานที่นี้" ด้วยความมั่นใจว่าที่นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระสังฆราชจึงนำผู้คนแห่ขบวนมาสวดภาวนาที่ปากถ้ำ แต่ยังไม่กล้าเข้าไปในสถานที่ที่คนนอกศาสนาเคยบูชารูปเคารพของพวกเขา
2 ปีต่อมา ราชอาณาจักรถูกโจมตีโดยกษัตริย์โอโดเอเซอร์หษัตริย์นอกรีต และกองทัพคาทอลิกก็ต่อสู้แต่เกือบพ่ายแพ้ พระสังฆราชไมโอราโนได้นำผู้คนของท่านในการสวดภาวนาและทำพลีกรรมเป็นเวลา 3 วัน,แล้วนักบุญมีคาแอลก็ประจักษ์ต่อพระสังฆราชผู้ศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง นักบุญมีคาแอลรับรองกับพระสังฆราชว่าจะให้ความช่วยเหลือเหนือธรรมชาติแก่กองทัพคาทอลิกเพื่อต่อสู้กับพวกนอกศาสนา ระหว่างการสู้รบที่ตามมา,ได้เกิดพายุลูกเห็บและทรายตกลงมาจากท้องฟ้า และทำให้คนนอกศาสนากลัวมากจนต้องยกกองทัพถอยกลับไปโดยเร็วที่สุด
เป็นครั้งที่สองที่พระสังฆราชนำขบวนไปยังปากถ้ำเพื่อขอบคุณนักบุญมีคาแอล แต่พวกเขาหยุดที่หน้าถ้ำนั้น,ไม่เข้าไปเพราะกลัวพวกนอกรีต ต่อมา,พระสันตะปาปาในสมัยนั้น,เมื่อพระองค์ได้ยินเรื่องการประจักษ์ของนักบุญมีคาแอลซึ่งเปิดเผยว่าท่านเป็น "ผู้ดูแล" ถ้ำนี้ พระองค์ได้สั่งการให้พระสังหราชไมโอราโนเข้าไปในถ้ำและสร้างโบสถ์ด้วย เมื่อพระสังฆราชไมโอราโนเข้าไปในถ้ำเป็นครั้งแรกโดยมีเจตนาจะประกอบพิธีถวายถ้ำให้แก่นักบุญมีคาแอล, นักบุญมีคาแอลก็ปรากฏแก่ท่านและบอกท่านว่า ไม่จำเป็นต้องประกอบพิธีถวายถ้ำเพราะถ้ำนี้ได้รับการทำให้ศักดิ์สิทธิ์แล้วโดยการปรากฏตัวของทูตสวรรค์ จิตวิญญาณของนักบุญมีคาแอลได้ซึมซับเข้าไปในกำแพงหินและทำให้ทุกรอยแยกได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ นอกจากนี้ พระสังฆราชยังพบแท่นหินที่ประดับประดาด้วยผ้าสีแดงผืนใหญ่ที่ปักเป็นรูปกางเขนประดับด้วยคริสตัลแวววาว พระสังราชไมโอราโนได้สร้างโบสถ์ไว้ด้านข้างของถ้ำและอุทิศให้กับนักบุญมีคาแอลเมื่อวันที่ 29 กันยายน 493
ในศตวรรษที่ 13 นักบุญฟรังซิสแห่งอัสซีซีได้มาแสวงบุญที่ถ้ำนี้ แต่ท่านคิดว่าตนเองไม่ดีพอที่จะเข้าไปในถ้ำของนักบุญมีคาแอล,จึงได้เฝ้าสวดภาวนาอยู่นอกถ้ำเป็นเวลา 30 วัน
ในศตวรรษที่ 20 คุณพ่อปีโอมักจะส่งผู้ที่ถูกครอบงำจากปีศาจให้ไปที่ถ้ำของนักบุญมีคาแอล เพื่อที่ว่าเมื่อพวกเขาอยู่ภายในกำแพงถ้ำที่ได้รับพรจากจิตวิญญาณของนักบุญมีคาแอลแล้ว, วิญญาณชั่วร้ายที่ครอบครองร่างของพวกเขาจะหนีไป และเขาจะได้รับการปลดปล่อย
ถ้าไม่ใช่เพราะการป้องกันที่ผมได้รับจากพระธาตุก้อนหินของนักบุญมีคาแอล,การเขียนของผมเกี่ยวกับคุณพ่อปีโอก็คงจะไม่สำเร็จ ในหนังสือของ Adam Blai ชื่อ The Catholic Guide to Miracles เล่าว่าหินของนักบุญสามารถป้องกันโรคระบาดและความเจ็บป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ หินพระธาตุสามารถใช้ในลักษณะเดียวกับพระธาตุชั้นหนึ่งของนักบุญที่มักใช้ในการไล่ปีศาจได้ด้วย”
Blai ยังแนะนำวิธีใช้หินพระธาตุนักบุญมีคาแอลให้ได้รับประโยชน์สูงสุดเพื่อขอให้นักบุญมีคาแอลเข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือในการต่อสู้กับพลังแห่งนรก Blaiเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการครอบงำของปีศาจและมีประสบการณ์มากมายในการช่วยเหลือการไล่ปีศาจ เขาได้เห็นกับตาว่า "บทภาวนาของนักบุญมีคาแอลที่ผู้มีความเชื่อใช้สวดนั้นมีผลอย่างมากในระหว่างการไล่ปีศาจ"
นอกจากนี้ Blaiยังเห็นประสิทธิภาพของการใช้รูปภาพของนักบุญมีคาแอลในการไล่ปีศาจด้วย และเขาเผยให้ผู้อ่านฟังว่า "เราเคยเห็นปีศาจพูดกับนักบุญมีคาแอลในรูปภาพไอคอนหลายครั้งแม้ในขณะที่เขาถือรูปภาพไอคอนอยู่ แต่เขามองไม่เห็นว่าเป็นใคร...รูปภาพเป็นหน้าต่างสู่ความเป็นจริงทางจิตวิญญาณที่พวกเขาบรรยายไว้" ปิศาจที่เข้าสิงร่างของบุคคลได้บอกกับอดัม แบลเป็นประจำว่านักบุญมีคาแอลเป็นทูตสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหม
ผมขอให้ทุกคนมีความสุขในวันฉลองของอัครเทวดา!
* * *
บทความอ้างอิงจากหนังสือของ Adam Blai, The Catholic Guide to Miracles ผมขอแนะนำคุณให้ซื้อหนังสือนี้
สำหรับวิธีที่คุณจะได้รับรูปภาพไอคอนของนักบุญมีคาแอล อาจเริ่มต้นด้วยการพิมพ์ภาพวาดคลาสสิกของนักบุญมีคาแอล มีผลงานมากมายที่เป็นสาธารณ - จากนั้นก็นำรูปภาพไปให้พระสงฆ์เสกอวยพร
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น