วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2565

อำนาจของแม่พระในการต่อสู้กับปีศาจ

 


โดย FR. LIVIO FANZAGA
 
“เราจะสร้างความเป็นศัตรูให้เกิดขึ้นระหว่างเจ้ากับสตรีผู้นั้น” ผู้ที่เอาชนะอาณาจักรแห่งความชั่วร้ายคือพระเยซูคริสต์ ชัยชนะของพระองค์เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาแห่งการจุติมาบังเกิด, เกิดขึ้นในระหว่างการที่พระองค์ถูกทดสอบกิเลสตัณหาครั้งใหญ่ในทะเลทราย, และเกิดขึ้นในการสำแดงความยิ่งใหญ่แห่งพระเกียรติอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ในวันอีสเตอร์ พระปรีชาญาณอันสูงส่งทรงยอมให้ซาตานกระทำการทุกอย่างด้วยอำนาจของมันต่อมนุษยชาติจนถึงจุดอวสานของโลก เพื่อเชื่อมโยงพระศาสนจักรและคริสตชนทุกคนเข้ากับการต่อสู้กับอำนาจของปีศาจและเชื่อมโยงกับชัยชนะของพระคริสต์
 
ตอนนี้เราต้องพยายามทำความเข้าใจสถานะของพระแม่มารีย์ในการต่อสู้ตัวต่อตัวอันน่าทึ่งซึ่งดำเนินมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ความเชื่อของคริสตชนนั้นเรียบง่าย โดยมอบหมายให้พระแม่มารีย์ผู้ทรงอำนาจในการต่อต้านความชั่วร้าย พระนางทรงมีบทบาทชี้ขาดในการต่อสู้กับซาตาน บ่อยครั้งในความคิดทั่วไปของผู้มีความเชื่อ,มักคิดกันว่าพระแม่มารีย์มีหน้าที่บดขยี้หัวซาตานมากกว่าพระคริสต์ เรากำลังเผชิญหน้ากับการพูดเกินจริง หรือความคิดของผู้คนที่เข้าใจอย่างง่ายๆเกี่ยวกับความจริงที่ถูกเปิดเผยนี้?
 
เราควรระลึกให้มากถึงความจริงที่ไม่อาจลบล้างได้ของงานแห่งการไถ่บาปที่พระคริสตเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิด,อย่างต่อเนื่อง,ของพระแม่มารีย์ พระปรีชาญาณอันศักดิ์สิทธิ์ได้ตัดสินใจว่าสตรีผู้นี้คือเอวาใหม่,ผู้ควรอยู่เคียงข้างกับอาดัมใหม่,ในการต่อสู้กับซาตานเพื่อการปลดปล่อยมนุษยชาติ ถ้าพระคริสต์ทรงเป็นพระผู้ไถ่,พระแม่มารีย์ก็ทรงเป็นผู้ร่วมงานในการไถ่กู้ (เมื่อพูดถึงพระแม่มารีย์ผู้ร่วมงานกับพระคริสต์ในการไถ่บาป สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าพระนางทรงร่วมมือกับพระองค์ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ใช่อย่างเท่าเทียมกัน ทุกสิ่งที่พระนางมารีย์ทรงกระทำนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพระคริสต์ พระบุตรของพระนาง และพระนางทรงเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของพระบิดาในฐานะสาวใช้ของพระเจ้า) ตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งการจุติมาบังเกิดของพระคริสต์จนถึงการสิ้นพระชนม์ของพระคริสต์บนไม้กางเขน พระมารดาทรงอยู่เคียงข้างพระบุตรและแบ่งปันทุกช่วงเวลาของเหตุการณ์ที่ร้ายแรง
 
เป็นเรื่องที่เข้าใจยากที่บางคนต้องการแยกพระมารดาจากพระบุตร โดยพยายามให้พระนางอยู่ในเงามืด ทำให้งานของพระนางดูไม่มีนัยสำคัญ ความประทับใจในพระคัมภีร์ทั้งสองอันชวนให้นึกถึงการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ระหว่างพระเจ้ากับซาตาน ได้แก่ พระคัมภีร์ปฐมกาล (3:15) และพระคัมภีร์วิวรณ์ (12:1–6) ซึ่งกล่าวถึงสตรีผู้นั้นกับพระบุตรราวกับว่าทั้งสองเป็นคนคนเดียวกัน
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราประหลาดใจกับคำทำนายที่กล่าวในตอนต้นของประวัติศาสตร์มนุษยชาติว่าเป็นสัญญาณแห่งความหวังสำหรับการปลดปล่อยในอนาคต เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไม่ใช่เพียงสตรีเท่านั้น แต่รวมถึงเชื้อสายของนางที่จะบดขยี้หัวของงูร้าย เราสงสัยหรือไม่ว่าพระคริสต์คือผู้ที่ทำลายคทาของเจ้าชายของอาณาจักรแห่งความชั่วร้าย? ไม่แน่นอน แต่พระองค์ทรงเป็นเชื้อสายของพระนางมารีย์,ไม่ใช่แค่ในความหมายทางชีววิทยาเท่านั้น, แท้จริงพระองค์ทรงบังเกิดมาจากสตรีผู้หนึ่งซึ่งเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ของงูร้ายแห่งนรก
 
เมื่อพระเจ้าทรงประกาศว่า “เราจะให้เจ้ากับหญิงเป็นศัตรูกัน” (ปฐมกาล 3:15) พระองค์ตรัสบางอย่างที่ลึกซึ้งอย่างยิ่งซึ่งจะต้องเข้าใจในความหมายอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด ในแผนการณ์ความรอดอันศักดิ์สิทธิ์ ซาตาน,สิ่งสร้างที่เป็นกบฏต่อพระเจ้าซึ่งทำลายมนุษยชาติด้วยการร่วมมือของผู้หญิง(เอวา), ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งสร้างอีกผู้หนึ่ง,และเป็นสตรีด้วย พระนางทรงยอมจำนนและสัตย์ซื่อต่อพระประสงค์ของพระเจ้า และทรงทำหน้าที่ของพระนางคือทำให้ผู้ที่จองหองต้องอับอาย และนำวิญญาณที่ได้รับการไถ่กู้โดยพระโลหิตของพระบุตรไปจากมือของมัน
 
ความเป็นปฏิปักษ์ของเอวาใหม่ต่อซาตานเป็นการเน้นถึงบทบาทพื้นฐานที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้กับพระนางมารีย์ในการต่อสู้กับมารร้าย พระนางไม่เพียงแต่ร่วมมือกับชัยชนะของพระบุตรเท่านั้น แต่ยังดำเนินการโดยอาศัยพระปรีชาญาณอันศักดิ์สิทธิ์ในภารกิจเฉพาะเพื่อดึงวิญญาณทุกดวงออกมาจากมือของซาตาน และนำมามอบแด่พระเจ้า ด้วยฤทธิอำนาจที่พระเจ้าทรงมอบแด่พระนางโดยอาศัยความเป็นมารดาของพระนาง ใครกันแน่ที่แน่วแน่,เด็ดเดี่ยว,และไม่เหน็ดเหนื่อยมากไปกว่าผู้เป็นมารดาเมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรอดของลูกๆของพระนาง? ในหัวใจของมารดาของพระนางมารีย์,เราพบเหตุผลที่ลึกซึ้งที่สุดที่พระนางจะต้องเป็นปฏิปักษ์กับปีศาจ พระนางไม่ทรงอนุญาตให้ซาตานมาทำลายวิญญาณของมนุษย์ผู้ที่พระคริสต์ทรงมอบให้เป็นบุตรชายหญิงของพระนาง และด้วยเหตุนี้,พระนางจึงทรงต่อสู้,ต่อต้านอำนาจของปีศาจมารร้ายด้วยพลังอำนาจทั้งหมดที่พระคริสต์ทรงประทานแก่พระนาง
 

 
บทความนำมาจาก The Deceiver: Our Daily Struggle with Satan
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น