วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565

อัศจรรย์ที่เกิดจากนักบุญมาร์กาเร็ต มารีย์ อาลาก็อก

 



ถือได้ว่านักบุญมาร์กาเร็ต มารีย์ อาลาก็อกได้รับนิมิตที่พิเศษที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งสามารถได้รับ ในช่วงชีวิตอันแสนสั้นของเธอ,เธอมีอายุเพียง 43 ปี,พระเยซูทรงเปิดเผยดวงพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แก่เธอ และทรงสอนมาร์กาเร็ต มารีย์ถึงวิธีที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถเทิดทูนดวงพระหฤทัยของพระองค์ พระเยซูทรงส่งดวงพระหฤทัยของพระองค์เข้าไปในหัวใจของมาร์กาเร็ต มารีย์, เพื่อที่ส่วนที่เล็กที่สุดของดวงพระทัยอันเป็นภาชนะศักดิ์สิทธิ์แห่งพระโลหิตของพระองค์มีสถานที่อยู่ภายในหัวใจที่เต้นระริกของเธอเอง
 


การเปิดเผยอันสูงสุดที่พระเยซูทรงประทานให้มาร์กาเร็ต มารีย์ต้องอยู่เป็นศูนย์กลางแห่งความศรัทธาของเราเสมอ แต่เราอาจกล่าวถึงการอัศจรรย์ที่มาร์กาเร็ต มารีย์ได้กระทำเมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ เธออาศัยอยู่ในยุค 1600 และได้รับชื่อเสียงในฐานะผู้ทำอัศจรรย์ในขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่ และเวลานี้,เธอเป็นผู้คอยเสนอวิงวอนที่ยอดเยี่ยมในสวรรค์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราเฉลิมฉลองเธอในวันที่16 ตุลาคม
 
ให้เราระลึกก่อนว่าปีแรกๆของมาร์กาเร็ต มารีย์ในคอนแวนต์นั้นยากลำบากมาก และคุณแม่อธิการของเธอก็มองเธอด้วยความรู้สึกดูหมิ่น แต่ในช่วงบั้นปลายชีวิตของเธอ,ความเกลียดชังที่บรรดาซิสเตอร์คนอื่นๆมีต่อเธอนั้น,ได้กลับกลายเป็นความรัก Jean Joseph Languet ผู้เขียนชีวประวัติของเธอเขียนด้วยความยินดีว่า "ความอดทนและความอ่อนน้อมถ่อมตนของเธอมีชัยเหนือทุกสิ่ง และองค์พระบุตรของพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงหัวใจของผู้ที่เริ่มถวายเกียรติแด่พระองค์" อันหมายถึงบรรดาซิสเตอร์คนอื่นๆ พวกเขาเริ่มรวบรวมสิ่งของที่เธอเคยใช้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะเป็นวัตถุพระธาตุของมาร์กาเร็ต มารีย์,และผู้มาเยี่ยมคอนแวนต์ก็มีความต้องการอย่างมากสำหรับผมของเธอ
 
ในเวลาที่มาร์กาเร็ต มารีย์ เป็นผู้ดูแลบรรดาโนวิส(ผู้สมัคร)ในคอนแวนต์ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งต่อมาได้เป็นโพสตูลันต์ในคอนแวนต์,เมื่อเธอเข้าคอนแวนต์เพียงไม่กี่วันก็เกิดอุบัติเหตุ เธอได้รับบาดเจ็บที่ขาจากขวานที่เธอใช้ เธอใช้ขวานฟันท่อนไม้เพื่อทำเป็นฟืนและพลาดไปโดนขาของเธอ เธอกลัวมากว่าซิสเตอร์คนอื่นๆจะคิดว่าเธอไร้ความสามารถ,จึงได้ซ่อนอาการบาดเจ็บไว้ มันไม่ใช่เรื่องฉลาดที่ซ่อนเรื่องนี้ไว้ และเธอเจ็บปวดอย่างสาหัส แต่เธอได้รับแสงสว่างว่าถ้าเธอได้สัมผัสกับเครื่องแบบสีดำของมาร์กาเร็ต มารีย์,เธอจะได้รับการเยียวยาให้หายอย่างอัศจรรย์ ดังนั้นเธอจึงแอบไปข้างหลังมาร์กาเร็ต มารีย์และสัมผัสกับผ้าที่หนาของมากาเร็ตและแผลที่ขาก็หายเป็นปกติในทันที จำเป็นต้องเน้นว่าโพสตูลันต์ผู้นี้เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคนอื่นที่มีความทุพพลภาพและหายเป็นปกติหลังจากที่พวกเขาสัมผัสเครื่องแบบของ มาร์กาเร็ต มารีย์ และเมื่อเธอบอกกับมาร์กาเร็ต มารีย์ว่าบาดแผลที่ขาอันน่าสยดสยองได้หายไปแล้ว มาร์กาเร็ต มารีย์ก็ตกใจที่รู้ว่าเสื้อโค้ตสีดำที่เธอสวมใส่เป็นสาเหตุแห่งอัศจรรย์ และเธอได้ขอร้องให้โพสตูลันต์ผู้นี้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แต่โพสตูลันต์ไม่สามารถควบคุมตัวเองและทำให้เรื่องนี้เป็นที่รู้กันจนได้
 
มีพระสงฆ์องค์หนึ่งซึ่งป่วยหนัก บรรดาผู้ที่คอยดูแลคิดว่าท่านอยู่บนหน้าผาแห่งความตายแล้ว นี่คือยุค 1600 และยังไม่มีความก้าวหน้าทางด้านยารักษาเท่าที่ควร พระสงฆ์ท่านนั้นดูเหมือนจะอยู่ใกล้ความตายทุกที เขาสูญเสียความรู้สึกทั้งหมดและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นอกจากนี้,ปอดของเขาเต็มไปด้วยของเหลวและเขาก็หายใจไม่ออก เขาไม่ได้รับการวินิจฉัยที่เพียงพอ แต่ปากของเขาปิดอยู่และพวกเขาต้องหักซี่ฟันบางซี่เพื่อที่พวกเขาจะได้ฉีดยาบางอย่างเข้าไปได้ มาร์กาเร็ต มารีย์ได้รับการขอร้องให้สวดภาวนาเพื่อพระสงฆ์ และหลังจากที่เธอสวดภาวนาแล้ว,เธอได้ให้คำแนะนำว่า ให้พระสงฆ์ดื่มน้ำที่พวกเขาได้จุ่มกระดาษโน้ตที่เธอเขียนไว้ กระดาษโน๊ตนั้นมีคำวอนขอที่เขียนด้วยลายมือของมาร์กาเร็ต มารีย์,วอนขอต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ มาร์กาเร็ต มารีย์ได้รับพระพรแห่งการทำนาย และเธอรับรองว่าพระสงฆ์จะหายเป็นปกติ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่กล้าหาญ,เมื่อพิจารณาจากอาการอัมพาตทั้งหมดของเขา เธอยังกล่าวอีกว่า,เขาจะมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความศรัทธาต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์
 
ไม่นาน,พระสงฆ์ก็ได้ดื่มน้ำที่สัมผัสกับกระดาษโน้ต เมื่อพระสงฆ์หายเป็นปกติ,ท่านได้เทศน์สอนคนอื่นๆเกี่ยวกับพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยความกระตือรือร้นจนคำทำนายของมาร์กาเร็ต มารีย์ได้สำเร็จสมบูรณ์ ต่อมาพี่ชายของพระสงฆ์ได้ให้สัตย์สาบานเป็นพยานรับรองกรณีอัศจรรย์นี้ที่ช่วยชีวิตพระสงฆ์หนุ่มท่านนี้จากหลุมศพ
 
มีซิสเตอร์คนหนึ่งที่ทุกข์ทรมานจากโรควิตกกังวลเป็นอย่างมาก เธอเล่าความปวดร้าวของจิตใจให้มาร์กาเร็ต มารีย์,ผู้ซึ่งได้ยินจากพระเยซูเจ้าว่าปัญหาของผู้หญิงคนนี้จะจบลงได้อย่างไร มาร์กาเร็ต มารีย์บอกซิสเตอร์ว่าพระเยซูต้องการให้เธอรักพระองค์มากขึ้นและไว้วางใจพระองค์มากขึ้น จากนั้นเธอก็สั่งซิสเตอร์ว่า “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง,พระองค์ทรงประสงค์ให้เธอไม่ละเว้นจากการรับศีลมหาสนิท” ซิสเตอร์ผู้นี้ล้มเหลวในการรับศีลมหาสนิทมาก่อน แต่เธอเริ่มรับศีลศักดิ์สิทธิ์บ่อยครั้งขึ้นและความวิตกกังวลของเธอก็หายไปและเธอก็เต็มไปด้วยความสงบสุข
 
บางคนอาจคิดว่าเรื่องต่อไปนี้เป็นอัศจรรย์เล็กๆ แต่ฉันถือว่าเป็นอัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ ซิสเตอร์คนหนึ่งมีพี่ชายซึ่งเป็นนายทหารในกองทัพของกษัตริย์ และมาร์กาเร็ต มารีย์ทำนายว่าเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบ แต่เขาจะได้รับพระหรรษทานอย่างหนึ่งเพื่อความรอดของเขา ทหารผู้นี้ถูกโจมตีที่ศีรษะระหว่างการถูกปิดล้อมที่ Landau ซึ่งบาดแผลน่าจะฆ่าเขาทันที แต่ด้วยความประหลาดใจของหน่วยแพทย์ทหาร,เขามีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองวันและได้รับพิธีกรรมสุดท้ายทันเวลาสำหรับสถานะที่เขาเคยละทิ้งพระประสงค์ของพระเจ้า เขาได้กลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์และมีความสุข อัศจรรย์คือชีวิตของเขาถูกยืดออกไปเพื่อที่เขาจะได้สารภาพบาปครั้งสุดท้ายและเตรียมตัวสำหรับความตาย
 
มาร์กาเร็ต มารีย์กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นจากพรสวรรค์ในการรู้ถึงเหตุการณ์ในอนาคต และเมื่อโนวิสที่อยู่ภายใต้การดูแลของเธอมีความคิดที่จะปลูกไม้ผล เพื่อที่ว่าสักวันหนึ่งเธอจะกินผลไม้นั้น แต่มาร์กาเร็ต มารีย์หยุดแผนนี้ "มันไม่คุ้มสำหรับเวลาของเธอ" เธอบอกกับโนวิสว่า "เพราะเธอจะไม่ได้เป็นนักบวชในบ้านหลังนี้" ปรากฏว่าโนวิสคนนั้นได้จากคอนแวนต์ไป มาร์กาเร็ต มารีย์ทำนายล่วงหน้าว่าใน 14 คนที่สมัครเข้าคณะ,มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ยังคงได้รับสถานะเป็นแม่ชี คำพูดของเธอเป็นจริงตรงตามตัวอักษรและโนวิสที่ต้องการปลูกต้นไม้ผลเป็นหนึ่งใน 12 คนที่จากคอนแวนต์ไปและกลับไปยังโลกภายนอก
 
เรื่องราวข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างสั้นๆของอัศจรรย์ที่มาร์กาเร็ต มารีย์ได้ทำ และยังมีอีกมากมายที่เธอขอให้เก็บเป็นความลับ การรักษาความวิตกกังวลแบบเดียวกับที่เธอแนะนำไว้กับซิสเตอร์ท่านนั้น นั่นคือ การรับศีลมหาสนิทบ่อยครั้ง,อาจเป็นวิธีรักษาของเราเช่นกัน แต่บางทีเราต้องจำไว้ว่า มาร์กาเร็ต มารีย์เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของโรคโปลิโอ เธอได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 1920 ในวันที่มีการระบาดของโรคโปลิโอทั่วสหรัฐอเมริกา โดยส่วนตัวแล้วฉันรู้จักสตรีสูงอายุคนหนึ่งที่มีความศรัทธาต่อมาร์กาเร็ต มารีย์ นานมาแล้ว,เมื่อลูกเล็กๆของเธอป่วยเป็นโรคโปลิโอ,เธอสวดวอนขอต่อมาร์กาเร็ต มารีย์ให้ช่วยรักษา และลูกของเธอก็หายดีจนทำให้หมองงงัน ทั้งๆที่เด็กน้อยมีสุขภาพที่ย่ำแย่ แม่ผู้นี้บอกกับฉัน(เพื่อที่ฉันจะได้เขียนเรื่องนี้โดยไม่เปิดเผยตัวตน) แต่เธอไม่สามารถพาตัวเองไปเผยแพร่พระคุณอันยิ่งใหญ่ที่มอบให้กับครอบครัวของเธอได้ เธอรู้สึกว่ามันจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง ฉันแบ่งปันตอนนี้เพราะมันพูดถึงอำนาจการวอนขออันยิ่งใหญ่ของมาร์กาเร็ต มารีย์
 
เราเทิดทูนดวงพระหฤทัยศํกดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า,แต่เราก็อาจชื่นชมในมาร์กาเร็ต มารีย์ด้วย
 
ขอให้คุณมีความสุขในวันฉลองของนักบุญมาร์กาเร็ต มารีย์
 
* * *
 
บทความนำมาจากชีวประวัติของ St Margaret Mary by Jean Joseph Languet
 
งานศิลปะคลาสสิกวาดโดย Tommaso Gazzarin
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น