บุญราศี อันนา คัทรีน เอมเมอริก,เคยพูดถึงวิญญาณที่อยู่ในไฟชำระเป็นเวลาหลายศตวรรษ
มีคนถามคุณพ่อปีโอ ว่าวิญญาณ(ของคนที่เขารู้จัก)จะต้องอยู่ในไฟชำระนานเท่าใด คุณพ่อตอบว่า “อย่างน้อยหนึ่งร้อยปี
คุณพ่อ Rossignoli ได้เล่าไว้ในหนังสือ Merveilles du Purgatoire ของท่านว่า จิตรกรผู้หนึ่งที่มีทักษะดีเยี่ยมและมีชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่ดีได้วาดภาพไว้ภาพหนึ่ง,ซึ่งไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดของความสุภาพเรียบร้อยแบบคริสตชนเลย รูปภาพนี้ถูกนำไปอยู่ในครอบครัวที่ดีเยี่ยมภายใต้ข้ออ้างว่าเป็นผลงานทางศิลปะ แต่ภาพนี้เป็นเหตุทำให้วิญญานหลายคนต้องสูญเสียไป อย่างไรก็ตาม,ในไม่ช้า,จิตรกรก็ละทิ้งรูปแบบที่เป็นอันตรายนี้ เขาจำกัดตัวเองให้ผลิตรูปภาพทางศาสนาเท่านั้น หรืออย่างน้อยก็ภาพที่ไม่มีข้อตำหนิติเตียน ต่อมา,เขาได้วาดภาพขนาดใหญ่ให้กับอารามของคาร์เมไลต์แห่งหนึ่ง เมื่อเขาถูกโรคร้ายเข้าโจมตี,และรู้สึกว่าใกล้จะตายแล้ว,เขาขออนุญาตให้ฝังศพของเขาไว้ในโบสถ์ของอาราม และได้มอบทรัพย์สินของเขาให้แก่อาราม อันเป็นเงินจำนวนมากโขอยู่,เพื่อให้ประกอบพิธีมิสซาอุทิศแก่วิญญาณของเขา เขาตายไปด้วยความศรัทธาในศาสนา และไม่กี่วันผ่านไป,พระสงฆ์ท่านหนึ่งซึ่งอยู่ในโบสถ์หลังจากที่เสร็จพิธีมิสซาได้เห็นเขาปรากฏตัวท่ามกลางเปลวเพลิงและวิญญาณถอนหายใจอย่างน่าสมเพช "อะไรกัน!" พระสงฆ์กล่าวว่า "ทำไมคุณต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ ทั้งๆที่ดำเนินชีวิตอย่างดีและตายไปอย่างศักดิ์สิทธิ์แล้ว?" "อนิจจา!" วิญญาณตอบว่า “เป็นเพราะรูปภาพที่ไม่สุภาพซึ่งผมวาดไว้เมื่อหลายปีก่อน เมื่อผมไปปรากฏตัวต่อหน้าองค์พระตุลาการ,ก็มีกลุ่มของผู้กล่าวหามาฟ้องร้องผม พวกเขากล่าวโทษว่า เมื่อเห็นรูปภาพนั้น,พวกเขามีความตื่นเต้นที่ไม่เหมาะสม,มีความคิดที่ไม่ดีและเกิดกิเลส มันเป็นฝีมือของผม และเพราะความคิดชั่วเหล่านั้น,บ้างก็ไปอยู่ในไฟชำระ บ้างก็ไปอยู่ในนรก ฝ่ายหลังได้ร่ำไห้เรียกร้องให้ล้างแค้น โดยกล่าวว่าผมได้เป็นเหตุแห่งความพินาศชั่วนิรันดร์ของพวกเขา อย่างน้อยผมก็ควรได้รับโทษแบบเดียวกันกับพวกเขา แล้วพระแม่มารีย์และนักบุญที่ผมได้ยกย่องให้เกียรติด้วยรูปภาพของผมก็ได้มาช่วยแก้ต่างให้โดยชี้แจงต่อองค์พระตุลาการให้เห็นว่า รูปภาพที่เลวร้ายนั้นเป็นผลงานในขณะที่ผมยังอ่อนเยาว์,ซึ่งผมได้สำนึกผิดแล้ว ทั้งในเวลาต่อมา,ผมยังได้แก้ไขความผิดด้วยการวาดภาพทางศาสนาซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งการสั่งสอนแก่ดวงวิญญาณอื่นๆ ด้วยเหตุผลเหล่านี้และเหตุผลอื่นๆ,องค์พระตุลาการจึงทรงตัดสินว่าเนื่องจากการกลับใจและการกระทำที่ดีของผม,ผมจึงได้รับการยกเว้นจากการถูกสาปแช่งชั่วนิรันดร แต่ในขณะเดียวกัน, พระองค์ทรงพิพากษาให้ผมต้องอยู่ในเปลวเพลิงเหล่านี้จนกว่ารูปภาพนั้นถูกเผาทำลายเสีย เพื่อไม่เป็นเหตุทำให้ใครต้องสูญเสียอีกต่อไป" ถ้าหากรูปภาพที่ไม่สุภาพเป็นเหตุทำให้เกิดโทษรุนแรงของไฟชำระแล้ว,หายนะแห่งโทษทัณฑ์ใดเล่าที่จะได้รับอันเนื่องมาจากหนังสือไม่ดี, ภาพยนตร์ไม่ดี,สถานที่ไม่ดี,และการสนทนาที่ไม่ดี?
พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1216 ในวันเดียวกันนั้นเอง,พระองค์ทรงปรากฏต่อนักบุญลุตการ์ด(St. Lutgarda)ในอารามของเธอที่ไอวีเรส ในเมืองบราบันต์ ด้วยความฉงนที่เห็นวิญญาณที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ,เธอถามว่าเขาเป็นใครและต้องการอะไร “เราคือพระสันตะปาปาอินโนเซนต์” วิญญาณตอบ นักบุญถามว่า“เป็นไปได้อย่างไรที่พระสันตะบิดรของเราจะอยู่ในสภาพเช่นนี้?” วิญญาณตอบว่า 'แต่นี่เป็นเรื่องจริง เรากำลังรับโทษเพื่อลบล้างความผิดสามประการที่อาจทำให้เราต้องพินาศไปชั่วนิรันดร์ ต้องขอบคุณพระแม่มารีย์,เราได้รับการอภัยสำหรับความผิดเหล่านั้น แต่เราต้องชดใช้, อนิจจา, มันแย่มาก และจะเป็นเช่นนั้นซึ่งจะคงอยู่นานนับศตวรรษถ้าเธอไม่ช่วยเรา ในนามของพระนางมารีย์,ผู้ทรงโปรดวอนขอพระเจ้าทรงอนุญาติให้เรามาขอคำภาวนาจากเธอ โปรดช่วยเราด้วยเถิด' ด้วยคำพูดเหล่านี้วิญญาณก็หายไป ลุตการ์ดได้เล่าเรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาให้แก่น้องสาวของเธอและได้ทำกิจใช้โทษบาปในนามของพระสันตะปาปาและเป็นการแสดงความเคารพต่อพระสันตะปาปา ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเธอก็ได้ข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระสันตปาปาจากแหล่งอื่น "
บิดาของนักบุญหลุยส์ เบอร์ทรานด์(St. Louis Bertrand')เป็นคริสตชนที่เป็นแบบอย่าง,ชนิดที่เราควรคาดหวังในการเป็นพ่อของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ เขายังปรารถนาที่จะเป็นพระสงฆ์ในคณะคาร์ทูเซียน แต่ต่อมาเขารู้ว่านั่นไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเขา เมื่อเขาเสียชีวิต,หลังจากใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนคุณธรรมของคริสตชน บุตรผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขา,ตระหนักถึงความเข้มงวดของพระยุติธรรมของพระเจ้า,ได้ประกอบพิธีมิสซาจำนวนมากและสวดภาวนาอย่างสุดจิตใจเพื่อจิตวิญญาณที่เขารักอย่างสุดซึ้ง แต่นิมิตของบิดาของเขาที่ยังอยู่ในไฟชำระ,บังคับให้เขาเพิ่มกิจศรัทธาเป็นร้อยเท่า เขาทำพลีกรรมที่รุนแรงที่สุดและจำศีลอดอาหารอย่างยาวนาน ประกอบพิธีมิสซาและสวดภาวนา แม้กระนั้นก็ตาม,ยังต้องใช้เวลาถึงแปดปี,วิญญาณของบิดาจึงได้รับการปลดปล่อยจากไฟชำระ
น้องสาวของนักบุญมาลาคีถูกคุมขังในไฟชำระเป็นเวลานานมาก แม้จะมีการประกอบพิธีมิสซา,การสวดภาวนาและการทำพลีกรรมอย่างกล้าหาญที่นักบุญกระทำอุทิศให้เธอ!
มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับแม่ชีศักดิ์สิทธิ์ในปัมโปลนา,ซึ่งประสบความสำเร็จในการช่วยปลดปล่อยแม่ชีคาร์เมไลต์จำนวนมากให้พ้นจากไฟชำระ และกิจการหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้เวลานานตั้งแต่ 30 ถึง 60 ปี! แม่ชีคาร์เมไลต์อยู่ในไฟชำระเป็นเวลา 40, 50 และ 60 ปี! แล้วจะเป็นอย่างไรสำหรับผู้ที่อยู่ท่ามกลางการล่อลวงของโลกและด้วยความอ่อนแอทั้งหมดของพวกเขา
ระยะเวลาที่วิญญาณแต่ละดวงจะต้องอยู่ในไฟชำระนั้นไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับบาปที่แต่ละคนกระทำ และทำกิจใช้โทษบาปขณะที่อยู่บนโลก,การรับพระคุณการุณย์บางอย่าง ฯลฯ เราสามารถรับโทษในไฟชำระขณะที่อยู่บนโลกนี้ได้ด้วยการยอมรับความทุกข์เพื่อเป็นการชดเชยใช้โทษบาปที่เราทำซึ่งจะทำให้ระยะเวลาที่ต้องอยู่ในไฟชำระนั้นสั้นลง
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น