วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

จดหมายจากซิสเตอร์เอมมานูเอล 3

 
 


ซิสเตอร์เอมมานูเอลพูดต่อไปในจดหมายของท่าน 
Medjugorje, October18, 2023
 
3. เรามีเพียงจิตวิญญาณของเราเท่านั้น! เมื่อวิญญาณถูกทำลายด้วยลัทธิสมัยใหม่นิยม สังคมของเรากำลังปฏิเสธความเป็นจริงของจิตวิญญาณและคุณลักษณะนิรันดร์ของจิตวิญญาณมากขึ้นเรื่อยๆ ช่างเป็นเรื่องที่ร้ายกาจมาก! นี่คือสาเหตุที่พระนางมารีย์ทรงเตือนเราว่า “แม่เข้าใจความเจ็บปวดและความเศร้าโศกของลูก และด้วยความรักของแม่,แม่จึงเช็ดน้ำตาของลูก จงวางใจในองค์พระบุตรของแม่เถิด เพราะพระองค์จะทรงทำเพื่อลูกในสิ่งที่ลูกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะขออย่างไร ลูกทั้งหลายของแม่ ลูกต้องคำนึงถึงจิตใจของลูกเท่านั้น เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เป็นของลูกบนโลกนี้ จิตวิญญาณของลูกคือสิ่งที่ลูกจะนำมา, ไม่ว่าจะสกปรกหรือสะอาด,เบื้องพระพักตร์พระบิดาบนสวรรค์” (2.07.2016)
 
4. เกิดสงครามในตะวันออกกลาง! มีผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กกี่คนที่เสียชีวิตที่นั่นแล้ว และในสถานที่อื่นๆ อีกหลายแห่งตกเป็นเหยื่อของความขัดแย้งที่ไร้ความปรานี! สันติภาพถูกคุกคามมากขึ้นกว่าเดิม และหลายคนถูกครอบงำด้วยความกลัว แต่… ระวัง! เป้าหมายของศัตรูคือการปล้นสันติสุขเล็กๆน้อยๆที่เรามี และปลูกฝังความกลัวให้กับจิตใจของเรา จากนั้นเขาก็สามารถบงการเราได้ตามที่เขาต้องการ นี่เป็นหนึ่งในอุบายทั่วไปของเขา! เป็นอีกครั้งที่แม่พระทรงแสดงหนทางแห่งชีวิตให้ทุกคนที่ตัดสินใจให้พระนางทรงนำทางพวกเขา: “องค์พระบุตรของแม่ทรงสัญญากับแม่ว่าความชั่วจะไม่มีชัยชนะ” พระนางตรัส “เพราะลูกผู้เป็นคนชอบธรรมอยู่ที่นี่ ลูกที่พยายามจะสวดภาวนาจากหัวใจ ลูกที่ถวายความเศร้าโศกและความทุกข์ทรมานของลูกแด่องค์พระบุตรของแม่ ลูกที่เข้าใจว่าชีวิตเป็นเพียงชั่วพริบตา ลูกผู้ปรารถนาอาณาจักรแห่งสวรรค์ นี่คือทั้งหมดที่ทำให้ลูกเป็นอัครสาวกของแม่และนำลูกไปสู่ชัยชนะแห่งดวงหทัยของแม่! (สาส์นแห่งเมดจูกอเรจ์ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2014)
 
ถ้าลูกสร้างสันติภาพในหัวใจ สันติภาพของลูกจะไหลออกมาจากหัวใจเหมือนแม่น้ำที่จะไหลไปทั่วโลก” (สาส์นแห่งเมดจูกอเรจ์ วันที่ 25 ก.พ. 1991)
 
เราแต่ละคนสามารถทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องสันติภาพ ถ้าเรายอมให้พระเจ้าสถิตอยู่ในหัวใจของเรา “พระคริสต์ทรงเป็นสันติสุขของเรา” (เอเฟซัส 2:13) ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ขอให้เราทุกคนถวายความทุกข์ทรมานของเราแด่พระคริสต์ด้วยความรักต่อพระองค์ เพื่อความทุกข์ทรมานเหล่านี้ซึ่งรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความทุกข์ของพระคริสต์จะมีคุณค่าอันไม่มีที่สิ้นสุด! (ดูบันทึกของซิสเตอร์โฟสตินา) เรากลายเป็นผู้สร้างสันติ และเรามีส่วนร่วมในการไถ่กู้ของพระคริสต์โดยไม่ต้องออกจากบ้านด้วยซ้ำ! นั่นช่างงดงามมาก!
 
นี่เป็นตัวอย่างบทภาวนาง่ายๆ: “ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกขอมอบความโศกเศร้า ความยากลำบาก ความกังวล ความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานทั้งหมดให้กับพระองค์! ลูกวิงวอนขอร้องให้พระองค์รวมทั้งหมดนี้เข้ากับพระมหาทรมานของพระองค์เพื่อทั้งหมดนี้จะได้เกิดผลมากมาย!” ด้วยบทภาวนาเช่นนี้ สถานการณ์ที่ธรรมชาติความเป็นมนุษย์ของเราปฏิเสธ (พระเจ้าไม่ได้สร้างความทุกข์!) กลายเป็นแหล่งของพระพร โดยการทำเช่นนี้ พระเยซูจึงสามารถขยายผลของความรอดของพระองค์ไปยังคนจำนวนมากได้
 
ตัวอย่างอันงดงามที่สุดของความเป็นจริงนี้คือภาพของพระมารดาผู้ทรงใช้ชีวิตทั้งชีวิตร่วมกับพระบุตร แบ่งปันความสุขและความเศร้าโศกของพระองค์ มีใครหรือที่จะดีไปกว่าพระนางที่สามารถวิงวอนขอร้องเพื่อพวกเราได้อย่างมีพลัง? นักบุญเปาโลเองได้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงผลแห่งการทดลองของท่านที่ท่านยอมทนทุกข์ร่วมกับพระคริสต์และที่ท่านได้ถวายแด่พระองค์
 
เพราะเหตุนี้เรามาใส่ใจกันเถอะ! สำหรับพระเจ้า ทุกสิ่งเป็นไปได้! ในพระเจ้า ความตายไม่มีอยู่จริง พระองค์จะทรงกระทำอัศจรรย์หากเราอธิษฐานภาวนาอย่างแรงกล้าเพื่อสันติภาพ ด้วยจิตวิญญาณแห่งการชดเชยใช้โทษบาปและการถวายในนามของพี่น้องของเราในตะวันออกกลางและทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อของสงคราม ทำไมเราจึงปล่อยให้ตัวเองถูกลดทอนลงในด้านศีลธรรมเล่า? พระเจ้ากำลังรอคำอธิษฐานวิงวอนของเรา ความร่วมมือของเราในงานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์! ขึ้นอยู่กับเราที่จะใช้ของประทานและอำนาจอันมหัศจรรย์นี้ที่มอบให้เราตั้งแต่วินาทีแรกที่เรารับศีลล้างบาป!
 
5. การแทรกแซงที่น่าอัศจรรย์ของแม่พระ! ในระหว่างงานแพร่ธรรมครั้งล่าสุดในสเปนของฉัน ฉันได้พบกับสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งเรื่องราวนี้ทำให้ฉันเปี่ยมปีติอย่างยิ่ง ผลจากโรคหลอดเลือดสมองทำให้ ราโมน(Ramón) เข้าสู่อาการโคม่าขั้นรุนแรง สิ่งเดียวที่ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้คือเครื่องช่วยหายใจที่อยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก หลังจากพยายามชุบชีวิตเขาขึ้นมาอย่างไร้ประโยชน์เป็นเวลาหลายเดือน ก็ไม่เหลือความหวัง และแพทย์จึงตัดสินใจดึงปลั๊กออก แต่ภรรยาของเขาจำได้ว่าเพื่อนคนหนึ่งของเธอได้นำศาสนภัณท์หลายชิ้นจากเมดจูกอเรจ์มาให้เธอ ซึ่งได้รับการอวยพรจากพระสงฆ์และแม่พระในระหว่างการประจักษ์ครั้งหนึ่งด้วย ที่จริงแล้ว เมื่อสิ้นสุดการประจักษ์, พระนางมารีย์ก็อวยพรสิ่งของที่นำมาถวายแก่พระนาง เช่น สายประคำ เหรียญอัศจรรย์ ไม้กางเขน กลีบกุหลาบ พระคัมภีร์ รูปภาพศักดิ์สิทธิ์ จดหมาย ฯลฯ ดังนั้น ภรรยาของราโมนจึงมีความคิดที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาที่โรงพยาบาลและวางไว้ข้างสามีของเธอ เธอค่อยๆโปรยกลีบกุหลาบที่ได้รับการอวยพรลงบนหน้าผากด้านซ้ายของเขา ขณะที่สวดภาวนาอย่างกระตือรือร้น
 
ขณะนั้นเธอเห็นสามีของเธอยกแขนขวาขึ้นไปในอากาศ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อเลย! เธอทำแบบเดียวกันที่หน้าผากด้านขวาของสามี แล้วจู่ๆเขาก็ยกแขนซ้ายของเขาขึ้น เมื่อเธอกลับมาในวันรุ่งขึ้น เธอก็ทำแบบเดิมอีก และสามีของเธอก็งอขาของเขา พูดได้คำเดียวว่าเขาตื่นแล้ว! เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์สังเกตเห็นอาการฟื้นตัวเหล่านี้ พวกเขาตัดสินใจทำการรักษาต่อไป ต่อมาราโมนก็ออกจากโรงพยาบาลโดยมีสุขภาพแข็งแรงดี
 
ตอนนี้หัวใจของคู่รักคู่นี้เต็มไปด้วยความกตัญญูอันยิ่งใหญ่! เย็นวันนั้น ฉันเห็นราโมนด้วยตาของตัวเองและพูดกับเขา เพราะเขามากับภรรยาเพื่อฟังการพูดของฉันที่วิลลานูเอวา เด ลา กาญาดา ใกล้กรุงมาดริด
 
ใครเป็นผู้ทำให้เกิดการรักษาอันน่าทึ่งนี้? พระเยซูโดยผ่านทางพระสงฆ์ผู้อวยพรสิ่งของเหล่านี้, หรือพระนางมารีย์ผู้อวยพรสิ่งเหล่านี้ด้วย? จริงๆแล้วทั้งคู่! แม่พระทรงบอกเราว่า “การอวยพรของพระสงฆ์นั้นยิ่งใหญ่กว่าการอวยพรของแม่ เพราะเมื่อพระสงฆ์อวยพรลูก พระเยซูคือผู้ที่อวยพรลูก” แต่ในการอวยพรของพระนางมารีย์ มีพลังแห่งความรักที่พระนางทรงมีต่อเรา พลังแห่งการวิงวอนของพระนาง และการเจิมของมารดาที่เป็นของพระนาง “พระเยซูทรงฟังพระมารดาของพระองค์!” พระนางตรัสว่า. (2 มีนาคม 2015) การอวยพรเยี่ยงมารดาของพระนางเป็นหนึ่งในของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่พระนางทรงมอบให้ในเมดจูกอเรจ์
 
แน่นอนว่าการรักษาร่างกายเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมสำหรับราโมน แต่การกลับใจครั้งใหญ่ของคู่รักคู่นี้ ทั้งครอบครัวและกลุ่มเพื่อนของพวกเขา เป็นของขวัญล้ำค่ายิ่งกว่านั้นอีก! เพราะว่าเราทุกคนถูกเรียกมาสู่ความศักดิ์สิทธิ์ และความศักดิ์สิทธิ์นี้คือสิ่งที่จะคงอยู่หลังจากชีวิตอันแสนสั้นบนโลกนี้ แล้วเราจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์!
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น