วิญญาณของประกาศกซามูเอลปรากฏต่อกษัตริย์ซาอูลตามที่เล่าไว้ในบทที่ 28 ของหนังสือเล่มแรกของซามูเอล (ภาพวาดโดย Nikolai Nikolaevich Ge, “The Witch of Endor”, 1857)
ด้วยความกลัวว่าอดีตสามีที่ล่วงลับไปแล้วจะมาหลอกหลอนเธอ หญิงรายนี้จึงไปพบคุณพ่อวินเซนต์ แลมเพิร์ต(Fr.Vincent Lampert) พระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจประจำสังฆมณฑลอินเดียนาโพลิส,รัฐอินเดียนา นับตั้งแต่อดีตสามีของเธอเสียชีวิต ก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นในห้องโปรดเก่าของเขา
ผู้หญิงคนนั้นอาศัยอยู่ตามลำพัง ดังนั้นเมื่อเธอพบว่าเฟอร์นิเจอร์เคลื่อนย้ายไปรอบๆโดยที่ไม่มีใครทำ และเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่งที่ภาพงานแต่งงานเก่าๆยังคงปรากฏอยู่บนโต๊ะ,บางครั้งมันก็หงายขึ้น,บางครั้งก็คว่ำลง
การแต่งงานสิ้นสุดลงเพราะความไม่ซื่อสัตย์ เมื่อชายคนนั้นประกาศว่าเขาจะไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ภรรยาก็บอกเขาว่า: “ไปเน่าตายในนรกเถอะ!”
เวลาผ่านไปและชายคนนั้นก็มีอาการป่วยระยะสุดท้าย ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต,เขากลับใจจากการทำบาปผิดประเวณีและขอให้ภรรยาอภัยให้เขา “ไปเน่าตายในนรกเถอะ!” คือคำตอบของเธอ เธอไม่ได้ตั้งใจจะยกโทษให้เขาสำหรับความเจ็บปวดที่รุนแรงที่เขาทำกับเธอซึ่งทำลายการแต่งงานของพวกเขา
แต่ตอนนี้,หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว,ดูเหมือนว่าเขากำลังทำให้อดีตภรรยารู้ว่าเขากำลังปรากฏต่อเธอ เขาหลอกหลอนเธอจากการแก้แค้นใช่ไหม? หรือตอนนี้เขาอยู่ในนรกและกำลังลงโทษเธอ?
หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว คุณพ่อแลมเพิร์ตเชื่อว่าชายคนนั้นอยู่ในไฟชำระและต้องการคำภาวนาอุทิศเพื่อเขา พระเจ้าทรงอนุญาตให้เขาทำให้อดีตภรรยาของเขารู้ว่าเขากำลังติดต่อกับเธอ “ผมพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอยกโทษให้เขา” คุณพ่อแลมเพิร์ตกล่าว “ผมสวดภาวนาให้เขาพร้อมกับเธอและทุกอย่างก็หยุดลง”
ปีศาจหรือวิญญาณในนรก ?
ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณพ่อแลมเพิร์ตพบกับเรื่องหลอนดังกล่าว “ผมได้ประกอบพิธีมิสซาในสถานที่ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและมักจะพบกับเรื่องนี้” ท่านกล่าว “ระหว่างพิธีมิสซา เมื่อเราอธิษฐานภวนาเพื่อบุคคลนั้น,แล้วทุกอย่างก็จะสงบลง เรารู้ว่านี่คือสิ่งที่จำเป็น”
หมายความว่าบ้านผีสิงมีจริงใช่หรือไม่? รายการทีวี,ภาพยนตร์,และหนังสือนักล่าผีจำนวนมากใช้ประโยชน์จากแนวคิดนี้ หลายคนไม่เชื่อในเรื่องบ้านผีสิง,ในขณะที่คนอื่นตำหนิพวกเขาในกิจกรรมที่มาจากปีศาจ แต่มีวิญญาณที่เป็นมิตรหรือไม่?
“ผมเชื่อว่าวิญญาณสามารถกระทำการในเรื่องนี้ได้ หากพวกเขาต้องการคำภาวนาและพระเจ้าทรงอนุญาต” คุณพ่อแลมเพิร์ตกล่าว แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าวิญญาณในไฟชำระทำให้เกิดกิจกรรมลึกลับในบ้านหรือว่านี่เป็นผลงานของปีศาจ? “ถ้าทุกอย่างเงียบสงบลงเมื่อเราเริ่มสวดภาวนา แสดงว่าวิญญาณนั้นอยู่ในไฟชำระ” คุณพ่อแลมเพิร์ตกล่าว “ถ้ามันเป็นปีศาจ สิ่งต่างๆจะยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นเพราะปีศาจกำลังถูกทรมานด้วยคำภาวนา”
หลายคนมาหาคุณพ่อแลมเพิร์ต,รายงานเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในบ้านของพวกเขา “หากเป็นวิญญาณที่ติดอยู่ในไฟชำระ,เขาก็จะแสวงหาคำภาวนาและพยายามเรียกความสนใจจากผู้คน” ท่านอธิบาย “เขาต้องการคำภาวนาเหล่านั้นเพื่อไปยังที่ที่เขาต้องการ”
ก่อนที่จะกระทำการใดๆในสถานการณ์บ้านผีสิง,คุณพ่อแลมเพิร์ตกล่าวว่าท่านจะสอบสวนและใช้เวลาในการสวดภาวนา “ปกติผมค่อนข้างจะระมัดระวังก่อนที่จะตกลงไปประกอบพิธีกรรม” ท่านกล่าว “ผมจะสวดภาวนาเพื่อขับไล่ความชั่วร้ายแต่ยังไม่ประกอบพิธีกรรมใดๆ ผมไม่ต้องการให้มีอะไรเกิดขึ้นที่อาจเป็นการดูหมิ่นศีลมหาสนิท” ท่านอธิบายว่าในระหว่างการไล่ผี ถ้าปีศาจปรากฏตัว พระสงฆ์จะต้องดูแลปกป้องศีลมหาสนิทอย่างที่สุด
โลกที่มองไม่เห็น
คุณพ่อแพทริค (ชื่อสมมุติไม่ใช่ชื่อจริงของท่าน) เป็นพระสงฆ์ประจำโบสถ์และไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของผู้คนมากนัก ท่านยังเป็นพระสงฆ์ผู้ขับไล่ปีศาจประจำสังฆมณฑลของท่านด้วย เมื่อถูกถามว่ามีสิ่งที่เรียกว่าผีหรือไม่,ท่านได้อ้างถึงคำในบทข้าพเจ้าเชื่อ(Nicene Creed): “ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงเนรมิตฟ้าดิน,ทุกสิ่งที่เห็นได้และมองไม่เห็น…”
“ในฐานะคริสตชนทั่วไป,ถ้าคุณไม่ตระหนักว่ามีโลกที่มองไม่เห็น แสดงว่าคุณตาบอดต่อโลกนั้น” ท่านกล่าวว่า นอกจากทูตสวรรค์ 9 คณะและปีศาจแล้ว ท่านบอกว่ายังมีวิญญาณจำนวนมากที่ยังคงยึดติดอยู่กับร่างกาย
“หลังจากความตาย,วิญญาณของเราจะไปอยู่ในสวรรค์หรือในนรก แต่ก็มีวิญญาณที่ยังไม่อยู่ในสวรรค์เพราะความไม่สมบูรณ์ของพวกเขา” คุณพ่อแพทริคกล่าวว่า “บางครั้งพวกเขาก็ยังคงยึดติดอยู่กับสิ่งต่างๆบนโลกนี้ ผมเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ผู้คนรายงานว่าเป็นผี วิญญาณที่แยกออกจากร่างแล้วยังคงยึดติดอยู่กับสิ่งของหรือผู้คน”
คุณพ่อแพทริคกล่าวว่าท่านได้พบกับเรื่องนี้หลายครั้ง “ทันทีที่ผู้คนบอกผมว่าพวกเขามีประสบการณ์เหล่านี้ ผมก็พยายามค้นหาชื่อของเขา” ท่านกล่าว “ผมต้องการแยกแยะว่าเรากำลังเผชิญกับวิญญาณแบบไหน อาจเป็นวิญญาณในไฟชำระหรือวิญญาณของคนที่ถูกสาปแช่งที่ยังไม่ได้ไปพบกับพระเจ้าเพื่อรับการพิพากษา”
สำหรับคนที่ถูกสาปแช่ง,คุณพ่อแพทริคกล่าวว่ามีสิ่งที่เรียกว่านรก “มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงทราบถึงโอกาสทั้งหมดที่พวกเขามีและสิ่งที่พวกเขาปฏิเสธ” ท่านกล่าว “ผมเชื่อว่าผมเคยได้พบกับวิญญาณที่ถูกสาปแช่ง” ตามที่ท่านพูดไม่มีเทววิทยาเฉพาะที่สอนสิ่งที่ต้องทำในกรณีเหล่านั้นและเป็นหัวข้อที่ขัดแย้งกัน ท่านปฏิบัติต่อวิญญาณเหมือนที่ท่านทำในพิธีขับไล่ปีศาจ,ด้วยการสวดภาวนาให้พวกเขาจากไป
อย่างไรก็ตาม,คุณพ่อแพทริกกล่าวว่าท่านได้พบกับสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่วิญญาณของเขายังคงยึดติดอยู่บนโลก วิญญาณซึ่งไม่มีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมสำหรับความตายหรือการฝังศพตามแบบคริสตชน ในกรณีเช่นนี้,ท่านกล่าวว่าวิญญาณเหล่านี้สามารถพบความสงบสุขได้โดยอาศัยการสวดภาวนาและการประกอบพิธีมิสซาเพื่อพวกเขา
“วิญญาณมากมายยังคงยึดติดอยู่กับโลก” คุณพ่อแพทริคกล่าวว่า “พระเจ้าทงสร้างเราเพื่อพระองค์เอง และเราจะไม่พบกับความสงบจนกว่าเราจะอยู่กับพระองค์”
คุณพ่อแพทริกเตือนประชาชนว่าอย่าไปเสาะหานักล่าผีที่มองหาบ้านผีสิงและมาติดตั้งอุปกรณ์อาถรรพณ์บางอย่าง “พวกเขาเริ่มขอสิ่งของเพื่อจะแสดงและติดต่อกับวิญญาณเพื่อรับคำตอบ” ท่านกล่าว “นั่นเป็นการละเมิดจริงๆ เป็นการไม่เคารพวิญญาณที่อาศัยอยู่ที่นั่น มันเหมือนกับการตั้งกล้องวงจรปิดในที่ที่คุณอาศัยอยู่และเอาไมโครโฟนติดหน้าคุณในขณะที่คุณพยายามจะรับประทานอาหารเช้า”
แทนที่จะทำดังนั้น,คุณพ่อแพทริคบอกว่าเราควรสวดภาวนาเพื่อวิญญาณที่จากไป และถ้าใครคิดว่าบ้านของพวกเขามีผีสิง พวกเขาควรขอความช่วยเหลือจากพระสงฆ์ในท้องที่
- - - - - - -
เดือนพฤศจิกายน,เราระลึกถึงวิญญาณในไฟชำระ พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราที่อยู่ในโลกนี้ พวกเขาอาจเป็นญาติพี่น้องหรือเพื่อนของเรา ขอให้เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น