วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

แม่พระถวายองค์ในพระวิหาร(ตอนที่1)

 




แม่พระถวายองค์ในพระวิหาร(ตอนที่1)
 
วันที่ 21 พฤศจิกายน ฉลองแม่พระถวายองค์ในพระวิหาร
 
เมื่อใกล้ถึงเวลาที่มารีย์จะถูกพาไปที่พระวิหาร,นักบุญอันนามักจะสอนเธอ โดยสอนคำอธิษฐานภาวนาและกฎเกณฑ์ทางศาสนาต่างๆ เธอรู้วิธีอ่านอยู่แล้ว,แม้ว่ามารีย์จะมีอายุเพียง 3 ขวบครึ่งและบอบบางมาก แต่มารีย์ดูเหมือนเด็กผู้หญิงอายุห้าหรือหกขวบ,ผมยาวสีเข้มของเธอห้อยลงมาตรงปลายเป็นลอน วันหนึ่ง,สมณะชราสามคนมาจากนาซาเร็ธเพื่อตรวจสอบเธอ,เพื่อพิจารณาว่าเธอเหมาะสมกับการรับใช้ในพระวิหารหรือไม่ หลังจากอธิบายหน้าที่ต่างๆที่เธอจะต้องทำให้ฟังแล้ว,พวกเขาถามคำถามบางอย่างกับเธอ คำตอบของเธอเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดที่ไร้เดียงสาจนสมณะเหล่านั้นอดยิ้มไม่ได้อันเท่ากับเป็นการรับรองเธอ,ในขณะที่พ่อแม่ของเธอร้องไห้ด้วยความยินดี ระหว่างรับประทานอาหาร,สมณะที่ชราที่สุดพูดกับเธอว่า "ในการถวายเธอแด่พระเจ้า,บิดามารดาของเธอสัญญาว่าเธอจะเลิกกินและดิ่มเหล้าองุ่น,น้ำส้มสายชู,องุ่น,และมะเดื่อ
 
เธอต้องการเพิ่มเติมการพลีกรรมอื่นๆอีกบ้างไหม? มารีย์ชอบน้ำส้มสายชูมาก มารีย์ตัดสินใจเลิกกินปลา,เนื้อสัตว์,และผลไม้ทุกชนิดยกเว้นผลเบอร์รี่ เธอต้องการนอนบนพื้นและลุกขึ้นอธิษฐานภาวนา 3 ครั้งทุกคืน พ่อแม่ของเธอรู้สึกตื้นตันใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้. นักบุญโยอาคิมอุ้มเธอขึ้นในอ้อมแขนของเขา,พลางร้องไห้และพูดกับเธอว่า: "ลูกรักของพ่อ,นี่มันมากเกินไป! ถ้าลูกใช้ชีวิตลำบากเช่นนี้ พ่อของเจ้าจะไม่มีวันได้พบเจ้าอีก...”
 

แต่สมณะผู้นั้นยืนกรานว่าเธอควรสวดภาวนาเพียงครั้งเดียวในตอนกลางคืน,เหมือนกับเด็กหญิงคนอื่นๆ และเธอต้องให้ตัวเองได้พักผ่อนและให้เธอกินปลาในวันฉลองใหญ่ทั้งหมด เขายังบอกกับเธอด้วยว่าเธอไม่ต้องไปร่วมกับเด็กหญิงที่ยากจนที่สุดในการซักเสื้อคลุมที่เปื้อนเลือดของสมณะที่ประกอบพิธีถวายยัญบูชา แต่มารีย์ตอบอย่างไม่ลังเลว่าเธอจะเต็มใจทำงานนั้นถ้าคิดว่าเธอมีความเหมาะสม บรรดาสมณะต่างพากันประหลาดใจและชื่นชมยินดี และสมณะที่ชรามากที่สุดก็อวยพรเธอ จากนั้นนักบุญอันนาซึ่งรู้สึกซาบซึ้งใจ,ได้โอบกอดมารีย์แนบหัวใจของเธอและจูบเธอด้วยความรักที่อ่อนโยน ในขณะที่นักบุญโยอาคิมลูบไล้เธอด้วยความเคารพ ตลอดการทดสอบนี้,มารีย์อยู่ภายใต้การแนะนำและการดลใจของทูตสวรรค์ของเธอ,มารีย์ยังคงจดจำทุกสิ่งได้อย่างสมบูรณ์,และในขณะเดียวกันเธอก็สวยงามและน่ารักอย่างน่าทึ่ง สองสามวันต่อมา,ทุกคนในบ้านของนักบุญโยอาคิมกำลังยุ่งกับการเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปเยรูซาเลม
 
ชุดสำหรับพิธีอันประณีตหลายชุดซึ่งทำขึ้นสำหรับมารีย์ถูกจัดวางอย่างระมัดระวัง ในที่สุด,เช้าวันหนึ่ง ตอนรุ่งสาง,ลาสองตัวก็บรรทุกสัมภาระ,และนักบุญโยอาคิมก็ออกเดินทางพร้อมกับนักบุญอันนา อันนาอุ้มมารีย์ไว้ในอ้อมแขนของเธอ เด็กหญิงผู้ศักดิ์สิทธิ์มีความสุขมากที่ได้ไปพระวิหาร ระหว่างการเดินทาง,พวกเขามักจะต้องเดินทางผ่านหมอกที่เย็นยะเยือกเนื่องจากเป็นฤดูฝน เมื่อพวกเขาหยุดค้างคืนที่โรงแรมหรือบ้านของมิตรสหายบางคน,มารีย์มักจะขึ้นไปหาแม่ของเธอและเอาแขนโอบรอบคอของนักบุญอันนาอย่างสนุกสนาน นักบุญโยอาคิมพูดซ้ำหลายครั้งด้วยความเศร้า: "ลูกเอ๋ย พ่อจะไม่ได้พบลูกอีก..." เมื่อมาถึงนครศักดิ์สิทธิ์,พวกเขาได้พบกับกลุ่มเพื่อนและเด็กที่พาพวกเขาไปที่บ้านของเศคาริยาห์,บิดาในอนาคตของยอห์นผู้ทำพิธีล้าง,ที่ซึ่งพวกเขาได้รับการต้อนรับและรับประทานของว่าง ในบรรดาคนที่อยู่ที่นั่น,มีเด็กหญิงคนหนึ่งอายุ 10 ขวบ,ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในนามนักบุญเวโรนิกา เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น,นักบุญโยอาคิมนำสัตว์ของเขาไปถวายที่พระวิหารพร้อมกับผู้ชายหลายคน ขณะที่นักบุญอันนาพร้อมด้วยหญิงสาวและเด็กผู้หญิงหลายคนพามารีย์ไปที่พระนิเวศของพระเจ้าในขบวนแห่อันศักดิ์สิทธิ์ที่สวยงามตามถนนในนครศักดิ์สิทธิ์ มารีย์น้อยเดินตามแม่ของเธอ,เธอสวมชุดคลุมสีฟ้าสวยงามพร้อมพวงมาลัยดอกไม้รอบแขนและคอของเธอ และในมือข้างหนึ่งเธอถือเทียนที่ประดับด้วยดอกไม้
 
- - - - - - - - - 
แหล่งที่มา: ชีวิตของมารีย์ตามที่ผู้ได้รับพระพรพิเศษได้เห็น 
(รวบรวมจากนิมิตของ น.เอลิซาเบท,น.บริจิต, บุญราศีมารีย์แห่งอะเกรดา,บุญราศีอันนา แคทเธอรีน เอมเมอริก)
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น