โดย Fr Mario Attard OFM Cap
ผมได้รับพระพรให้ได้อ่านหนังสือ The Book of Heaven เล่มที่สองโดยลุยซ่า พิกาเร็ตตา(Luisa Piccarreta) ผู้ได้รับพระพรพิเศษชาวอิตาลี ผมรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษกับภาพลักษณ์ของพระตรีเอกภาพที่เธอได้บรรยายไว้, เธอเขียนว่า:
นี่คือพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์สูงสุดผู้ทรงถูกปกคลุมอยู่ในดวงอาทิตย์: ไฟคือพระบิดา,แสงสว่างคือพระบุตร,ความร้อนคือพระจิตเจ้า อย่างไรก็ตาม,ดวงอาทิตย์มีเพียงหนึ่งเดียว, และเราไม่สามารถแยกไฟออกจากแสงสว่างและความร้อนได้ ดังนั้น,พระบิดา ,พระบุตร, และพระจิตทรงเป็นหนึ่งเดียวในพระฤทธานุภาพ, ซึ่งไม่สามารถแยกออกจากกัน และเช่นเดียวกับที่ไฟทำให้เกิดแสงสว่างและความร้อนในเวลาเดียวกัน,ไฟก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีแสงสว่างและความร้อน ในทำนองเดียวกัน พระบิดาไม่สามารถเป็นอยู่ก่อนหน้าพระบุตรและพระจิต และเป็นไปในทางกลับกันด้วย แต่ทั้งสามพระองค์ทรงมีจุดเริ่มต้นนิรันดรเหมือนกัน
แสงของดวงอาทิตย์กระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง,และในทำนองเดียวกัน,พระเจ้าทรงแทรกซึมไปทุกหนทุกแห่งด้วยความยิ่งใหญ่ไม่มีขอบเขตของพระองค์ อย่างไรก็ตาม,ขอให้เราจำไว้ว่านี่เป็นแต่เพียงเงาเท่านั้น เพราะดวงอาทิตย์ไม่สามารถไปถึงที่ซึ่งแสงไม่สามารถทะลุผ่านได้ ในขณะที่พระเจ้าทรงแทรกซึมอยู่ทุกหนทุกแห่ง พระเจ้าทรงเป็นจิตที่บริสุทธิ์ที่สุด และเราสามารถแทนพระองค์ได้ด้วยรูปแบบของดวงอาทิตย์, ซึ่งรังสีของมันทะลุผ่านทุกหนทุกแห่ง และไม่มีใครสามารถคว้าพวกมันได้ด้วยมือ ยิ่งไปกว่านั้น,พระเจ้าทรงทอดพระเนตรดูทุกสิ่ง – รวมทั้งความชั่วช้าและความเลวทรามของมนุษย์ – แต่พระองค์ยังทรงเป็นเช่นที่พระองค์ทรงเป็นอยู่เสมอ นั้นคือ,ทรงบริสุทธิ์,ศักดิ์สิทธิ์, และปราศจากมลทิน เงาของพระเจ้าคือดวงอาทิตย์ ซึ่งส่งแสงสว่างมาเหนือขยะ,แต่ยังคงปราศจากมลทิน มันกระจายแสงสว่างในกองไฟ,แต่ไม่ถูกเผาไหม้ ส่งแสงสว่างไปในทะเลและในแม่น้ำแต่ไม่จมน้ำ มันให้แสงสว่างแก่ทุกสิ่ง, มันให้แสงสว่างแก่สรรพสิ่งอย่างอุดมบริบูรณ์ มันให้ชีวิตแก่สรรพสิ่งด้วยความร้อนของมัน แต่แสงสว่างก็ไม่เสื่อมถอย,และไม่สูญเสียความร้อนของมันเลย ยิ่งไปกว่านั้น,ในขณะที่มันให้สิ่งดีๆต่อทุกสิ่งมากมาย, แต่มันไม่ต้องการใครหรืออะไรเลย, และยังคงเป็นอย่างที่มันเป็นอยู่เสมอ นั่นคือ ยิ่งใหญ่, ส่องแสง, และไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล โอ, ใครเล่าจะสามารถเห็นคุณสมบัติอันศักดิ์สิทธิ์ในดวงอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี! ด้วยความยิ่งใหญ่ของพระองค์, พระเจ้าก็สถิตย์อยู่ในไฟ, แต่ไม่ถูกเผา ทรงสถิตย์อยู่ในทะเลแต่ไม่จมน้ำ ทรงอยู่ภายใต้ย่างก้าวของเรา,แต่ไม่ถูกเหยียบย่ำ พระองค์ประทานแก่ทุกคน,แต่ไม่ยากจนลง,และไม่ต้องการใครหรืออะไรเลย พระองค์ทรงทอดพระเนตรดูทุกสิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น,พระองค์ทรงเป็นดวงตาทั้งหมดและไม่มีสิ่งใดที่พระองค์ไม่ได้ยิน พระองค์ทรงทราบแม้แต่เนื้อเยื่อทุกเส้นของหัวใจแต่ละดวง,ทรงทราบความคิดของจิตใจเราแต่ละคน แต่เนื่องจากทรงเป็นจิตที่บริสุทธิ์ที่สุด,พระองค์ไม่ทรงมีหูหรือตา และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น,พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดวงอาทิตย์ส่องสว่างแก่โลกด้วยแสงของมัน และมันไม่เหน็ดเหนื่อย ในทำนองเดียวกัน พระเจ้าทรงประทานชีวิตแก่ทุกคน, ทรงช่วยเหลือและปกครองโลก และพระองค์ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย
มนุษย์สามารถซ่อนหรือหลบอยู่ภายใต้ที่กำบังเพื่อไม่ให้เพลิดเพลินกับแสงของดวงอาทิตย์และได้รับประโยชน์ของมัน แต่เขาไม่ได้ทำอะไรกับดวงอาทิตย์ – ดวงอาทิตย์ยังคงเป็นอย่างที่มันเป็น ความชั่วร้ายทั้งหมดของมนุษย์ก็จะตกอยู่กับมนุษย์เช่นเดียวกัน โดยความบาป,คนบาปสามารถออกห่างจากพระเจ้าและไม่ได้รับผลดีของพระองค์อีกต่อไป แต่เขาไม่ได้ทำอะไรกับพระเจ้าเลย และความชั่วร้ายทั้งหมดก็เป็นของเขาเอง
ความกลมของดวงอาทิตย์ยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนิรันดร์ของพระเจ้าอีกด้วย,ซึ่งไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด แสงของดวงอาทิตย์ที่ทะลุทุกสิ่งนั้นไม่มีใครสามารถกักขังไว้ในดวงตาของเขา และหากใครต้องการจะจ้องมองมันในเวลาเที่ยงวัน,เขาก็จะมึนงงไป และถ้าดวงอาทิตย์ต้องการจะเข้ามาใกล้มนุษย์, มนุษย์ก็จะกลายเป็นเถ้าถ่าน เป็นเช่นเดียวกันกับดวงอาทิตย์อันศักดิ์สิทธิ์: ไม่มีจิตใจใดที่ถูกสร้างขึ้นจะสามารถกักขังมันไว้ในจิตใจอันน้อยนิดของเขา,เพื่อที่จะเข้าใจมันในทุกสิ่งที่มันเป็น; และถ้าเขาอยากจะลองทำความเข้าใจ,เขาก็จะมึนงงและสับสน และหากดวงอาทิตย์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ต้องการแสดงความรักทั้งหมดของพระองค์,โดยทรงอนุญาติให้มนุษย์รู้สึกถึงความรักในขณะที่เขาอยู่ในร่างมนุษย์,คนนั้นก็จะกลายเป็นเถ้าถ่าน
คำบรรยายที่สวยงามนี้ทำให้ผมถามคำถามต่อไปนี้เพื่อไตร่ตรองเป็นการส่วนตัวของผม
ประการแรก, พระบิดาทรงเป็นไฟนั้นหมายความว่าอย่างไร?
ประการที่สอง, เหตุใดพระบุตรจึงเป็นความสว่าง?
ประการที่สาม, เหตุใดพระจิตจึงทรงเป็นความร้อน?
ประการที่สี่,ผมเห็นว่าพระบุคคลทั้งสามของพระตรีเอกภาพทรงร่วมมือกันชั่วนิรันดร์เพื่อจุดไฟในตัวเรา ซึ่งจะกลายเป็นแสงสว่างที่ทำให้เราร้อนรนได้หรือ? พระเยซูทรงบอกเราว่า: “เรามาเพื่อจุดไฟในโลก และเราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้โลกนี้ลุกเป็นไฟ! (ลูกา 12:49).
ประการที่ห้า,ผมเห็นแสงสว่างของพระตรีเอกภาพในทุกที่ที่ผมไปหรือไม่?
ประการที่หก,ความยิ่งใหญ่ของพระตรีเอกภาพทรงบอกอะไรกับผมบ้าง?
ประการที่เจ็ด,ถ้าพระเจ้าทรงเป็นจิตบริสุทธิ์,ศํกดิ์สิทธิ์,และปราศจากมลทิน,ดวงอาทิตย์,รังสีของดวงอาทิตย์ที่ทะลุผ่านทุกหนทุกแห่ง, สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกอย่างไร?
ประการที่แปด,ถ้าพระเจ้ายังทรงเหมือนเดิมเมื่อพระองค์อยู่ในไฟ,ในทะเล,ภายใต้ย่างก้าวของเรา,ทรงประทานแก่ทุกคน,ทรงมองดูทุกสิ่ง,ทรงเป็นดวงตาทั้งหมด,ทรงรู้ถึงเนื้อเยื่อทุกส้นของหัวใจเรา,ทรงรู้ทุกความคิดของจิตใจเรา,ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย,ทรงให้ชีวิตแก่ทุกสรรพสิ่ง,ทรงช่วยเหลือและปกครองโลก ทั้งหมดนี้ทำให้ผมรู้สึกลึกลงไปในจิตใจและจิตวิญญาณของผมอย่างไร?
ประการที่เก้า,ผมรู้สึกดีขึ้นไหมเมื่อผมพิจารณาไตร่ตรองและใคร่ครวญถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า?
เมื่อคุณรู้สึกว่าถูกทุบและกลายเป็นเถ้าถ่าน,ทำไมไม่ลองเอาข้อความที่กล่าวมานี้มาพิจารณาดูล่ะ? นักบุญฟรังซิสไม่ได้ทำเช่นเดียวกันนี้เมื่อท่านเขียนเกี่ยวกับพระตรีเอกภาพในการสรรเสริญพระเจ้าที่มอบให้กับบราเดอร์ลีโอหรอกหรือ ท่านเขียนว่า:
พระเจ้าข้า,พระองค์ทรงศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก,ทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียว
และกิจการของพระองค์นั้นน่ามหัศจรรย์ยิ่งนัก
พระองค์ทรงแข็งแรง.
พระองค์ทรงยิ่งใหญ่.
พระองค์ทรงเป็นผู้สูงสุด
พระองค์ทรงเป็นผู้ทรงฤทธานุภาพ
พระบิดาศักดิ์สิทธิ์ทรงเป็นพระราชาแห่งสวรรค์และโลก
ทรงเป็นสามและหนึ่ง พระเจ้า ทรงความดีทั้งหมด
พระองค์ทรงความดี, ดีทั้งหมด, ดีสูงสุด,
พระเจ้า, ทรงดำรงอยู่และเป็นความจริง
พระองค์คือความรัก.
พระองค์คือพระปรีชาญาณ
พระองค์ทรงถ่อมพระองค์
ทรงอดทน
พระองค์ทรงเป็นการพักผ่อน
ทรงเป็นความสงบสุข
พระองค์คือความสุขและความยินดี
พระองค์คือความยุติธรรมและความเที่ยงธรรม
พระองค์คือความมั่งคั่งทั้งหมดของเรา
และทรงเพียงพอสำหรับเรา
พระองค์คือความงาม
พระองค์ทรงอ่อนโยน
พระองค์คือผู้พิทักษ์ของเรา
พระองค์คือผู้อารักขาและผู้คุ้มครองของเรา
พระองค์คือความกล้าหาญของเรา
พระองค์คือสวรรค์และความหวังของเรา
พระองค์คือความเชื่อของเรา และทรงเป็นการปลอบโยนที่ยิ่งใหญ่ของเรา
พระองค์คือชีวิตนิรันดร์ของเรา
พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์
พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ
พระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเมตตา
พระสิริรุ่งโรจน์พึงมีแด่พระบิดาและพระบุตรและพระจิต เหมือนในปฐมกาล,บัดนี้และตลอดนิรันดร อาเมน
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น