วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2565

การขับไล่ปีศาจออกจากเด็ก

 


บทความนี้นำมาจากหนังสือ The Exorcism Files: True Stories of Demonic Possession โดย Adam Blai. 
 
เด็กคนหนึ่งที่ออกรายการทีวีเกี่ยวกับเด็กซึ่งคิดว่าเขามีพลังจิตได้กลายเป็นคนไข้กรณีหนึ่งของผม เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ได้รับประสบการณ์ด้านลบกับสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นวิญญาณ เธอเข้าร่วมในรายการของทีวี,และในการแสดงของรายการนี้,เธอได้รับการฝึกให้เปิดใจกว้างต่อวิญญาณและการแสดงออกของวิญญาณ,รวมถึงสิ่งที่เป็นแง่ลบด้วย ครอบครัวของเธอเป็นคริสเตียนโปรเตสแตนต์,แต่ความรู้สึกอ่อนไหวทางจิตดูเหมือนจะดำเนินไปในครอบครัวนี้และเป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา
 
ในคืนที่รายการของเธอออกอากาศ,คนในครอบครัวทั้งหมดอยู่ในรายการด้วยเพื่อดูและแสดงความดีใจที่เธอได้อยู่ในทีวี อย่างไรก็ตาม,ในระหว่างการแสดง,เธอทรุดตัวลงกับพื้น,เริ่มบิดตัว,พูดภาษาหยาบคายและดูหมิ่นเหยียดหยามด้วยเสียงผู้ชาย ทุกคนในครอบครัวของเธอตกใจและหวาดกลัวมาก
 
แม่ของเด็กติดต่อผมและถามว่าผมจะมาช่วยเธอได้ไหม ลูกสาวเองยังบอกด้วยว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาไปสอบถามที่โบสถ์คาทอลิกในท้องที่แล้ว,แต่พระสงฆ์ไม่สะดวกมาที่บ้าน ศาสนจารย์ในนิกายของพวกเขาคือปู่ของเด็กหญิง,แต่เขารู้สึกไม่สบายใจที่จะสวดอธิษฐานให้กับเธอหลังจากที่เขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรายการทีวี หลังจากพาเธอไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายแล้ว,ผมก็ตกลงที่จะมาพูดคุยกับเธอและครอบครัว
 
เมื่อผมมาถึงบ้าน,สมาชิกในครอบครัวหลายคนอยู่ที่นั่น เด็กหญิงอธิบายถึงประสบการณ์ชีวิตก่อนหน้านี้ของเธอ,ลักษณะของการแสดงในรายการทีวีเป็นอย่างไร,และเธอสลบไปในช่วงที่ออกอากาศของรายการ เธอบอกว่าตั้งแต่นั้นมา,เธอได้เห็นร่างเงาสีดำ,ได้ยินเสียงที่พูดดูหมิ่นศาสนา,และเสียงนั้นบอกให้เธอฆ่าแม่ของเธอ เธอยังมีช่วงเวลาที่สูญเสียไป หลังจากนั้นเธอก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งในห้องอื่น,หรือนอกบ้าน,หรือในบ้านของคนอื่น
 
หลังจากถามคำถามมากมายและได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ผมถามคุณปู่ของเธอซึ่งเป็นศาสนจารย์ของพวกเขาว่าต้องการจะอธิษฐานภาวนาเพื่อเธอด้วยหรือไม่ เขาบอกว่าไม่ เขาบอกว่าอยากให้ผมเป็นผู้ทำเช่นนั้น ผมได้อธิบายให้เขาฟังว่าผมเป็นเพียงฆราวาสไม่ใช่พระสงฆ์คาทอลิก แต่พวกเขายังคงยืนกราน และเด็กหญิงคนนั้นก็ต้องการที่จะได้รับคำอธิษฐานภาวนา ผมแนะนำว่าให้เริ่มด้วยการอวยพรบ้านอย่างถี่ถ้วนทุกห้อง เนื่องจากบ้านไม่เคยได้รับการอวยพรมาก่อนเลย ผู้เป็นแม่พาผมไปรอบๆบ้านในขณะที่คนอื่นๆอยู่ในห้องนั่งเล่น ห้องของลูกสาวอยู่ในห้องใต้ดินที่มีแสงสว่างน้อยและพื้นเป็นแผ่นกระดานไม้สีเข้ม ขณะอยู่ที่นั่นกับแม่ของเธอ,ผมหยิบน้ำมันศักดิ์สิทธิ์และเจิมเป็นรูปไม้กางเขนเล็กๆหลายอันบนผนัง,เพดาน,และใต้เตียงและหลังโต๊ะข้างเตียง ทั้งหมดมีการเจิมรูปไม้กางเขนสิบหกรูป
 
จากนั้นเราก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อเข้าร่วมกับคนในครอบครัวอีกครั้ง ลูกสาวดูแตกต่างออกไป,เธอจ้องมาที่ผมด้วยความเกลียดชังในดวงตาของเธอ เธอเอนหลังพิงโซฟาแล้วค้อมหลังเหมือนแมวอย่างน่าสงสัย มือของเธอเป็นกรงเล็บและตะกุยเข้าไปในผ้าของโซฟา ผมนั่งลงข้างเธอ,โดยมีมารดาอยู่อีกฝั่งหนึ่ง และเริ่มสวดภาวนาต่อบรรดานักบุญอย่างนุ่มนวลขณะแตะไหล่เธอ เธอเริ่มทำเสียงแปลกๆและกระซิบว่า “ไม่” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากสวดภาวนาประมาณสิบห้านาที,เธอก็เดินกะโผลกกะเผลกและเงียบไป เมื่อเธอมีสติคืนมา,เธอดูดีขึ้น เธอบอกว่าทุกอย่างเงียบไปและเธอรู้สึกจิตใจสงบ เราสวดภาวนาร่วมกันอีกเล็กน้อย และไม่มีปฏิกิริยาใดๆอีก ผมเก็บของแล้วเริ่มขับรถกลับบ้าน
 
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา,แม่ของเด็กหญิงโทรมาหาผม ลูกสาวของเธอมีอาการดิ้นรนอีกครั้งและเริ่มพูดเป็นเสียงอื่นบ่อยขึ้น เธอไม่ได้กลับเข้าไปในห้องของเธอตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ผมมา เธอพูดด้วยน้ำเสียงโมโหว่าเธอจะไม่ไป “ในกล่องไม้กางเขนสิบหกอันนั่น” เธอถามว่าผมจะกลับมาอีกได้ไหม เพราะเธอไม่แน่ใจว่าจะควบคุมลูกสาวตัวน้อยของเธอได้นานแค่ไหน ผมตกลงไปในวันถัดไป
 
ครั้งนี้,มีสมาชิกในครอบครัวน้อยลง และผู้เป็นแม่ก็นั่งโต๊ะตรงข้ามกับลูกสาวของเธอที่โต๊ะในครัว ขณะที่ผมสวดภาวนา,วิญญาณก็แสดงออกอีกครั้งและเริ่มพูดสิ่งที่ไม่ดีกับผมและกับแม่ของเธอ แม่ของเธอตะโกนให้มันออกไปจากลูกสาวของเธอ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เสียงผู้ชายพูดประมาณว่า “ก็ได้ ถ้าแกไม่ต้องการข้า!” และลูกสาวก็เดินกะเผลก,และเธอก็รู้สึกตัวขึ้น เธอพูดอีกครั้งว่าทุกอย่างเงียบไปแล้ว คราวนี้,เธอสามารถกลับไปที่ห้องนอนของเธอได้ และเธอก็ไม่มีอาการใดๆ เกิดขึ้นอีกในปีต่อๆมา ความสามารถทางด้าน "พลังจิต" ทั้งหมดของเธอหายไปเมื่อปีศาจจากไป
 

 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น