วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

28 เม.ย. แม่พระแห่งควิโต,เอกวาดอร์(1534)

 


รูปภาพแม่พระแห่งควิโตปัจจุบันอยู่ในเมืองหลวงของเอกวาดอร์ กล่าวกันว่ามีอายุตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของชาวสเปนครั้งแรกที่ควิโตในปี ค.ศ. 1534 อย่างน้อยที่สุดก็ได้รับการสักการะที่นั่นมาเป็นเวลานาน และนิยมเรียกโดย ชาวเมืองควิโตว่า “แม่พระแห่งแผ่นดินไหว” ภาพวาดนี้แสดงถึงพระมารดาผู้โศกเศร้ามีดาบเจ็ดเล่มแทงที่ดวงพระทัยของพระนาง(แม่พระมหาทุกข์) และในช่วงปีแรกๆของศตวรรษที่ 20 ความศรัทธาต่อพระนางมารีย์ภายใต้พระนาม “แม่พระแห่งควิโต”ได้รับการแนะนำให้รู้จักในอังกฤษโดยนักพรตคณะผู้รับใช้(Servite Friars)ในลอนดอน พระสันตะปาปานักบุญปิโอที่ 10 ทรงอนุญาตพระคุณการุณย์ให้แก่ผู้ที่สวดภาวนาต่อหน้าพระรูปแม่พระนี้ และความศรัทธาได้รับการส่งเสริมอย่างมากในอังกฤษโดยซิสเตอร์แห่งพระเยซูกุมารศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นคณะที่ก่อตั้งโดยคุณแม่คอร์เนเลีย คอนเนลลี(Mother Cornelia Connelly) ภาพต้นฉบับที่ควิโตได้รับการสวมมงกุฎอย่างสง่าในปี 1918
 
วันที่ 20 เมษายน 1906 เด็กชาย 36 คนเข้าเรียนในโรงเรียนประจำของคณะเยซูอิต,คณะสงฆ์ที่เมืองควิโต ประเทศเอกวาดอร์ พร้อมด้วยคุณพ่อแอนดรูว์ โรช ได้เห็นอัศจรรย์ครั้งแรกของพระรูปอันมีชื่อเสียงของแม่พระนี้ ขณะอยู่ในโรงอาหาร,ทุกคนได้เห็นพระแม่มารีย์ในพระรูปค่อยๆลืมตาขึ้นและหลับตาลง อัศจรรย์เดียวกันนี้เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่าเจ็ดครั้งหลังจากนั้น ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของเด็กผู้ชายที่โรงเรียน แต่คราวนี้เกิดขึ้นในโบสถ์ที่ได้มีการถ่ายรูปไว้
 
ในไม่ช้าเจ้าหน้าที่ของสันตะสำนักก็ได้สอบสวนเหตุการณ์เหล่านี้ และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปโดยสั่งให้ย้ายรูปภาพดังกล่าวโดยแห่เป็นขบวนจากวิทยาลัยไปยังโบสถ์ของคณะเยซูอิต ในโอกาสหนึ่ง,ที่โบสถ์นี้,ได้มีอัศจรรย์เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้งต่อหน้าฝูงชนจำนวนมาก และการกลับใจของผู้คนจำนวนมากเกิดขึ้นเนื่องจากอัศจรรย์เหล่านี้ และอีกโอกาสหนึ่ง,อัศจรรย์นั้นคงอยู่เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน ที่ริโอบัมบา(Riobamba) ก่อนที่จะมีการจำลองพระรูปแม่พระแห่งควิโต มีผู้พบเห็นอัศจรรย์แบบเดียวกันนี้มากกว่า 20 คน รวมทั้งประธานาธิบดีของเมืองด้วย ในควิโตภาพนี้ถูกเรียกว่าโดโลโรซา เดล โคลีจีโอ(Dolorosa del Colegio แม่พระมหาทุกข์แห่งโคลีจีโอ)
 
แม่พระทรงปรากฏต่อซิสเตอร์มาเรียนา(Mother Mariana) ที่เมืองควิโตเช่นเดียวกันและทรงทำนายหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับสมัยของเรา ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่แม่พระทรงแจ้งไว้ เราสามารถเห็นได้ด้วยตนเองว่ามันเกี่ยวข้องโดยตรงกับช่วงเวลาของเราอย่างไร
 
- ...แม่ขอบอกลูกว่าตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และหลังตอนกลางศตวรรษที่ 20 ไม่นาน…. ความทุกข์จะปะทุขึ้นและจะมีการคอร์รับชั่นของ (ศีลธรรม) โดยสิ้นเชิง….
 
“พวกเขาจะมุ่งไปที่เด็กๆเป็นหลัก เพื่อดำรงไว้ซึ่งการคอรัปชั่นนี้ วิบัติแก่เด็กในสมัยนั้น! มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กที่จะได้รับศีลล้างบาปรวมทั้งรับศีลกำลังด้วย...
 
“และสำหรับศีลสมรส… จะถูกโจมตีและถูกดูหมิ่นอย่างหนัก… จิตวิญญาณคาทอลิกจะสลายไปอย่างรวดเร็ว แสงสว่างอันล้ำค่าแห่งความเชื่อจะค่อยๆดับลง... นอกจากนี้,จะเป็นผลมาจากการศึกษาทางโลก ซึ่งจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กระแสเรียกของพระสงฆ์และนักบวชขาดแคลน
 
“ศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งการเป็นพระสงฆ์จะถูกเยาะเย้ย, ถูกกดขี่, และถูกดูหมิ่น… ปีศาจจะพยายามข่มเหงผู้รับใช้ของพระเจ้าในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ มันจะทำงานอย่างหนักด้วยความเฉียบแหลมและโหดร้ายเพื่อเบี่ยงเบนพวกเขาจากจิตวิญญาณแห่งกระแสเรียกของพวกเขา และจะทำให้พวกเขาหลายคนเสื่อมทราม พระสงฆ์ที่เลวทรามเหล่านี้,จะทำให้ประชาชนชาวคริสต์อับอาย จะทำให้มีความเกลียดชังต่อคาทอลิกที่ไม่ดีและความเกลียดชังของศัตรูต่อพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและของอัครสาวกจะตกอยู่กับพระสงฆ์ทุกคน...
 
“ยิ่งไปกว่านั้น, ในเวลาอันไร้ซึ่งความสุขนี้, จะมีความฟุ่มเฟือยอันไร้การควบคุม, ซึ่งจะดักจับมนุษย์ที่เหลือให้ติดกับดักของบาป และพิชิตดวงวิญญาณที่เหลาะแหละนับไม่ถ้วน,ซึ่งจะสูญเสียไป ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแทบจะไม่พบในเด็กอีกต่อไป และแทบจะไม่พบความสุภาพเรียบร้อย(modesty)ในผู้หญิงอีกต่อไป ในยามที่ต้องการความดูแลจากพระศาสนจักรอย่างที่สุดนี้, ผู้ที่ควรพูดจะนิ่งเงียบ” ในการประจักษ์ครั้งต่อๆไป แม่พระทรงบอกคุณแม่มารียานาว่าการประจักษ์นี้จะยังไม่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 20
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น