วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565

แม่พระทรงรับเกียรติยกขึ้้นสู่สวรรค์ที้งกายและวิญญาณ

 

คำกล่าวของนักบุญยอห์น แห่งดามัสกัส นักปราชญ์ของพระศาสนจักร,พูดถึงการหลับไปของพระแม่มารีย์,แม่พระสิ้นพระชนม์
 
“พระมารดาของพระเจ้าไม่ได้เสียชีวิตเพราะความเจ็บป่วย เพราะพระนางไม่ต้องรับโทษจากการเจ็บป่วยเพราะพระนางไม่ทรงมีบาปกำเนิด พระนางไม่ได้ตายด้วยวัยชราเพราะพระนางไม่ต้องแก่ชรา ความแก่ชราเป็นการลงโทษต่อมนุษยชาติจากการที่บิดามารดาคู่แรกได้กระทำผิด แต่ผลของบาปนั้นไม่ได้มาถึงพระนาง: มนุษย์แก่ชราขึ้นและจบลงด้วยความอ่อนแอจนเสียชีวิต แต่พระนางมารีย์เสียชีวิตด้วยความรัก ด้วยความปรารถนาที่จะไปสวรรค์ที่ซึ่งลูกชายของพระนางทรงประทับอยู่ ความรักของพระนางนั้นยิ่งใหญ่มากจนความรักนี้ทำให้พระนางสิ้นพระชนม์
 
ราวสิบสี่ปีหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเยซู เมื่อพระนางมารีย์ทรงใช้เวลาทั้งหมดในการเผยแพร่คำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดแก่เด็กและผู้ใหญ่แล้ว เมื่อพระนางทรงปลอบโยนคนเศร้าโศกมากมายและช่วยคนป่วยและใกล้ตายจำนวนมาก พระนางทรงแจ้งให้อัครสาวกรู้ว่า บัดนี้วันแห่งการจากโลกนี้ไปชั่วนิรันดร์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว
 
อัครสาวกรักพระนางในฐานะมารดาผู้ทรงพระทัยดีที่สุด และพวกเขารีบเดินทางไปรับคำแนะนำครั้งสุดท้ายจากปากพระมารดา และรับการอวยพรครั้งสุดท้ายจากมืออันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางด้วย
 
พวกเขามาถึงด้วยน้ำตานองหน้า และคุกเข่าลงจูบพระหัตถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เคยอวยพรพวกเขามาหลายครั้งแล้ว พระนางมารีย์ทรงประทานถ้อยคำปลอบโยนและความหวังสำหรับพวกเขาแต่ละคน และจากนั้น,พระนางทรงปิดตาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนาง,เหมือนคนที่หลับไปในความฝันที่สงบสุข แล้ววิญญาณของพระนางก็จากไปชั่วนิรันดร์
 
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง และไม่มีคริสตชนคนใดที่ไม่มาร่วมไว้ทุกข์ เหมือนกับเป็นการตายของแม่ของเขาเอง การฝังศพของพระนางมารีย์ดูเหมือนเป็นขบวนแห่แหนในวันอีสเตอร์มากกว่าจะเป็นงานศพ ทุกคนร้องเพลงอัลเลลูยาด้วยความหวังอย่างแรงกล้าว่าตอนนี้พวกเขามีผู้พิทักษ์ที่ทรงอานุภาพที่สุดในสวรรค์ เพื่อช่วยวิงวอนเพื่อบรรดาสาวกของพระเยซูแต่ละคน
 
กลิ่นหอมอ่อนๆแต่เข้มข้นลอยอยู่ในอากาศ และแต่ละคนก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงดนตรีที่ประสานกลมกลืนกัน แต่โทมัสอัครสาวกล่ะ,เขามาไม่ทัน เมื่อเขามาถึง,ผู้คนก็กลับจากการฝังพระมารดาเรียบร้อยแล้ว
 
เปโตร - โทมัสพูด - ขอให้ท่านอย่าปฏิเสธในการที่ให้ข้าพเจ้าได้รับความยินดีอันยิ่งใหญ่ในการได้ไปที่หลุมฝังศพของพระมารดาสุดที่รักของข้าพเจ้าและมอบการจุมพิตครั้งสุดท้ายให้กับมืออันศักดิ์สิทธิ์ที่เคยอวยพรข้าพเจ้ามาหลายครั้งเลย และเปโตรก็ยอมรับ
 
พวกเขาทั้งหมดไปที่สุสานศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อพวกเขาอยู่ใกล้ พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงกลิ่นหอมที่นุ่มนวลอบอวลและเสียงเพลงที่ประสานกลมกลืนกันในอากาศอีกครั้ง
 
พวกเขาเปิดหลุมฝังศพและแทนที่จะเห็นร่างของพระแม่มารีย์ พวกเขากลับพบแต่ดอกไม้ที่สวยงามมากมาย พระเยซูคริสต์เสด็จมาก่อนหน้านี้แล้ว,พระองค์ทรงยกพระมารดาของพระองค์ขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
 
นี่คือสิ่งที่เราเรียกว่าการที่พระแม่มารีย์ทรงได้รับเกียรติยกขึ้นสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
 
และถ้าผู้ใดในพวกเรา, ถ้าเขามีอำนาจของพระบุตรของพระเจ้า, จะไม่ทำเช่นเดียวกันนี้กับมารดาอันเป็นที่รักของเขาหรอกหรือ"
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น