วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

อัศจรรย์ที่ฟาติมาในวันเยาวชนโลก

 



เด็กหญิงวัย 16 ปี ผู้พิการทางสายตาจากสเปนรายงานว่า หลังจากได้รับศีลมหาสนิทในเช้าวันที่ 5 สิงหาคมที่เมืองฟาติมา ตอนนี้เธอสามารถมองเห็นได้แล้ว 
 
“ฉันลืมตาแล้วฉันก็มองเห็นได้ชัดเจน” จิมเมนา(Jimena) เด็กหญิงชาวสเปนวัย 16 ปีเล่าว่าหลังจากได้รับศีลมหาสนิทที่ฟาติมาในเช้าวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่พระสันตะปาปาเสด็จเยือน เธอก็หายเป็นปกติแล้ว Jimena สูญเสียการมองเห็นส่วนใหญ่ในช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมา เธออธิบายให้สถานีวิทยุ COPE ของสเปนฟัง
 
เธอได้เดินทางไปร่วมงานวันเยาวชนโลกจากกรุงมาดริดกับคณะจาก Opus Dei ครอบครัวและเพื่อนๆของเธอได้ทำนพวารเพื่อขอพระแม่มารีย์,แม่พระแห่งหิมะในการรักษาโรคของเธอ วันสุดท้ายตรงกับวันที่ 5 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันฉลองของแม่พระ แต่เธอบอกว่าในวันนั้นเธอตื่นขึ้นมาตอนเช้าซึ่งก็เหมือนเดิมในหลายเดือนที่ผ่านมา “ทุกอย่างพร่ามัวจนแทบไม่เห็นอะไรเลย”
 
ด้วยความกังวลใจจากความทุกข์ทรมานนี้ และเมื่อพิจารณาว่าเป็นวันสุดท้ายของนพวาร ซึ่งเป็นวันฉลองพระแม่แห่งหิมะ จิเมนาจึงหลั่งน้ำตาหลังการรับศีลมหาสนิท  
แต่แล้วเธอก็พูดว่า “ฉันลืมตาขึ้น และฉันก็มองเห็นได้ชัดเจน”
 
“ฉันเห็นแท่นบูชา, ตู้ศีล, เพื่อนๆของฉันอยู่ที่นั่น และฉันมองเห็นพวกเขาได้ชัดเจน” ที่จริงเธอสามารถอ่านบทภาวนาสำหรับนพวารได้ด้วยซ้ำ
 
“พระแม่มารีย์ทรงประทานของขวัญชิ้นใหญ่แก่ฉันซึ่งฉันจะไม่มีวันลืม” จิเมนายืนยัน
 
พระคาร์ดินัลฮวน โฮเซ่ โอเมลลา ประธานการประชุมสังฆราชสเปน พูดถึงการรักษาซึ่งเป็นอัศจรรย์ที่เป็นไปได้ในงานแถลงข่าวที่สรุป WYD โดยกล่าวว่าเขามีโอกาสพูดคุยกับจิมเมนาทางวิดีโอคอล
 
ACI Prensa รายงานว่าพระคาร์ดินัลเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น "พระหรรษทานของพระเจ้า" และสังเกตว่า Jimena เคยพยายามเพื่อเรียนรู้อักษรเบรลล์อย่างไรตั้งแต่เธอมองเห็นไม่ชัด
 
จิมเมนาเล่าให้พระคาร์ดินัลฟังถึงคำอธิษฐานภาวนาของเธอ และตอนนี้เธอสามารถอ่านบทภาวนาในพิธีมิสซากับกลุ่มเยาวชนที่มาจากมาดริดได้แล้ว
 
พระคาร์ดินัลสะท้อนว่าในเวลาต่อมาว่า แพทย์สามารถประเมินสถานการณ์ได้ แต่ในขณะนี้ สำหรับจิเมนา นี่เป็น “เหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ”
 
“ให้เราพูดว่า,นี่เป็นอัศจรรย์ เธอไม่เห็น, และตอนนี้เธอเห็นแล้ว หลังจากนั้นแพทย์สามารถดำเนินการต่อไป แต่เธอจะกลับบ้านเพื่อที่จะมองเห็น ขอสรรเสริญพระเจ้า”
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น