San Damiano, Italy (1961-1970) “Our Lady Of Roses”
โรซ่า ควอทรีนี(Rosa Quattrini) เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 1909 ในเมืองซานโตมินโต(Santominto)ประเทศอิตาลี พ่อแม่ของเธอเป็นผู้มีความศรัทธาและเคร่งครัดมาก – โดยเฉพาะบิดาผู้มีความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้าในการสวดสายประคำ ถ้าเขากลับบ้านช้าในตอนดึก,เขาก็จะปลุกลูกๆให้ลุกขึ้นมาสวดสายประคำกันทั้งครอบครัว ผู้เป็นพ่อเป็นชาวนาที่ยากจนและเขาเสียชีวิตเมื่อเธออายุแค่สองขวบ พี่สาวทั้งสามของเธอเข้าสู่ชีวิตนักบวชในคณะที่แตกต่างกัน คนหนึ่งเป็นมิชชันนารีที่บราซิล อีกคนหนึ่งทำงานกับคนโรคเรื้อนในศรีลังกา; คนที่สามอยู่ในคณะคาร์เมลไลท์ โจเซฟ สามีของโรซ่าให้ความช่วยเหลือเธออย่างดี เขามีนิสัยดี สุภาพ เรียบร้อย เขาได้ช่วยเหลือสิ่งต่างๆเมื่อการประจักษ์เริ่มเกิดขึ้นบนที่ดินของพวกเขา
หลังจากที่โรซ่าเป็นแม่ของลูกสามคน,เธอก็เจ็บป่วยเรื่อยมาเป็นเวลานานมากกว่าสิบปี เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและแพทย์พบว่าเธอมีเนื้องอกที่อยู่ในระยะ “รุนแรงมากแล้ว” ซึ่งทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนร้ายแรงอื่นๆ แพทย์บอกพวกเขาให้พาเธอกลับบ้านเพื่อรอวันตาย
ระหว่างที่ป่วยหนักและรอความตายอยู่ที่บ้าน,โรซ่าได้รับการเยี่ยมเยือนจากผู้หญิงชาวนาผู้หนึ่ง อาเดล,ป้าของโรซ่าอนุญาตให้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้าน หญิงสาวที่มาเยี่ยมนี้ยังอ่อนเยาว์และสวยงาม เธอสวมกระโปรงหลากสี,ใส่เสื้อเบลาส์ และมีผ้าคลุมศีรษะเล็กๆ หญิงสาวมาขอเงินทำบุญให้คุณพ่อปีโอเพื่อจุดเทียนสามเล่มในโบสถ์ ป้าของโรซ่าตอบว่าพวกเขามีเงินไม่พอที่จะทำสิ่งนี้และแถมยังมีญาติที่กำลังป่วยอยู่ด้วย หญิงสาวผู้มาเยี่ยมยังคงยืนยันที่จะพบกับโรซ่า โรซ่าตอบว่าเธอมีความศรัทธาในคุณพ่อปีโอเป็นอย่างมาก
picture #1: โรซ่า ควอทรีนี,ผู้เห็นแม่พระ
เมื่อเสียงระฆังโบสถ์เริ่มดังขึ้นสำหรับการสวดภาวนาบททูตสวรรค์แจ้งสาร หญิงสาวที่สวยงามผู้มาเยือนขอให้โรซ่าสวดภาวนาพร้อมกับเธอ จากนั้นหญิงสาวก็ชวนเชิญให้โรซ่าสวดภาวนาบทข้าแต่พระบิดา 5 บท,วันทามารีอา 5 บท,และพระสิริรุ่งโรจน์ 5 บทเพื่อเป็นเกียรติแก่บาดแผลทั้งห้าของพระเยซูเจ้าตามความตั้งใจของคุณพ่อปีโอ หลังจากสวดภาวนาเสร็จแล้ว,ผู้มาเยือนวัยเยาว์บอกให้โรซ่ายืนขึ้น โรซ่าตอบว่าเธอป่วยเกินไปที่จะทำเช่นนั้นได้ แต่หญิงสาวจับมือของโรซ่า,แล้วโรซ่าก็ต้องประหลาดใจที่เธอสามารถยืนได้ จากนั้นหญิงสาววางมือบนร่างกายของโรซ่าส่วนที่เจ็บปวด และโรซ่าก็หายจากอาการป่วยทั้งหมดทันที
หญิงสาวผู้เป็นแขกที่ลึกลับจึงสั่งให้ป้าอาเดลหยิบแก้วน้ำมาหนึ่งใบ แล้วหญิงสาวก็ใส่ดินที่นำมาจากแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ลงไปในแก้วน้ำนั้น3กรัม,ใส่ใบมะกอกแห้งสามใบและเศษเทียนชิ้นเล็กๆ และสั่งโรซาให้ดื่มส่วนผสมนี้เวลา 5.00 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้น ซึ่งตรงกับวันและเวลาที่คุณพ่อปีโอเริ่มต้นประกอบพิธีมิสซาพอดี การรักษาอัศจรรย์นี้เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 1961 ซึ่งเป็นวันฉลองนักบุญอัครเทวดามีคาแอล
หลังจากเหตุการณ์อัศจรรย์นี้,โรซ่ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไปเยี่ยมคุณพ่อปีโอที่ซานจีโอวานนี รอตตอนโด
เพื่อนคนหนึ่งช่วยจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้โรซ่ารวมทั้งเงินค่าเดินทางด้วย เธอเดินทางไปกับกลุ่มผู้แสวงบุญที่กำลังจะไปที่นั่น เมื่อมาถึงลานหน้าโบสถ์,หญิงสาวผู้หนึ่งเรียกชื่อโรซ่า โรซ่าจำผู้หญิงคนนั้นได้ว่าเป็นคนเดียวกับหญิงสาวที่มาเยี่ยมเธอและช่วยรักษาเธอ หญิงสาวที่สวยงามตอบโรซ่าว่า “ใช่แล้ว,เราคือแม่พระแห่งการปลอบประโลมผู้ยากไร้”
ในระหว่างการสารภาพบาปกับคุณพ่อปีโอ, คุณพ่อปีโอบอกโรซ่าให้เตรียมตัวสำหรับภารกิจที่สำคัญ ท่านสั่งให้เธอไปช่วยดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่อยู่บริเวณใกล้กับเมือง Piacenza, เป็นเมืองที่มีประชากร 100,000 คน โรซ่าทำตามที่คุณพ่อปีโอสั่งและเธอพักอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย โดยไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลาถึงสองปี หลังจากผ่านไปสองปี,คุณพ่อปีโอก็บอกให้โรซ่ากลับไปที่บ้านและรอที่จะรับภารกิจจากพระแม่มารีย์
ในวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 1964,มีเพื่อนคนหนึ่งมาเยี่ยมโรซ่าที่บ้าน โรซ่ามีความรู้สึกว่ากำลังจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น แล้วมีเสียงบอกเธอว่า “จงออกจากห้อง” โรซ่าเชื่อฟังแล้วออกไปข้างนอก เธอถูกดึงดูดให้ไปทางต้นแพร์ที่อยู่ใกล้ๆไร่องุ่น เธอเริ่มสวดสายประคำกับเพื่อนของเธอ หลังจากสวดสายประคำทศแรกเสร็จ,มีแสงระยิบระยับปกคลุมต้นแพร์ นั่นเป็นปรากฏการณ์แรกเมื่อแม่พระทรงประจักษ์มา พระแม่มารีย์ทรงปรากฏเหนือต้นแพร์ แม่พระตรัสกับโรซ่าว่า พระนางทรงแสดงองค์แก่หลายคนให้ได้รู้จัก แต่น้อยคนนักที่จะฟังหรือเอาใจใส่พระดำรัสของพระนาง. แม่พระทรงขอความช่วยเหลือจากโรซ่า อย่างไรก็ตาม,โรซ่ายืนยันว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงที่ธรรมดาเกินไป,เป็นคนซื่อๆและโง่เขลา – และจะไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ!
picture #2: โรซ่า ควอทรีนี,ผู้เห็นแม่พระ
พระแม่มารีย์ตรัสว่า “อย่ากลัวเลย แม่จะให้หมายสำคัญ(เพื่อที่คนอื่นจะได้เชื่อ) แม่จะมอบสาส์นแก่ลูกและลูกจะต้องประกาศให้โลกรู้” พระดำรัสนี้ทำให้โรซ่ามีความมั่นใจมากขึ้นว่าพระแม่มารีย์จะทรงเป็นผู้ “กระทำทุกอย่าง” ตราบเท่าที่โรซ่ายอมรับภารกิจนี้ อัศจรรย์ครั้งแรกเกิดขึ้นในต้นฤดูใบไม้ร่วงของปีนั้น ต้นแพร์ที่พระแม่มารีย์ทรงประจักษ์มาได้ผลิดอกบานสะพรั่งทั่วทั้งต้นในทันทีทันใด ดอกสีขาวจำนวนมากส่งกลิ่นหอมหวานที่แรงมาก วันที่ 29 กันยายน 1967,ตรงกับวันฉลองนักบุญอัครเทวดามีคาเอล,ต้นแพร์ได้ผลิดอกเบ่งบานทั่วทั้งต้นอีกครั้ง และผู้แสวบุญได้ถ่ายรูปไว้มากมาย ดอกไม้ยังคงอยู่บนต้นไม้เป็นเวลานานหลายวันโดยไม่มีร่องรอยของการเสื่อมสภาพหรือเหี่ยวเฉาแต่อย่างใด.
สามปีพอดีหลังจากที่พระแม่มารีย์ทรงสัญญาว่าจะจัดเตรียม“หมายสำคัญ”ไว้ให้ และทรงอนุญาตให้ถ่ายภาพพระนางบนต้นแพร์อีกด้วย แม่พระทรงยืนยันโดยมีถ้อยคำต่อไปนี้ในสาส์นของพระนางที่มอบให้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1968 ดังนี้:
“ตอนนี้แม่จะบอกความลับแก่ลูก แม่จะบอกลูกทั้งๆที่ลูกไม่เชื่อ แม่จะบอกลูกว่าจะให้ใครเป็นคนถ่ายรูปซึ่งจะมีรูปภาพของแม่ติดอยู่ …”
ในระหว่างการประจักษ์หลายครั้ง ดวงอาทิตย์จะเริ่มหมุนติ้วหรือหมุนเป็นวงโคจรและสาดส่องลำแสงหลากสีออกไป บ้างครั้งแสงอาทิตย์จะสลัวลงจนอยู่ในระดับที่สามารถมองดูดวงอาทิตย์ได้โดยไม่เกิดผลร้ายต่อดวงตาแม้แต่น้อย และสิ่งนี้คงอยู่ตลอดระยะเวลาของการประจักษ์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่แสงสลัวมากจนเห็นแสงเป็นเส้นขอบบางๆของดวงอาทิตย์เท่านั้น ทำให้ดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นวงแหวนเรืองแสง
พระแม่มารีย์ทรงประสงค์ให้ถ่ายรูปในระหว่างการประจักษ์ บางครั้งโรซ่าจะหยุดสวดสายประคำชั่วครู่เพื่อประกาศว่า “เริ่มถ่ายรูปได้แล้ว” บางครั้งโรซ่ายังได้รับการบอกจากแม่พระว่าควรจะให้ใครเป็นผู้ถ่ายรูปภาพ.
มีหมายสำคัญมากมายที่แตกต่างกันปรากฏในภาพถ่ายเหล่านี้ (รูปถ่ายทั้งที่เป็นสีขาวดำและสีธรรมชาติ) อาทิเช่น กางเขนแสงสีขาวหลายอันบนท้องฟ้า,ดวงอาทิตย์หมุนอยู่บริเวณจุดตัดของกางเขนแสงสีขาวเหล่านี้ แสงที่เป็นวงกลมซึ่งประกอบด้วยแสงรังสีวงกลมเล็กๆหรือ “หยาด” วงกลมสิบเม็ด, รังสีแสงสีต่างๆ, สามเหลี่ยมในท้องฟ้า แถบแนวนอน, หรือเสาแห่งแสงแนวตั้ง, รูปภาพของนักพรตผู้หนึ่งที่แขวนอยู่ในอากาศ,หรือดวงอาทิตย์คู่ ฯลฯ ดร.ปิแอร์ เวเบอร์(Doctor Pierre Weber) วิศวกรวิจัยที่สำนักงานการศึกษาและวิจัยทางอากาศและอวกาศแห่งชาติในกรุงปารีสร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของการวิจัยอวกาศและอุตุนิยมวิทยาได้ “ตรวจสอบภาพถ่ายอย่างจริงจัง” หลังจากที่ตรวจสอบพิจารณาและถกเถียงกัน,ทุกฝ่ายก็ตกอยู่ในความเงียบโดยไม่สามารถหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้แม้แต่ประการเดียว
มีรายงานของอัศจรรย์ด้วย ผู้คนหายจากอาการตาบอด,หูหนวก,อัมพาต,และโรคอื่นๆ บางคนกลับใจ หลายพันคนได้รับความเข้มแข็งในความเชื่อและตั้งปณิธานที่จะดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับคำสอนของพระเยซูเจ้า บ่อน้ำข้างต้นแพร์เป็นที่รู้กันว่ามีน้ำที่มีสรรพคุณรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ แม่พระได้ตรัสสั่งให้ขุดบ่อน้ำตรงบริเวณนั้น,ภายหลังการประจักษ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1964
picture #3: รูปปั้นแม่พระแห่งซานดามีอาโน
กลิ่นหอมที่แรงและละมุนละมัย—คล้ายกับกลิ่นหอมที่คุณพ่อปีโอเคยได้กลิ่นที่โบสถ์ของท่าน –กลิ่นนี้เกิดขึ้นในโบสถ์น้อยของโรซ่าและในห้องรับแขก บางทีกลิ่นหอมหวานนี้ ก็หอมฟุ้งลอยจากบ้านของโรซ่าไปถึงโบสถ์ท้องถิ่น โดยผู้ที่กำลังเดินทางไปร่วมพิธีมิสซาจะได้กลิ่นหอมนี้
นักท่องเที่ยวต่างชาติพวกแรกที่มายังสถานที่แห่งการประจักษ์นี้คือลูกพี่ลูกน้องสามคนของซิสเตอร์ลูซีอา,ผู้เห็นแม่พระแห่งฟาติมา อย่างไรก็ตาม,ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?หรือพวกเขามาพบเมืองเล็กๆแห่งนี้ได้อย่างไร? เมืองที่มีผู้อาศัยอยู่เพียง150 คนและอยู่ห่างประมาณ 70 กิโลเมตรจากมิลาน
อาจมีคนสงสัยว่าโรซ่าจะตอบจดหมายจำนวนมากที่มีคนส่งมาได้อย่างไร?จดหมายจำนวนมากที่ได้รับในแต่ละวัน เมื่อพิจารณาถึงการศึกษาและภูมิหลังของโรซ่าแล้ว,มันเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์ปุถุชนเช่นเธอที่จะตอบได้อย่างเพียงพอ,รวดเร็ว,และอย่างชาญฉลาดต่อคำถามในประเด็นที่ซับซ้อนมากมายที่หยิบยกขึ้นมาโดยผู้ที่เขียนจดหมาย โรซ่าจะนั่งหรือสวดภาวนาต่อหน้าพระรูปแม่พระที่สวยงาม ขณะที่ฟังมาร์การิต้า(Margherita) เลขาของเธออ่านจดหมายแต่ละฉบับให้ฟัง โรซ่ากล่าวว่าพระมารดาจะประทานคำตอบแก่เธอ โดยตรัสช้าๆเพื่อที่เลขาฯผู้นั้นจะได้เขียนบันทึก “คำตอบจากสวรรค์” ได้อย่างแม่นยำเหมือนกับที่โรซ่าได้ยินและบอกต่อให้กับเธอ
ในการสังเกตการณ์ระหว่างการประจักษ์,โรซ่าดูเหมือนจะอยู่ในภวังค์,ศีรษะของเธอแหงนหน้าขึ้นมองและเชื่องช้าในการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง เธอกระพริบตาเป็นครั้งคราว. บางครั้งโรซ่าจะพูดสองสามคำเช่น “นักบุญมีคาแอลได้ปรากฏมา” หรือ “แม่พระมีสาส์นถึงทุกคน”
วันที่ 8 ธันวาคม 1967 อันเป็นวันฉลองแม่พระทรงปฏิสนธินิรมล มีคนประมาณ 2,000 คนได้อยู่ร่วมในการประจักษ์ครั้งนี้ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนเหล่านี้มาจากต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศของฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์, เยอรมนี, ยูโกสลาเวีย, ออสเตรีย, เอกวาดอร์, แคนาดา,และสหรัฐอเมริกา พวกเขาเห็นดวงอาทิตย์หมุนเป็นเวลานานชั่วโมงกว่าๆ ดวงอาทิตย์สาดแสงกระจายออกไปเป็นรังสีหลากสี ดวงอาทิตย์เป็นสีดำมืดสนิทโดยมีเพียงขอบด้านนอกของดวงอาทิตย์เท่านั้นที่มองเห็นได้ - เหมือนในช่วงสุริยุปราคา หนึ่งปีให้หลังในวันเดียวกันนี้,มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 10,000 คน,นางเทินเนอร์(Miss Turner) ที่มาจากนิวยอร์คเป็นคนโชคดีที่ได้เห็นโครงร่างของแม่พระ
picture #4: รูปถาพดวงอาทิตย์ที่มีแม่พระประทับอยู่ด้านบน
สาส์น
11 กุมภาพันธ์ 1967
“จงสวดสายประคำบ่อยๆ,ถ้าลูกสัญญาว่าจะสวดสายประคำ,แม่ก็ขอสัญญาว่าลูกจะได้รับสง่าราศีแห่งสวรรค์ จงไปรับพระเยซูบ่อยๆ”
2 มิถุนายน 1967
“จงใช้การสวดภาวนาของลูกและสายประคำ – ซึ่งเป็นอาวุธทรงอานุภาพเป็นอย่างยิ่ง,ลูกทั้งหลายของแม่,จงสวดสายประคำและละทิ้งงานอย่างอื่นทั้งหมดซึ่งไม่มีประโยชน์ สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือโลก”
30 มิถุนายน 1967
“พระบิดาสวรรค์ของลูกรักลูกและทรงประสงค์จะได้รับความรักโดยการสวดสายประคำ สายประคำเป็นอาวุธที่สามารถหาได้ซึ่งจะช่วยลูกเองให้รอด ผู้เป็นแม่ทั้งหลาย,จงให้ลูกๆสวดภาวนา”
22 มีนาคม 1968
“จงทำชั่วโมงศักดิ์สิทธิ์และสวดสายประคำมากๆ เพราะสายประคำเป็นอาวุธทรงอานุภาพสำหรับความรอดพ้น”
27 ตุลาคม 1968 (จากพระเยซู)
“ดวงหทัยของพระมารดาของเราจะได้รับชัยชนะ,และรัชสมัยการปกครองของเราจะมาสู่โลกทั้งโลก ถ้าลูกฟังเรา,ลูกจะได้รับพระหรรษทานอย่างอุดมบริบูรณ์ แต่ถ้าลูกไม่ฟังวาจาของเรา,การลงโทษอันหนักหน่วงจะมา.....อย่าให้ตัวของลูกถูกยึดครองด้วยสิ่งของที่เป็นของโลก! เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และความตายก็ใกล้เข้ามา การลงโทษอันหนักหน่วงกำลังใกล้เข้ามาแล้ว”
21 มีนาคม 1969
“แม่ร้องไห้มากยิ่งนัก แม่หลั่งน้ำตาเป็นโลหิตซี่งหลั่งออกมาเนื่องจากมองเห็นลูกจำนวนมากมายของแม่กำลังอยู่ขอบเหวของนรก.....จงสวดภาวนาเถิด,ลูกที่รักทั้งหลายของแม่,ในช่วงเวลาเหล่านี้มันน่ากลัวมาก จงไปเฝ้าศีลมหาสนิทและทำกิจชดเชยใช้โทษบาปสำหรับบาปหนักที่มนุษยชาติได้กระทำ ในความเงียบลูกจะเข้าใจ แม่เป็นพระมารดาแห่งความทุกข์ที่คอยเฝ้าปลอบประโลมใจลูกทั้งหลายของแม่”
picture #5: รูปภาพหนึ่งของพระแม่มารีย์บนท้องฟ้าที่ถูกถ่ายไว้ได้
25 เมษายน 1969
“พระเยซูคือความรักทั้งหมด,พระเยซูคือพระเมตตาทั้งหมด จงสวดภาวนา,สวดภาวนา,เพื่อที่พระเยซูจะทรงสงสาร พระเยซูจะทรงบรรเทาใจหัวใจของลูกเพราะช่วงเวลานี้นั้นน่าเศร้านัก ลูกที่รักทั้งหลายของแม่,ปีศาจกำลังทำสงครามครั้งยิ่งใหญ่ มันได้รับอิสระที่จะทำทุกอย่างที่มันต้องการจนถึงจุดที่พระบิดานิรันดรทรงประทานอนุญาตให้แก่มัน.....แม่เป็นมารดา,แม่เป็นราชินี,แม่เป็นทนายแก้ต่าง แม่เป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทาน,แม่พระเป็นมารดาของผู้ยากไร้,แม่เป็นมารดาแห่งการปลอบบรรเทาใจ,และแม่สามารถให้ทุกสิ่งแก่ผู้ที่มาหาแม่,ให้พวกเขาได้ทั้งหมด”
8 พฤษภาคม 1969
“แม่ต้องการให้พวกลูกถือสายประคำไว้ในมือของลูก สายประคำนี้คือเครื่องประกันความรอดพ้นของลูก เพราะสิ่งนี้แม่จึงมายังโลก แม่ต้องการให้ทุกคนสวดสายประคำซึ่งเป็นอาวุธทรงอานุภาพมากที่สุดในการช่วยเหลือตัวลูกเอง,ในการได้รับพระหรรษทาน,และในการได้รับความบรรเทาในระหว่างชั่วโมงที่น่าเศร้านี้ จงถือสายประคำในมือไว้ให้มั่น สวมใส่ไว้ที่คอและอย่าลืมสายประคำเป็นอันขาด”
2 สิงหาคม 1969
“จงมาหาแม่บ่อยๆด้วยการสวดสายประคำ อย่าละทิ้งอาวุธแห่งสายประคำนี้แต่จงถือไว้ให้มั่นในมือของลูก เพราะมันจะนำความปลอดภัยมาให้แก่ลูกในอันตรายทุกประการ”
6 สิงหาคม 1969
“ถ้าลูกมีพระเยซูอยู่ในหัวใจของลูกและมีสายประคำเป็นอาวุธของลูก,สายประคำที่อยู่ในมือของลูก แม่จะไม่ละทิ้งลูกเลย แม่จะช่วยเหลือลูกเสมอและจะประทานพละกำลังแก่ลูกให้มีชัยชนะในทุกสมรภูมิ”
15 สิงหาคม 1969
“ที่นี่,ใกล้ๆกับลูก,แม่มีทูตสวรรค์,บรรดานักบุญ,และอารักขเทวดาของพวกลูกอยู่ล้อมรอบแม่....จงมีใจสงบเถิด,ลูกทั้งหลายของแม่,จงสวดภาวนา,สวดภาวนา,สวดภาวนาและจงสงบเงียบ เพราะศัตรูกำลังทำงานในการสร้างความหายนะ การต่อสู้กำลังเป็นไปอย่างหนักหน่วง,แต่ลูกจะได้รับชัยชนะต่อทุกสิ่งและโดยผ่านทางทุกสิ่งเพราะแม่คือพระมารดาและผู้ร่วมการไถ่กู้ของมนุษย์ทุกคน....จงสวดภาวนาสำหรับเยาวชนทุกคนเพื่อที่พวกเขาจะสามารถเบ่งบานในโลกและกลายเป็นต้นแบบ,เป็นแบบอย่างเหมือนที่พระเยซูทรงเป็นเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงอยู่บนแผ่นดินโลก แม่รักเยาวชนเป็นอย่างมาก แม้แต่พระเยซู,องค์พระบุตรของแม่,ก็ทรงถูกแวดล้อมด้วยบรรดาเยาวชนผู้ซึ่งพระองค์ทรงรักพวกเขาเป็นอย่างมาก แม่ได้หลั่งพระหรรษทานมากมายลงมาเหนือพวกเขาและได้ประทานพระพรมากมาย แม่ประทานความรักและสันติสุขมากมายแก่ดวงใจของพวกเขา เยาวชนเอ๋ย,เยาวชน,จงมาอยู่ภายใต้ผ้าคลุมกายของแม่เถิด จงมาอยู่ใกล้ๆแม่เพราะแม่เป็นมารดาของทุกคน แม่เป็นมารดาแห่งความรักและเป็นที่ปรึกษา แม่เป็นทนายแก้ต่าง,แม่เป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทาน และแม่รักพวกลูกมาก”
16 สิงหาคม 1969
“จงให้สัญญากับแม่,ลูกทั้งหลายของแม่-ให้สัญญากับแม่ที่จะช่วยปลดปล่อยวิญญาณในไฟชำระที่ถูกลืมมากที่สุด! ลูกสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยการสวดภาวนา,ด้วยการทำพลีกรรม,ด้วยการสวดสายประคำต่อพระเยซูผู้ประทับในหัวใจของลูก....แล้วลูกจะปลดปล่อยวิญญาณมากมาย! จงฟังแม่เถิด,เพราะพวกเขาก็จะสวดภาวนาเพื่อลูกด้วยเช่นกัน พวกเขาจะช่วยเหลือลูกไปตลอดเส้นทางแห่งชีวิตของลูก”
picture #6: โรซ่ามอบสาส์นของแม่พระให้พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2
12 กันยายน 1969
“จงสวดภาวนาสำหรับทุกคน,สวดสำหรับคนที่ไม่เชื่อ, สำหรับคนที่ไม่รักแม่,และสำหรับคนที่ไม่ต้องการรู้จักแม่....เพราะแม่เป็นมารดาของพระเจ้า....แม่เป็นแม่ของลูก.....เพราะแม่สามารถช่วยลูกให้รอดได้ ถูกแล้ว,ลูกที่รักทั้งหลายของแม่,จงเตรียมตัวไว้เสมอ,จงให้สายตาของลูกจับจ้องอยู่ที่สวรรค์เสมอและวอนขอพระเมตตาสำหรับทุกคน,สำหรับคนที่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อแม่เป็นอย่างมาก อาศัยการสวดภาวนาและการทำกิจใช้โทษบาป,ลูกจะได้รับทุกสิ่ง ลูกที่รักทั้งหลายของแม่,จงอย่าเบื่อหน่ายย่อท้อ,จงมาอยู่แทบบาทของแม่และวอนขอพระหรรษทาน จงอยู่ภายใต้ผ้าคลุมกายของแม่ที่ซึ่งลูกจะได้รับการปกป้อง แม่เรียกโลกทั้งหมดให้มาอยู่แทบบาทของแม่ แม่ให้ความบันดาลใจแก่ทุกคน และแม่ส่งทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์ของแม่มายังทุกคนบนโลกเพราะแม่ต้องการให้ลูกทุกคนได้รับความรอด”
24 ตุลาคม 1969
“ลูกที่รักทั้งหลายของแม่,แม่อยู่ที่นี่อยู่ท่ามกลางพวกลูกพร้อมด้วยทูตสวรรค์และบรรดานักบุญมากมาย....อัครเทวดาราฟาแอลเป็นผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างพระเยซูในศีลมหาสนิทพร้อมกับเครูบิมสามองค์และเซราฟิมสามองค์ พวกท่านยืนเฝ้าอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน และพวกท่านเคารพบูชาพระองค์ ,ขอบพระคุณพระองค์,และรักพระองค์ พวกลูกก็เช่นเดียวกัน,ลูกทั้งหลายของแม่,ควรจะไปอยู่แทบพระแท่นบูชา,ที่ซึ่งพระเยซูทรงประทับอยู่อย่างแท้จริงในศีลมหาสนิท จงเคาะประตูแห่งพระแท่นบูชาเพื่อที่พระเยซูจะทรงเปิด และพระองค์จะทรงเปิดดวงใจของลูกและใส่เปลวไฟแห่งความรักต่อพระองค์ไว้ในนั้น จงเคาะประตู,เคาะประตู, - เพราะพระเยซูสามารถประทานทุกสิ่งแก่ลูก,ทั้งสิ่งที่เป็นฝ่ายวัตถุและสิ่งที่เป็นฝ่ายจิต เพราะพระเยซูทรงเป็นแหล่งที่มาแห่งพระหรรษทาน พระองค์ทรงพระเมตตา,และพระองค์สามารถประทานความรักมากมายแก่ลูก และพระองค์สามารถชำระล้างหัวใจของลูกให้บริสุทธิ์ด้วยความรักต่อพระองค์ จงไปบ่อยๆ,จงไปอยู่แทบพระบาทของพระเยซูในศีลมหาสนิท......วิญญาณหลายต่อหลายดวงสูญเสียไปเพราะพวกเขาไม่ฟังคำเตือนเยื่ยงมารดาของแม่ และเป็นเพราะพวกเขาไม่สวดสายประคำอีกต่อไป”
9 พฤศจิกายน 1969
“ลูกที่รักทั้งหลายของแม่,แม่มายังสถานที่นี้,เพื่อประทานพระหรรษทานแก่ลูก,ด้วยความรัก,ด้วยความเชื่อ,และด้วยความเมตตาอันยิ่งใหญ่ เพราะแม่คือมารดาของทุกคน แม่เรียกลูกทั้งวันทั้งคืนให้มายังสถานที่นี้ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ฟังแม่ หลายคนเยาะเย้ยแม่ หลายคนพูดตลกเกี่ยวกับแม่ หลายคนดูถูกแม่.....ลูกที่รักทั้งหลายของแม่เอ๋ย,แม่เรียกลูก,แม่อยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนเพื่อเรียกลูก เพราะแม่ เป็นแม่,เป็นมารดาของทุกคน เป็นองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน องค์อุปถัมภ์ของคนยากจน องค์อุปภัมภ์ของผู้ยากไร้ องค์อุปถัมภ์ของผู้ขัดสน แม่มาเพื่อปลอบบรรเทาใจลูก แม่เป็นทนายแก้ต่าง, แม่เป็นผู้แจกจ่ายพระหรรษทานทุกประการ,ซึ่งประทานแก่ผู้ที่วอนขอต่อแม่ อย่าวอนขอสิ่งใดเลยนอกจากความเชื่อและการสวดภาวนา ด้วยความเชื่อและการสวดภาวนา,ลูกจะมีชัยชนะต่อทุกสิ่งและจะมีทุกสิ่ง เพราะพระเมตตาของพระเจ้าจะปกคลุมลูกและช่วยเหลือลูก”
28 พฤศจิกายน 1969
“นักบุญมีคาแอลจะปกป้องลูกจากอันตรายทุกอย่าง,แต่จงเป็นหนึ่งเดียวกับแม่และพระเยซูโดยอาศัยสายประคำ,และโดยพระเยซูผู้ประทับอยู่ในหัวใจของลูก! แม่ขอย้ำว่า จงสวดสายประคำ! ขอให้นำสายประคำมาสวดเถิด! แม่ได้พูดซ้ำๆหลายครั้งแล้วว่า ด้วยการสวดสายประคำลูกจะมีพละกำลังเข้มแข็งที่จะเอาชนะการประจญ,เอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง,หรืออะไรก็ตามที่จะมา!”
6 ธันวาคม 1969
“ทำไมสิ่งต่างๆในโลกจึงเลวร้ายลง? ก็เพราะพวกลูกละทิ้งการสวดสายประคำ สายประคำที่แม่ได้แนะนำมานานนับศตวรรษแล้ว”
16 มกราคม 1970
“สายประคำคือสิ่งที่แม่แสดงแก่ลูกเสมอไม่ว่าแม่จะไปที่ไหน โดยสายประคำ,ลูกได้รับพระหรรษทานมากมาย,ได้รับความช่วยเหลือมากมาย,ได้รับพละกำลังมากมาย จงสวดสายประคำด้วยความเชื่อและความรัก”
picture #7: หนังสือที่ให้รายละเอียดเหตุการณ์ที่ซานดามีอาโน
26 มีนาคม 1970(จากพระเยซู)
“ขอให้พระจิตเจ้าทรงส่องสว่างแก่ลูกด้วยความรักของพระองค์ เพื่อที่ลูกจะได้เข้าใจว่าพระมารดาของเราและของลูกเสด็จมาเพื่อช่วยลูกให้รอด,เพื่อที่ลูกจะได้เข้าใจว่าพระนางทรงเป็นทุกข์เป็นอย่างมากเพื่อลูก พระนางเป็นทุกข์อย่างมากที่ใต้กางเขนเมื่อเราสิ้นพระชนม์บนกางเขน เพื่อที่ลูกจะได้เข้าใจว่าโลหิตของเราได้ชำระล้างลูกและทำให้ลูกศักดิ์สิทธิ์เหมาะสมกับสวรรค์ เราคือพระเยซูผู้ทรงชีวิต เราต้องการเข้าไปในหัวใจของลูกเพื่อเผาไหม้มันให้ร้อนรน เราต้องการเพิ่มพูนหัวใจของลูกด้วยพระหรรษทาน - พระหรรษทานฝ่ายจิตและพระหรรษทานปัจจุบัน มาเถิด!จงมายังงานเลี้ยงแห่งศีลมหาสนิท!จงมาและอย่าได้ชักช้าอยู่เลย เราจะให้อภัยลูก,จงสำรวจมโนธรรมอย่างดี จงเตรียมหัวใจของลูกให้บริสุทธิ์ดังหิมะ,แล้วเราจะเข้าไปในหัวใจของลูกด้วยความรักอย่างมาก อย่าไปห่วงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆของโลก! ทุกสิ่งจะจบสิ้น เรานำลูกมาอยู่ในโลกนี้เพื่อที่ลูกจะมาสู่อ้อมแขนของเรา ณ.เบื้องบน,ที่ซึ่งเรากำลังรอคอยลูกอยู่ด้วยความรักอย่างมาก ทุกสิ่งบนโลกนี้จะผ่านพ้นไป!ถ้าลูกฟังเรา, เรา,ซึ่งอยู่เคียงข้างพระบิดาสวรรค์ของเรา,จะลดการลงทัณฑ์ให้น้อยลง”
17 เมษายน 1970
“จงยึดแม่ไว้ให้มั่นด้วยสายประคำของลูกซึ่งเป็นพละกำลังของลูก, เป็นความช่วยเหลือของลูก,เป็นการปกป้องของลูกบนโลกนี้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความตายของลูก สายประคำเป็นเกราะป้องกันอันทรงพลังที่สุดของลูก”
16 พฤษภาคม 1970
“จงอย่าหยุดสวดภาวนา! อย่าหยุดสวดภาวนาด้วยสายประคำของลูก สายประคำซึ่งเป็นเกราะป้องกันของลูก!แม่ขอร้องลูกอย่างหนักแน่น ทุกครอบครัวควรสวดสายประคำ!”
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น