วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565

กษัตริย์นักบุญเฮนรี่แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์

 


นักบุญกษัตริย์เฮนรี่ประสูติในปี 972 พระบิดาคือดยุคเฮนรีแห่งบาวาเรียและเจ้าหญิงจิเซลาแห่งเบอร์กันดี ในช่วงวัยหนุ่มเฮนรี่ได้รับทั้งการศึกษาและการนำทางฝ่ายจิตวิญญาณจากพระสังฆราชผู้เป็นนักบุญคือนักบุญโวล์ฟกังแห่งเรเกนสเบิร์ก(St. Wolfgang of Regensberg) เฮนรี่เป็นนักเรียนที่เฉลียวฉลาดและมีใจศรัทธา และในช่วงระยะเวลาหนึ่งพระองค์พิจารณาที่จะเป็นพระสงฆ์
 
เมื่ออายุได้ 34 ปี เฮนรี่ก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนี พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของผู้นำที่เหมือนพระคริสต์ พระเยซูตรัสว่าผู้นำคือผู้ที่รับใช้และนั่นคือสิ่งที่กษัตริย์เฮนรี่ทรงทำ ในฐานะผู้ปกครอง กษัตริย์เฮนรี่มีพระทัยจดจ่ออยู่กับความกินดีอยู่ดีของประชาชน พระองค์สร้างอาราม ช่วยคนจน ต่อสู้กับการยึดครองอย่างไม่ยุติธรรม และบรรเทาการกดขี่ทุกรูปแบบ นักบุญกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ที่ยิ่งใหญ่ของโบสถ์และอาราม ด้วยความมั่งคั่งร่ำรวยของพระองค์,พระองค์ทรงบริจาคทรัพย์สมบัติมากมายให้กับพระศาสนจักรจนแม้แต่บรรดาพระญาติของพระองค์ก็ยังบ่นถึงเรื่องนี้
 

กษัตริย์เฮนรี่ปกครองด้วยจิตวิญญาณแห่งความถ่อมตนอย่างยิ่งและพยายามถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเสมอ พระองค์ทรงใช้ฐานะของพระองค์เพื่อส่งเสริมงานของพระศาสนจักรและความสงบสุขและความสุขของประชาชน
 
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในชีวิตของพระองค์ กษัตริย์เฮนรี่ต้องรับมือกับความเจ็บป่วยที่ร้ายแรง และการเจ็บป่วยอย่างหนึ่งที่ทำให้ขาซ้ายของพระองค์พิการ แต่ก็ยังต้องแบกรับความรับผิดชอบของจักรพรรดิ พระองค์ได้รับการสนับสนุนให้กำลังใจจากการสวดภาวนาของประชาชนในระหว่างการทดลองเหล่านี้ พระองค์พิจารณาอย่างจริงจังในการลาออกจากตำแหน่งผู้นำเพื่อที่จะได้เป็นพระสงฆ์
 
หลังจากเจ็บป่วยอยู่หลายปี นักบุญกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ก็สิ้นพระชนม์ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1024 ประชาชนได้คร่ำครวญเป็นอย่างมากต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นผู้นำอาณาจักรทางโลกด้วยความรับผิดชอบโดยไม่ละสายตาจากอาณาจักรของพระเจ้า พระสันตะปาปายูจีนที่ 3 ทรงสถาปนาพระองค์ให้เป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1146
 
************
 
มีเกร็ดประวัติของกษัตริย์พระองค์นี้อีกเล็กน้อย
 
จักรพรรดิเฮนรีที่ 2 ครองราชย์ตั้งแต่ปี 1002 ถึง 1024 เป็นการยากที่จะพูดเกินจริงถึงอำนาจอันน่าทึ่งของพระองค์ พระองค์เป็นกษัตริย์เยอรมันที่กลายเป็นกษัตริย์ของอิตาลีและได้รับการสวมมงกุฎจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์โดยพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 8 พระองค์เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของพระสันตะปาปาและพระองค์มีอิทธิพลมากจนพระองค์ขอให้เพิ่มบทสวดข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้าในพิธีมิสซา ความปรารถนาของพระองค์ก็สัมฤทธ์ผลและถูกใช้มาจนถึงทุกวันนี้ เราจึงต้องขอบคุณจักรพรรดิเฮนรี่ในเรื่องนี้ พระองค์เป็นผู้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนประเทศฮังการีให้มานับถือนิกายโรมันคาทอลิก เพราะพระองค์ทรงยอมให้กษัตริย์สเตฟานของฮังการีแต่งงานกับดัชเชสน้องสาวของพระองค์โดยมีเงื่อนไขว่ากษัตริย์สเตฟานจะรับศีลล้างบาปมาเป็นคาทอลิก กษัตริย์สเตฟานทรงยอมรับอย่างเร่งรีบและยังเร่งรีบแต่งงานกับดัชเชสอีกด้วย
 
แต่ที่บ้านเกิดในบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี พระองค์มักถูกเรียกว่า "เฮนรี่ผู้อ่อนแอ" ขาของพระองค์พิการทำให้ผิดรูป บางทีความพิการของพระองค์ทำให้พระองค์มีความอ่อนน้อมถ่อมตน พระองค์สวดภาวนาอย่างร้อนรนก่อนการต่อสู้และพระองค์ก็ได้รับความช่วยเหลือจากสวรรค์มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพระองค์ต้องการพระหรรษทานที่จำเป็นทั้งหมดเมื่อต่อสู้กับทหารที่มีความสามารถมากขึ้น และบางครั้งเมื่อพระองค์ทรงอยู่ในวงล้อมของกองทหารศัตรูที่มากมาย,พระองค์ทรงเห็นอารักขเทวดา,เห็นบรรดานักบุญ,มรณะสักขี,และนักบุญองค์อุปถัมภ์มาเข้าร่วมในการต่อสู้เพื่อช่วยชีวิตพระองค์ ถึงกระนั้น,พระองค์ก็เป็นนักรบผู้กล้าหาญและในปี 1022 พระสันตะปาปาทรงขอร้องให้กษัตริย์เฮนรี่ช่วยเหลือจากการรุกรานของจักรวรรดิไบแซนไทน์
 
หลังจากชัยชนะทางการทหารครั้งสำคัญ จักรพรรดิเฮนรี่เสด็จไปแสวงบุญที่มหาวิหารนักบุญอัครเทวดามีคาแอลที่มอนเตการ์กาโน เย็นวันหนึ่งพระองค์ทรงรู้สึกว่าถูกเรียกให้ใช้เวลาทั้งคืนในการอธิษฐานภาวนาในมหาวิหาร ซึ่งเป็นโบสถ์แห่งเดียวในโลกที่ไม่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ด้วยมือมนุษย์ แต่ได้รับการชำระพระวิหารให้บริสุทธิ์โดยอัครเทวดามีคาแอลเป็นการเฉพาะ,เมื่ออัครเทวดาได้เสริมแต่งพระวิหารด้วยจิตวิญญาณแห่งเทวทูตของท่านเอง ในความมืดมิดนั้น,กษัตริย์เฮนรี่ดื่มด่ำอยู่ในการอธิษฐานภาวนา,ขณะที่พระองค์เห็นทูตสวรรค์สององค์ซึ่งปรากฏเป็นชายหนุ่ม เทวดาทั้งสองยุ่งอยู่กับการเตรียมพระแท่นบูชา ในตอนเที่ยงคืน,กษัตริย์ได้เห็นคณะนักร้องประสานเสียงทั้ง 9 ขบวนแห่ไปยังแท่นบูชาที่นำโดยอัครเทวดามีคาแอล จากนั้น,พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ก็เสด็จมา,ล้อมรอบด้วยแสงสว่างเจิดจ้า เหล่าทูตสวรรค์ได้สวมเสื้อคลุมให้พระเยซูเจ้าด้วยอาภรณ์ของพระสันตะปาปา จากนั้นพระคริสต์ก็ถวายพระองค์เองแด่พระเจ้าพระบิดาในพิธีมิสซาศักดิ์สิทธิ์
 
กษัตริย์เฮนรีเห็นพระเยซูทรงจุมพิตพระวรสารและหลังจากร้องเพลงสรรเสริญแล้ว นักบุญมีคาแอลก็เข้าไปหากษัตริย์เฮนรีและมอบหนังสือพระวรสารให้พระองค์จูบ จากนั้นนักบุญมีคาแอลก็ทักทายกษัตริย์ว่า "เฮนรี่ผู้ได้รับเลือกจากพระเจ้า,จงลุกขึ้นยืนและรับการจุมพิตที่พระคริสต์ทรงประทานส่งมาให้ท่านด้วยความยินดีเถิด เราคือนักบุญมีคาแลอ,หนึ่งในทูตสวรรค์ทั้ง 7 ที่ประทับเบื้องพระบัลลังก์ของพระเจ้า" และนักบุญมีคาแอลได้ใช้คำพูดของนักบุญราฟาแอลที่เปิดเผยในหนังสือโทบิต(Book of Tobit) ว่าท่านเป็นหัวหน้าทูตสวรรค์และเป็นหนึ่งในทูตสวรรค์ 7 องค์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้า เป็นการเหมาะสมที่นักบุญมีคาแอลจะพูดถึงบทบาทของท่านในการเฝ้าอยู่ต่อหน้าพระบัลลังก์ของพระคริสต์กษัตริย์ต่อพระมหากษัตริย์ทางโลก
 
ในคืนที่พิเศษนั้น,นักบุญมีคาแอลได้สัมผัสสีข้างของกษัตริย์เฮนรี่ด้วยมือแห่งทูตสวรรค์ของท่าน และท่านประกาศว่าขาของกษัตริย์หายเป็นปกติแล้ว กษัตริย์เฮนรี่เห็นว่าขาของพระองค์ได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว พระองค์ไม่เดินกะเผลกอีกต่อไป อย่างไรก็ดี,อัศจรรย์ตามมาด้วยการที่นักบุญมีคาแอลได้เตือนกษัตริย์เฮนรี่อย่างแข็งขันว่าพระองค์จะต้องไม่เข้ามาในมหาวิหารในตอนกลางคืนอีกเลย กษัตริย์เฮนรี่เชื่อฟัง และถึงแม้อัศจรรจ์จะยิ่งใหญ่และคนอื่นๆที่รู้เรื่องนี้อาจต้องการเข้ามาในมหาวิหารในเวลากลางคืนเพื่อรับการรักษาจากนักบุญมีคาแอล พวกเขาก็ต้องระงับใจไว้เมื่อกษัตริย์เฮนรี่ย้ำในคำเตือนของนักบุญมีคาแอลแก่พวกเขา
 
ปีนี้ครบหนึ่งพันปีที่จักรพรรดิเฮนรี่ทรงหายจากความพิการของพระองค์ ใช่แล้ว,หนึ่งพันปี แต่นักบุญมีคาแอลยังคงช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ทุพพลภาพอยู่ ท่านอาจจะมารักษาผู้ป่วยพร้อมกับนักบุญพันทาลีออน ซึ่งเป็นแพทย์ และยกย่องนักบุญมีคาแอลว่าเป็นผู้มาเยี่ยมผู้ป่วย
 
สองปีหลังจากที่ขาของหษัตริย์หายสนิท จักรพรรดิเฮนรี่ก็สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1024 ในวันครบรอบการจากไปสู่ชีวิตนิรันดร์นี้ ผมหวังว่าพระองค์จะคุ้มครองท่านทั้งหลายและบางทีพระองค์อาจขอให้นักบุญมีคาแอลรักษาคุณก็ได้หากคุณต้องการการรักษา
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น