ความคิดของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ปัจจุบันได้ให้คำอธิบายที่น่าสนใจเกี่ยวกับ "เลขของสัตว์ร้าย"
ในบทที่ 13 ข้อ 18 ของหนังสือวิวรณ์ของยอห์น มีใจความว่า
“ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขของมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ หกร้อยหกสิบหก (666)”
วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2000 ขณะที่ยังดำรงตำแหน่งประธานของสังฆกระทรวงหลักคำสอนแห่งความเชื่อ พระคาร์ดินัลโจเซฟ รัทซิงเกอร์(Joseph Ratzinger )ในขณะนั้นได้ปราศรัยระหว่างพิธีเปิดสัปดาห์แห่งความเชื่อครั้งที่สามของสังฆมณฑลในอาสนวิหารปาแลร์โม,ในซิซิลี ต่อหน้าผู้ร่วมประชุมประมาณ 1,500 คน ผู้คน. สุนทรพจน์นั้น,ซึ่งถึงแม้จะไม่เป็นที่รู้จักเท่ากับสุนทรพจน์ Regensburg Address ที่มีชื่อเสียงของท่านก็ตาม, ปัจจุบันเรียกกันทั่วไปว่า Ratzinger’s conference on Fatherhood and Apocalypse
ในการประชุมครั้งนี้ ท่านรัทซิงเกอร์ได้เตือนผู้ร่วมประชุมเกี่ยวกับอันตรายของเทคโนโลยีชีวภาพ โดยอธิบายว่าการลดความสำคัญของปิตุภาพ(ความเป็นบิดา)ของมนุษย์ให้กลายเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางชีววิทยาอย่างหนึ่งเท่านั้น ทำให้ขาดมิติของความเป็นมนุษย์และจิตวิญญาณไป ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามที่ทำให้คำพูดทั้งหมดที่เราอาจพูดถึงพระเจ้า,พระบิดานั้นกลายเป็นสิ่งว่างเปล่า “การสลายตัวของปิตุภาพ(ความเป็นบิดา)และมาตุภาพ(ความเป็นมารดา)” ท่านอธิบายว่า “เชื่อมโยงกับการสลายตัวของความเป็นบุตรและธิดาของเรา”
ตัวเลขไม่ใช่ชื่อ
สิ่งนี้อาจเกี่ยวข้องกับตัวเลขของสัตว์ร้ายในพระธรรมวิวรณ์หรือไม่? ข้อวิพากย์ของท่านรัทซิงเกอร์ อธิบายว่า สัตว์ร้ายซึ่งเป็นศัตรูกับพระเจ้าเป็นตัวละครตัวเดียวในพระคัมภีร์ที่ไม่มีชื่อแต่เป็นตัวเลข ในการเปิดเผยในพระคัมภีร์ไบเบิล,พระเจ้าผู้ทรงเฝ้าระแวดระวังทรงเปิดเผยสัตว์ร้ายด้วยชื่อชื่อหนึ่ง
ในการกระทำนี้,ท่านรัทซิงเกอร์ให้เหตุผลว่าหมายถึงความปรารถนาของพระเจ้าที่จะเข้าสู่การมีส่วนร่วมกับมนุษย์ ศัตรูของพระเจ้า “สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่มีชื่อ แต่เป็นตัวเลข […] สัตว์ร้ายเป็นตัวเลขตัวหนึ่งและแปลงเป็นตัวเลขหลายตัว”
ผู้เขียนข่าวบางคนมีความคิดว่า พระคาร์ดินัลรัทซิงเกอร์ในตอนนั้นกล่าวถึงเหตุการณ์ของค่ายกักกันนาซีอย่างชัดเจน และยังรวมถึงความเสี่ยงในการเข้าใจมนุษย์ในแง่ของการทำงานทางชีวกลศาสตร์เพียงอย่างเดียว:
“ใน [ค่ายกักกันนาซี] ที่น่ากลัวของพวกเขา,พวกเขาได้ยกเลิกใบหน้าและชีวประวัติของแต่ละคน เปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นตัวเลข ทำให้เขากลายเป็นฟันเฟืองในเครื่องจักรขนาดมหึมา มนุษย์ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็นเพียงปัจจัยอย่างหนึ่ง (…) ในสมัยของเรา,เราไม่ควรลืมว่ามนุษย์ได้กำหนดชะตากรรมของโลกที่เสี่ยงต่อการนำโครงสร้างแบบเดียวกันของค่ายกักกันมาใช้ หากเรายอมรับกฎสากลของเครื่องจักรนี้(มนุษย์แต่ละคน) เครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้น,ถูกบังคับใช้กฎหมายเดียวกัน ตามตรรกะนี้,มนุษย์จะต้องถูกตีความโดยคอมพิวเตอร์ และจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อถูกแปลเป็นตัวเลขเท่านั้น สัตว์ร้ายเป็นตัวเลขตัวหนึ่งและแปลงเป็นตัวเลขหลายตัว อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงมีพระนามและถูกเรียกตามพระนาม พระองค์ทรงเป็นพระบุคคลและทรงมีสภาพบุคคล”
ทำไมจึงเป็นตัวเลขนั้น?
เช่นเดียวกับภาษาฮีบรูซึ่งมีลักษณะของ gematria (นั่นคือการกำหนดค่าตัวเลขให้กับตัวอักษรและคำ) อักษรกรีกมีค่าตัวเลขสำหรับแต่ละตัวอักษรด้วย นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า isopsephy การใช้ isopsephy เพื่อ "คำนวณ" จำนวนตัวเลขของสัตว์ร้าย,ช่วยให้เทววิทยาและธรรมประเพณีการแปลความหมายได้เข้าใจถึงตัวเลข 666 ว่าเทียบเท่ากับชื่อและตำแหน่งของจักรพรรดิเนโร ซีซาร์(Nero Caesar) ซึ่งเป็นจักรพรรดิแห่งโรมันตั้งแต่ปี 54 ถึง 68 ชื่อของเขา ซึ่งเขียนเป็นภาษาอราเมอิก สามารถ "คำนวณ" เทียบเท่ากับ 666 โดยใช้ gematria ภาษาฮีบรูดั้งเดิม ในความเป็นจริง “Nero Caesar” ในภาษาฮีบรูอ่านว่า נרון קסר (NRON QSR) การสะกดคำนี้ เมื่อใช้เป็นตัวเลข จะแทนค่าได้เป็น 50-200-6-50-100-60-200 ซึ่งรวมกันได้ 666
นักประวัติศาสตร์เข้าใจว่านี่เป็นวิธีที่ชุมชนคริสตชนที่ถูกเบียดเบียนข่มเหงในยุคแรกๆสามารถพูดต่อต้านจักรพรรดิโดยที่ทางการโรมันไม่รู้
แต่คำอธิบายข้างต้นนี้ไม่ได้ทำให้ข้อวิพากย์โต้แย้งของท่านรัทซิงเกอร์ไม่ถูกต้อง เพียงเพราะว่าเนโรเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีตัวตนอยู่จริงๆ สิ่งที่ตัวเลขของสัตว์ร้ายเปิดเผยให้เห็นก็คือ การสลายตัวของลักษณะส่วนบุคคลของมนุษย์,การนำตัวเลขมาใช้แทนชื่อสำหรับใช้ในทางสถิติ,การลดลักษณะของมนุษย์ให้เหลือเป็นเพียงหน้าที่พื้นฐานบางอย่าง (เช่นเดียวกับการลดปิตุภาพให้เป็นเพียงปรากฏการณ์ทางชีววิทยา ปราศจากจิตวิญญาณ และมิติทางศีลธรรมหรือในการลดวิกฤตผู้ลี้ภัยให้เหลือเพียงสถิติ) ไม่ช้าก็เร็วมันก็จะเป็นการเสี่ยงต่อการนำไปสู่การลดทอนความเป็นมนุษย์(dehumanization)
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น