วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567

ปีศาจในชีวิตฝ่ายจิต

 



ดูเหมือนว่ากิจกรรมของปีศาจจะเกิดขึ้นมากมายทั่วโลกในยุคสมัยนี้
 
วงดนตรีร็อคและวงดนตรีร่วมสมัยบางวงในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมาแสดงตัวว่าเป็นซาตานอย่างเปิดเผยด้วยซ้ำ แต่การครอบครองของปีศาจนั้นไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็น เป็นไปได้ว่าความคิดต่อต้านสิ่งเหนือธรรมชาติของชาวตะวันตกทำให้เราไม่ตระหนักถึงกิจกรรมเหล่านี้ของปีศาจ นักดนตรีเหล่านี้คิดแต่เพียงว่ามันเป็นการสร้างความเด่นดังให้พวกเขา
 

แท้จริงแล้ว การต่อต้านความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นของชาวตะวันตกเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นของการหลอกลวงของปีศาจ
 
ปีศาจมีความกระตือรือร้นเป็นพิเศษต่อวิญญาณของผู้มีความเชื่อความศรัทธา การกระทำของมันเป็นภัยคุกคามต่อผู้มีความเชื่อทุกคน
 
แต่ปีศาจไม่สามารถเอาชนะผู้มีความศรัทธาได้,เหมือนกับที่มันทำต่อคนที่หลงเชื่อทำตามคำหลอกลวงของมัน(โดยยอมให้ความมืดมิดเข้ามาในชีวิตของพวกเขา)
 

เมื่อพูดถึงผู้มีความเชื่อศรัทธาและการพิจารณาใคร่ครวญ คุณพ่อคลิฟ เออร์มาทิงเจอร์(Father Cliff Ermatinger)ตั้งข้อสังเกตในหนังสือชื่อ The Devil’s Role In The Spiritual Life (บทบาทของปีศาจในชีวิตฝ่ายวิญญาณ)ว่า “เมื่อพิจารณาถึงความดีที่ประเมินค่าไม่ได้และความดีที่ซ่อนเร้นที่คนเหล่านี้นำมาให้แก่ร่างกายลึกลับของพระคริสต์(พระศาสนจักร) ซาตานจึงมีความกลัวและสนใจเป็นพิเศษต่อชีวิตการอธิษฐานภาวนาของพวกเขา
 
“ปีศาจพยายามทำให้ชีวิตในการสวดภาวนาของพวกเขาสูญเปล่า”
 
บ่อยครั้ง,ดังที่กล่าวไว้, มันทำให้พวกเขาไขว้เขว,ไม่มีสมาธิในการสวดภาวนา ปีศาจถูกส่งมาเพื่อหันเหความสนใจของเรา ซึ่งพวกมันทำในรูปแบบต่างๆมากมาย ซาตานเป็นเทพเจ้าของโลก(2โครินทร์ 4:4) เป็นวิญญาณแห่งความมืด คุณพ่อเออร์มาทิงเกอร์ตั้งข้อสังเกตถึงการกระทำของพระหรรษทานในวิญญาณ และพวกปีศาจก็หวาดกลัวสิ่งนั้น “อย่างไม่มีที่สิ้นสุด” ผลกระทบต่อพวกมันช่างร้ายแรง
 
นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนกล่าวว่าซาตานใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อรบกวนการอธิษฐานภาวนาของผู้พิจารณาใคร่ครวญมากกว่าคนจำนวนมากที่ไม่อธิษฐานภาวนา แต่สุดท้าย,การอธิษฐานภาวนาก็มีชัยชนะ,เอาชนะปีศาจได้ ความรัก,พร้อมกับพระคริสต์ ย่อมมีชัยชนะเสมอ อาทิเช่น -
 
ในการตรึงกางเขนของพระเยซูเจ้า,เรื่องราวอาจดูสิ้นหวัง — และเป็นมากกว่าคำว่าน่ากลัว มันอาจจะสลดหดหู่มาก พระเยซูทรงถูกเฆี่ยนอย่างน่าสยดสยอง พระเศียรถูกแทงด้วยมงกุฏหนาม พระกายถูกแขวนไว้บนท่อนไม้ด้วยตะปู ความเจ็บปวดที่พระองค์ทรงทนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจจินตนาการได้ ไม่ว่าเราจะพยายามจินตนาการถึงมากแค่ไหนก็ตาม,ความทุกข์ทรมานอันสาหัสมากเช่นนี้
 
แต่ผลลัพธ์ล่ะ?
 
ผลลัพท์อันยิ่งใหญ่ - ความรอดของมวลมนุษยชาติ มีพลังแม้กระทั่งการฟื้นคืนชีพ นับพันปีต่อมา, พระนามของพระเยซูทำให้ผีปิศาจต้องรีบหนีไป
 

กลยุทธ์อีกประการหนึ่งในการโจมตีผู้มีความเชื่อความศรัทธา(จากในหนังสือเล่มนี้)คือนิมิตเท็จและสาส์นเท็จ สิ่งเหล่านี้มอบให้กับ “บุคคลที่มีจิตสับสน” (ซึ่งมีเจตนาไม่บริสุทธิ์) รวมถึงผู้ที่มี “ราคะทางจิตใจ”, “ความหยิ่งผยองทางจิตวิญญาณ” และผู้ที่แสวงหาความเด่นดังที่หาความสนใจจากคนอื่น— “นั่นคือผู้ที่ปรารถนาจะโดดเด่น ผู้ไม่พึงพอใจในหนทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตธรรมดาที่เรียบง่าย”
 
นี่เป็นอีกกลยุทธิ์หนึ่งในการหันเหความสนใจ ทั้งสำหรับผู้ทำนายเท็จและผู้ติดตามคนเหล่านี้ “สำหรับคนเหล่านี้ ปีศาจมักจะจำลองนิมิตและประสบการณ์อื่นๆเพื่อทำให้คนเหล่านี้รับใช้มัน” คุณพ่อคลิฟท์ เขียน
 
นักบุญยอห์นอธิบายต่อไปว่า“มีคำทำนายและพระวาจาของพระเจ้าสักกี่คำที่ไม่เกิดขึ้นตามที่คาดไว้ เพราะมนุษย์เข้าใจตามความคิดของตนเอง… เข้าใจตามตัวอักษร” ในขณะที่ “พระประสงค์หลักของพระเจ้าในการประทานสิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกและถ่ายทอดจิตวิญญาณที่อยู่ในพระวาจานั้น… (ซึ่ง) มีความหมายมากกว่าตัวอักษรและมีความพิเศษมาก” นักบุญยอห์นเขียนว่าเราต้องดูถึงแก่นแท้ของการเปิดเผยตามพระประสงค์
 
ถ้าบอกว่าพระเยซูจะเสด็จมา “ในไม่ช้า” คำว่า“ในไม่ช้า” หมายความว่าอย่างไร? อาจเกี่ยวข้องกับการเสด็จมาของพระจิตเจ้ามากกว่าการเสด็จมาตามตัวอักษรดังที่เกิดขึ้นเมื่อสองพันปีก่อนหรือไม่?
 
“ประหนึ่งว่าไฟถูกจุดลงบนร่างที่เปลือยเปล่าของบุคคล ไม่สำคัญว่าเขาอยากจะถูกเผาหรือไม่ ไฟจำเป็นที่จะต้องทำงานของมันให้สำเร็จ” ผู้เขียนให้เหตุผลโดยอ้างคำพูดของนักบุญยอห์น อัครสาวก “นิมิตและคำทำนายเป็นสิ่งที่ดี แม้ว่าวิญญาณไม่ปรารถนาสิ่งเหล่านี้, แต่มันก็ส่งผลส่วนใหญ่และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิญญาณมากกว่าในร่างกาย”
 
เราต้องพิจารณาคำเตือนดังกล่าวอย่างจริงจัง,ชั่งน้ำหนักด้วยความเชื่ออย่างมีสติ พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ตรัสว่า “ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยเป็นการส่วนตัว, ให้เชื่อดีกว่าไม่เชื่อ เพราะถ้าท่านเชื่อและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นความจริง ท่านก็จะมีความสุขที่เชื่อ เพราะพระศาสนจักรของเราขอร้อง. ถ้าท่านเชื่อ,และพิสูจน์ได้ว่าเป็นเท็จ,ท่านก็จะยังคงได้รับความดีทั้งหมดราวกับว่ามันเป็นเรื่องจริง เพราะท่านเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง”
 


************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น