วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2565

การถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่แม่พระ

 


ผู้ที่ได้รับรอยแผลชาวอิตาลีผู้หนึ่งได้พูดเหมือนกับเป็นการทำนายล่วงหน้าเกี่ยวกับพระสันตะปาปาผู้ซึ่งจะเป็นผู้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ และพระสันตะปาปาองค์นั้นคือพระสันตะปาปาฟรังซิส เขาชื่อ อันโตนีโอ รัฟฟินี
 
อันโตนีโอ รัฟฟินี เกิดในวันที่ 8 ธันวาคม 1907 ที่โรม,ตรงกับวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล และได้รับชื่อตามชื่อของนักบุญแอนโทนีแห่งปาดัว บิดามารดาเป็นคนยากจนและมีความศรัทธามาก เขาได้เห็นพระเยซูและแม่พระครั้งแรกเมื่ออายุ 17 ปี เมื่อโตขึ้นเขาเก็บรวบรวมเงินเพื่อไปที่อัฟริกาในฐานะมิชชันนารีฆราวาส
 
เขาอยู่ที่อัฟริกาหนึ่งปี ไปตามหมู่บ้านต่างๆ เขาไปในกระท่อมของชาวบ้านเพื่อดูแลคนเจ็บป่วยและประกอบพิธีล้างบาปแก่เด็กที่เพิ่งเกิด เขากลับไปที่อัฟริกาอีกหลายครั้ง และดูเหมือนเขาจะได้รับพระพรในการที่สามารถพูดและเข้าใจภาษาที่นั่นได้ ทั้งที่ไม่เคยศึกษามาก่อน เขาพูดกับชนเผ่าต่างๆได้ และยังรักษาความป่วยไข้ได้ด้วยสมุนไพรที่พบบริเวณนั้นๆ
 
รัฟฟินีเริ่มได้รับรอยแผลในวันที่ 12 สิงหาคม 1951 ที่โบสถ์น้อยแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ที่ Via Appia, บริเวณที่อยู่ระหว่างโรมและ Terracina หลังจากได้รับรอยแผลที่มือและเท้า,รัฟฟินี่อุทิศชีวิตให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยการดูแลคนเจ็บป่วย,ทำงานการกุศล,และช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทางด้านจิตวิญญาณ
 
เขาได้รับรอยแผลเป็นเวลานานถึง 40 ปีเป็นรอยแผลที่เห็นได้อย่างชัดเจน พระสันตปาปาปีอุสที่12 ทรงอวยพรโบสถ์น้อยที่รัฟฟินีได้รับรอยแผลครั้งแรก และคุณพ่อโทมัสเซลลิได้เขียนหนังสือเล่มเล็กเกี่ยวกับรัฟฟินี ยังมีรายงานว่ารัฟฟินีอยู่สองแห่งในเวลาเดียวกันด้วย หลังจากได้รับรอยแผล,รัฟฟินีได้เข้าเป็นสมาชิกฟรังซิสกันขั้นที่สามและปฏิญาณถือศีลความนบนอบเชื่อฟัง เขาเป็นคนถ่อนตัว เมื่อใดก็ตามที่มีบางคนขอดูรอยแผล,เขาจะสวดภาวนาสั้นๆเบาๆ,จูบไม้กางเขน,และถอดถุงมือและพูดว่า “นี่ไง,พระเยซูทรงประทานรอยแผลเหล่านี้แก่ผม ถ้าพระองค์ประสงค์,พระองค์ก็สามารถนำกลับไปได้”
 
รัฟฟินีพูดเกี่ยวกับพระสันตะปาปา
 
คุณพ่อแครมเมอร์ได้เขียนความเห็นเกี่ยวกับอันโตนีโอ รัฟฟินีว่า “ผมรู้จักกับรัฟฟินีมาหลายปี ในตอนต้นปี 1990 ,รัฟฟินีได้พูดหลังจากถูกถามว่า “พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 คือพระสันตะปาปาที่ได้ทำพิธีถวายประเทศรัสเซียใช่ไหม?” เขาตอบว่า “ไม่ใช่,ไม่ใช่พระสันตะปาปายอห์นปอล และจะไม่ใช่ผู้ที่สืบต่อจากพระองค์ในทันทีด้วย, แต่จะเป็นผู้สืบต่อหลังจากนั้น ผู้นั้นแหละเป็นผู้ที่จะทำพิธีถวายประเทศรัสเซีย” (หมายเหตุ - ซึ่งน่าจะหมายถึงพระสันตะปาปาฟรังซิส นั่นเอง)
 
อันโตนีโอ รัฟฟินี เสียชีวิตเมื่ออายุ 92 ปี
 




                 * * * *

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 1992,พระคาร์ดินัลปาดิยาราแห่งเออร์นาคูลัม,อินเดีย(Padiyara of Ernaculam, India,)ได้ไปเยี่ยมซิสเตอร์ลูซีอาที่อารามในโกอิมบรา,ประเทศโปรตุเกส ท่านถามซิสเตอร์ว่า “เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 1984,พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้ทำตามคำขอร้องสำคัญของพระแม่มารีย์ นั่นคือการถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระนั้น,ได้สัมฤทธ์ผลตามคำขอร้องของแม่พระแล้วหรือไม่ ตามที่แม่พระตรัสกับบรรดาเด็กว่าจะทำให้รัสเซียกลับใจ” ซิสเตอร์ลูซีอาตอบว่า: “ใช่ค่ะ, ใช่. ใช่. การถวายได้ทำสำเร็จไปแล้วบางส่วน พระสันตะปาปาปิโอที่ 12 ทรงกระทำในปี 1942 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม แต่ไม่มีการร่วมกันของพระสังฆราชทั่วโลก,แต่ในที่สุดพระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ก็สามารถทำร่วมกับพระสังฆราชทั่วโลกได้ในปี 1984”
 

พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ประกอบพิธีนี้มาก่อนในปี 1982 (ซึ่งซิสเตอร์ลูซีอาก็อยู่ร่วมด้วย) แต่พิธีนี้ขาดการร่วมกันของพระสังฆราชทั่วโลก, แต่ในปี 1984 พระสันตปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงประกอบพิธีอีกครั้ง,และครั้งนี้มีพระสังฆราชทั่วโลกร่วมประกอบพิธีด้วย (โดยพระสังฆราชแต่ละท่านอยู่ที่สังฆมณฑลของตนในประเทศต่างๆ)
 
แม้กระนั้น,ชื่อของประเทศรัสเซียก็ไม่ได้ถูกเอ่ยถึง,ซิสเตอร์ลูซีอากล่าว “พระเจ้าทรงทราบดีว่าความตั้งใจของพระสันตปาปาคือรัสเซีย”
 

ผลจากการประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียยังทำให้เกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น นั่นคือการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในโปแลนด์ในปี 1989 ตามด้วยการล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าในเยอรมนีตะวันออก,เชโกสโลวาเกีย,ฮังการี,โรมาเนียและบัลแกเรีย (“การพังกำแพงเบอร์ลิน” และ“การพังทลายของม่านเหล็ก”)
 
ในการพบกันครั้งที่สองในอีกหนึ่งปีต่อมา - วันที่ 11 ตุลาคม 1993 – ซิสเตอร์ลูซีอากล่าวว่า เธอได้บอกกับพระคาร์ดินัลริคาร์โดวิดัลแห่งฟิลิปปินส์และคนอีก 8 คน (รวมทั้งพระสงฆ์สองท่าน) ว่า “การถวายในปี 1984 ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ที่จะ เกิดขึ้นในปี 1985” เธอกล่าวว่าชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของแม่พระได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่เป็น “กระบวนการที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องค่อยเป็นค่อยไป”
 
* * * * * *
 
พระสันตะปาปาฟรังซิสจะทรงประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่พระในวันที่ 25 มีนาคม 2022 เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (ห้าทุ่มที่ประเทศไทย) ด้านล่างนี้คือบทภาวนาถวายประเทศรัสเซียและยูเครนแด่แม่พระซึ่งจะใช้สวดในวันนั้น จะเห็นได้ว่ามีการระบุชื่อของรัสเซียและยูเครนไว้ด้วย(ในหน้าที่สอง)
 
พระสันตะปาปาทรงเชื้อเชิญพระสังฆราชคาทอลิกทั่วโลกอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมกับพระองค์ในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม เพื่อสวดอธิษฐาน “บทภาวนาถวายมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียและยูเครน ต่อดวงหทัยนิรมลของพระแม่มารีย์” 
พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสในจดหมายที่ส่งถึงพระสังฆราชทุกคนในวันพุธ 
ในจดหมายของพระองค์,พระสันตะปาปาทรงคร่ำครวญถึง “ความทุกข์ทรมานอันใหญ่หลวง” ที่สงครามในยูเครนส่งผลกระทบกับ “ประชาชนอย่างหนัก” และเท่ากับเป็นการ “คุกคามสันติภาพของโลก” 
“ในเวลาอันมืดมิดนี้ พระศาสนจักรได้รับเรียกอย่างเร่งด่วนให้อ้อนวอนต่อเจ้าชายแห่งสันติภาพ และเพื่อแสดงความใกล้ชิดของพระศาสนจักรต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากความขัดแย้ง”
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น