วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

การดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

 


By Fr Mario Attard OFM Cap
 
ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 17 จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2022 ผมได้รับพระหรรษทานได้ไปเยือนฝรั่งเศส,ที่ได้ชื่อว่าลูกสาวหัวปีของพระศาสนจักร ในประเทศที่น่าหลงใหลแห่งนี้ ซึ่งมอบนักบุญมากมายให้แก่โลก ผมมีความยินดีที่ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับงานเขียนของผู้รับใช้ของพระเจ้า”ลุยซา ปิกการ์เรตา” นับแต่นั้นเป็นต้นมา ผมมีความปรารถนาที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
 
การดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้า(Living the Divine Will)เป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ลึกลับของ ลุยซา ปิกการ์เรตากับพระเยซูเจ้า หนังสือของเธอซึ่งเขียนขึ้นจากประสบการณ์ของเธอนั้น,เป็นการใช้ภาษาที่เรียบง่ายและสวยงามประกอบด้วย ตัวอย่าง, เรื่องราวและภาพมากมาย ยิ่งคุณอ่านงานเขียนของเธอมากเท่าไร จิตวิญญาณของคุณก็ยิ่งหลงใหลในความปรารถนาที่จะดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้าตามที่เราทุกคนอธิษฐานภาวนาต่อพระบิดาของเราว่า:พระประสงค์ของพระองค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์ (มธ 6:10)
 
ภารกิจบนโลกของลุยซาคือการช่วยให้คุณและผมเข้าใจและดำเนินชีวิตตามพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูในทุกช่วงเวลาของชีวิต พวกเราถูกเรียกให้ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้น,เราสามารถยืนยันเหมือนนักบุญเปาโลได้อย่างถูกต้องว่า ไม่ใช่ข้าพเจ้าที่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่เป็นพระคริสต์ผู้ทรงดำรงอยู่ในข้าพเจ้า (กท. 2:20) เห็นได้ชัดว่าการดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระบิดาไม่ได้หมายความว่าความประสงค์ของเรานั้นหมดสิ้นตายไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ใช่มนุษย์ ถ้าเราบอกว่าเรามีเจตจำนงแห่งสวรรค์เท่านั้น เราก็จะตกลงไปในบาปความหลงผิดของ monophysitism ซึ่งกล่าวว่าพระบุคคลแห่งพระวจนะที่จุติมา,(พระเยซูคริสต์),มีเพียงธรรมชาติเดียวที่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเช่นนั้น,พระคริสต์ก็จะมีเจตจำนงของพระเจ้าเท่านั้น ไม่มีเจตจำนงของมนุษย์
 
ต่อคำสอนที่หลงผิดนี้,พระศาสนจักรตอบสนองด้วยคำสอนจากสังคายนา Chalcedon ในปี 451 ระบุว่าพระคริสต์ทรงเป็นพระบุตรนิรันดร์ของพระเจ้า ทรงทำให้เป็นที่รู้จักในธรรมชาติสองลักษณะโดยไม่ทำให้เกิดความสับสน [กล่าวคือ เป็นทั้งสองลักษณะในเวลาเดียวกัน] โดยปราศจากการแยกส่วนหรือการแบ่งแยกเป็นสองส่วนแต่เป็นหนึ่งเดียวในพระบุตรองค์เดียว,พระบุตรสุดที่รักองค์เดียว,องค์พระวจนาตถ์,พระเยซูคริสตเจ้า ดังนั้น พระคริสต์จึงมีเจตจำนงสองแบบ คือ เจตจำนงแบบพระเจ้าและมนุษย์ อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังคงยอมทำตามพระประสงค์ของพระบิดาตามที่พระองค์ทรงบอกเราในพระวรสารของยอห์นว่า: อาหารของเราคือการทำตามพระประสงค์ของพระผู้ทรงส่งเรามา และทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ (ยอห์น 4:34) เราไม่แสวงหาความประสงค์ของตนเอง แต่แสวงหาพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา (ยอห์น 5:30) เพราะเราลงมาจากสวรรค์ไม่ใช่เพื่อทำตามความประสงค์ของเรา แต่ทำตามพระประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงส่งเราม (ยอห์น 6:38)
 
ดังนั้น การดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้าหมายความว่าในขณะที่เรารักษาความประสงค์ของมนุษย์ไว้,ดังที่พระเยซูเจ้าทรงทำ และตามที่พระศาสนจักรสอนเสมอมา เราเต็มใจปล่อยให้เจตจำนงของเราเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์ในพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยวิธีนี้,เจตจำนงของมนุษย์ของเราจะเป็นเหมือนกับ การที่เจตจำนงของลูกชายสนิทสนมกับเจตจำนงของพ่อของเขาอย่างใกล้ชิด เจตจำนงของเขาและของพ่อกลายเป็นหนึ่งเดียวกันในความรัก ในงานเขียนเล่มแรกของเธอ ลุยซามีคำอธิบายที่น่าทึ่งบางประการเกี่ยวกับการเข้าสู่พระประสงค์ของพระเจ้า,พระเยซู
 
โอ้! พระเยซูเจ้า,ดวงอาทิตย์ของลูก, เป็นแสงสว่างเหนือริมฝีปากของลูกอีกดวงหนึ่ง, เพื่อที่ลูกจะได้พูดความจริงที่บริสุทธิ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อจะรู้ว่าเป็นพระองค์จริงๆ หรือเป็นภาพลวงตาจากศัตรู แต่,โอพระเยซูเจ้า,ลูกเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของพระองค์ไม่ชัดเจนเลย ได้โปรดเถิด, โปรดช่วยลูก, พระองค์ผู้ซึ่งรักลูกยิ่งนัก,โปรดส่องแสงสว่างมาให้ลูก โอ้! ดวงอาทิตย์ของลูก, ผู้สวยสดงดงามของลูก, ลูกต้องการเข้าไปยังใจกลางพระองค์, เพื่อที่ลูกจะได้จมอยู่ในแสงอันบริสุทธิ์ที่สุดนี้ โอ้,ดวงอาทิตย์แห่งสวรรค์, โปรดให้แสงนี้อยู่เบื้องหน้าลูก, ติดตามลูก, ล้อมรอบลูกในทุกหนทุกแห่งและแทรกเข้าไปในทุกที่ที่ซ่อนเร้นภายในตัวลูก, เพื่อที่ความเป็นอยู่ของลูกจะถูกพระองค์กลืนกิน และพระองค์สามารถเปลี่ยนแปลงลูกได้อย่างสมบูรณ์ในความเป็นพระเจ้าของพระองค์
 
การเข้าสู่ Divine Will หมายถึงการกำจัดโลกเล็กๆที่ล้อมรอบ ลุยซ่า
 
ดังนั้นตั้งแต่แรกเริ่ม พระอาจารย์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงเริ่มปลดปล่อยจิตใจของดิฉันออกจากสิ่งสร้างทั้งหมด และด้วยเสียงภายใน, พระองค์ทรงบอกดิฉันว่า: “เราเป็นสิ่งที่สวยงามและสมควรที่จะได้รับความรัก ดูซิ ถ้าลูกไม่กำจัดโลกใบเล็กๆ ที่ล้อมรอบตัวลูก นั่นคือ ความคิดเกี่ยวกับสิ่งสร้างทั้งหลาย,จินตนาการต่างๆ เราก็จะไม่สามารถเข้าสู่หัวใจของลูกได้อย่างอิสระ การบ่นในใจของลูกนี้เป็นอุปสรรคต่อการทำให้ลูกได้ยินเสียงของเราได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อหลั่งพระหรรษทานของเราแก่ลูก, ทำให้ลูกหลงใหลในตัวเราอย่างแท้จริง จงสัญญากับเราว่าลูกจะเป็นของเราทั้งหมด,และเราเองจะลงมือทำงาน ลูกพูดถูกที่บอกว่าลูกไม่สามารถทำอะไรได้เลย อย่ากลัวเลย เราจะทำทุกอย่างเอง จงมอบความประสงค์ของลูกแก่เรา - แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเรา”
 
การเข้าสู่ดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าถูกขัดขวางโดยความเย่อหยิ่งของบุคคล เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามในหัวใจซึ่งมีกลิ่นอายของความจองหอง เราไม่สามารถแม้แต่จะเข้าไปในหัวใจของพวกเขาได้ เพราะพวกเขาบวมพองด้วยความจองหองมากจนไม่มีที่ว่างสำหรับบรรจุตัวเราไว้ คนที่น่าสังเวชเหล่านี้ไม่คำนึงถึงพระหรรษทานของเราและพวกเขาก็ตกต่ำลงไปสู่การตกต่ำลงอีก,จนกระทั่งถึงซึ่งความพินาศ
 
เมื่อวิญญาณเข้าสู่ภายในตัวเธอเอง, ที่ซึ่งพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่, เธอสามารถสัมผัสเจตจำนงแห่งสวรรค์ในตัวเธอได้ ลุยซาเขียนว่า: ฉันเชื่อว่าถึงแม้ว่านักปราชญ์ทั้งหมดจะมารวมกัน, พวกเขาก็จะยังคงสับสนและเป็นใบ้ไปด้วยพระวาจาของพระเยซูเจ้าเพียงพระวาจาเดียว บัดนี้ วิธีนี้เหมาะสมกับธรรมชาติของมนุษย์มากกว่า และสามารถเปิดเผยได้ง่ายกว่า เพราะว่าเมื่อเข้าสู่ภายในตัวเธอเอง, วิญญาณจะนำสิ่งที่เธอได้ยินจากพระโอษฐ์ของพระเยซูเจ้า,พระเจ้าของเรา,มากับเธอ และเธอก็สื่อสารไปยังร่างกายโดยตรง เพราะมันไม่ง่ายเลยเมื่อผ่านสติปัญญา
 
ในไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา,เราพบความคิดที่คล้ายคลึงกันในข้อ 136: ซึ่งเขียนว่า “ในขณะนั้น,ฉันรู้ว่าฉันกำลังเข้าสู่การเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระผู้เป็นเจ้า,พระผู้ทรงไม่อาจเข้าใจได้ ฉันรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังรอให้ฉันพูด, เพื่อความยินยอมของฉัน แล้วจิตวิญญาณของฉันก็จมลงในองค์พระผู้เป็นเจ้า และฉันพูดว่า “ขอให้เป็นไปกับลูกตามที่พระองค์ประสงค์ ลูกยอมจำนนต่อพระประสงค์ของพระองค์ ณ วันนี้, น้ำพระทัยบริสุทธิ์ของพระองค์จะเป็นการหล่อเลี้ยงลูก และลูกจะสัตย์ซื่อต่อพระบัญชาของพระองค์,โดยอาศัยความช่วยเหลือจากพระหรรษทานของพระองค์ โปรดทำกับลูกตามที่ทรงพอพระทัย ลูกวอนขอต่อพระองค์,พระเจ้าข้า,โปรดสถิตอยู่กับลูกตลอดเวลาในชีวิตของลูกด้วยเทอญ”
 
ในข้อที่ 629 เราพบนักบุญโฟสตินาพูดว่า: เมื่อฉันเข้าไปในโบสถ์สักครู่หนึ่งในตอนเย็นวันเดียวกันนั้น เพื่อขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระหรรษทานทั้งหมดที่พระองค์ประทานแก่ฉันในบ้านหลังนี้ ทันใดนั้นการปรากฏของพระเจ้าก็ห่อหุ้มฉันไว้ ฉันรู้สึกเหมือนเด็กอยู่ในมือของพ่อที่ดีที่สุด และฉันได้ยินคำพูดเหล่านี้: อย่ากลัวสิ่งใดเลย เราอยุ่กับลูกเสมอ. ความรักของพระองค์แทรกซึมเข้ามาในตัวของฉัน ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังเข้าสู่ความใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์จน (87) ฉันไม่สามารถหาคำพูดที่จะอธิบายได้
 
ให้เราสวดภาวนาพร้อมกับบุญราศีชารลส์ เดอ ฟูโกต์ เพื่อที่พระบิดาจะทรงประทานกำลังแก่เราให้เข้าสู่พระประสงค์ของพระองค์มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่เราจะเปลี่ยนแปลงไป:
 
ข้าแต่พระบิดา ลูกละทิ้งตัวลูกไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์,โปรดทำต่อลูกตามน้ำพระทัยของพระองค์ 
ไม่ว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงกระทำ,ลูกขอบพระคุณ 
ลูกพร้อมสำหรับทุกสิ่ง,ลูกยอมรับทุกสิ่ง 
ขอแต่เพียงให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในตัวลูก,และในสิ่งสร้างทั้งหมดของพระองค์ 
ลูกไม่ปรารถนาสิ่งใดมากกว่านี้,ข้าแต่พระเจ้า 
ลูกมอบถวายวิญญาณของลูกไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ 
ลูกมอบไว้แด่พระองค์ 
ด้วยความรักทั้งหมดแห่งหัวใจของลูก 
เพราะลูกรักพระองค์,พระเจ้าข้า 
ลูกขอมอบตัวลูกเอง 
เพื่อยอมจำนนตัวลูกในพระหัตถ์ของพระองค์ 
ด้วยความวางใจอย่างไม่มีขอบเขต 
เพราะพระองค์ทรงเป็นบิดาของลูก
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น