Gerardo De Caro ได้สนทนากับคุณพ่อปีโอเป็นเวลานานในปี 1943 ในหนังสือที่เขาเขียนได้บอกว่า
“คุณพ่อปีโอมีความรู้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของวิญญาณหลังความตาย,รวมทั้งระยะเวลาของความเจ็บปวดจนกระทั่งถึงจุดที่ได้รับการชำระจนมีความบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์”
ต่อไปนี้เป็นคำพูดของคุณพ่อปีโอ
“วิญญาณมากมายของผู้ตายจากไฟชำระ,มากยิ่งกว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่,ที่ได้ขึ้นมาบนภูเขานี้เพื่อร่วมพิธีมิสซาและขอให้พ่อสวดภาวนาให้”
“วิญญาณในไฟชำระสวดภาวนาเพื่อเรา,และคำภาวนาของพวกเขามีประสิทธิภาพมากกว่าของเรา เพราะคำภาวนาของพวกเขาประกอบด้วยความทุกข์ทรมานของพวกเขา
ดังนั้น,ให้เราสวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระ,และขอให้วิณณาณเหล่านั้นสวดภาวนาเพื่อเราด้วย”
“คุณจะประหลาดใจที่จะพบว่าในสวรรค์,มีวิญญาณที่เราไม่คาดคิดว่าจะพบอยู่ที่นั่นด้วย”
“วิญญาณของผู้ที่ได้รับความรอดแล้วส่วนใหญ่จะผ่านไฟชำระก่อนที่จะได้รับความสุขอย่างสมบูรณ์ในสวรรค์”
**
วันที่ 30 ธันวาคม 1937 คุณพ่อปีโอกำลังสวดภาวนาในโบสถ์พร้อมกับบรรดานักพรตคนอื่นๆ, ทันใดนั้นคุณพ่อก็พูดขึ้นว่า “ให้เราสวดภาวนาเพื่อคุณพ่ออัคราธิการของพวกเราเถิด
คุณพ่ออัคราธิการ Padre Bernardo Apicella กำลังอยู่ในความโศกเศร้า” ไม่มีใครรู้ว่าท่านอัคราธิการกำลังป่วย
วันต่อมาบรรดานักพรตก็ได้ข่าวว่าท่านอัคราธิการเสียชีวิตแล้ว
**
พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 สิ้นพระชนม์ในวังกันดอลฟ์โฟ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 1958
ในวันนั้น,คุณพ่อปีโอพูดกับนักพรตว่า “พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 อยู่ในสวรรค์แล้ว,พ่อเห็นพระองค์ในระหว่างมิสซา”
**
วันหนึ่งคุณพ่อปีโอกำลังอยู่ในห้องที่คอนแวนต์, มีคนแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาแนะนำตัวกับคุณพ่อ “ผมชื่อ Pietro Di Mauro ผมเสียชีวิตในวันที่ 18 กันยายน 1908,ในห้องนี้ในระหว่างที่เกิดไฟไหม้ พระเยซูเจ้าทรงอนุญาติให้ผมมาจากไฟชำระ ถ้าพรุ่งนี้คุณพ่อประกอบพิธีมิสซาเพื่อผม,ผมจะได้ไปสวรรค์”
คุณพ่อปีโอบอกว่า “พ่อรู้สึกวุ่นวายใจ,พ่อได้บอกกับคุณพ่ออธิการ, Father Paolino da Casacalenda,สิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อ และขออนุญาตให้ประกอบพิธีมิสซาเพื่อ Pietro”
Father Paolino อนุญาติและต่อมาได้ไปที่สำนักทะเบียนที่ City Hall เพื่อค้นประวัติเหตุการณ์ของเมือง
ในวันที่ 18 กันยายน ได้เกิดไฟไหม้ขึ้นและได้ฆ่าชายที่มีชื่อนั้นในห้องนั้น
**
คุณพ่อปีโอได้พูดกับ Cleonice Morcaldi หนึ่งเดือนหลังจากการตายของมารดาของเธอ “เช้าวันนี้ แม่ของลูกได้ขึ้นสู่สวรรค์ พ่อเห็นเธอในระหว่างพิธีมิสซา”
**
คุณพ่อปีโอ ได้บอกกับ Padre Anastasio di Roio ว่า “คืนวันหนึ่งพ่ออยู่เพียงลำพังในโบสถ์น้อยและพ่อเห็นนักพรตคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดพระแท่นในตอบกลางคืน
พ่อขอให้เขาไปนอน เพราะมันมืดค่ำแล้ว เขาตอบว่า “ผมเป็นนักพรตเช่นเดียวกับท่าน ผมเข้ามาเป็นโนวิสที่นี่และได้รับมอบหมายให้ดูแลพระแท่น,
และผมเดินผ่านหน้าพระแท่นหลายครั้งโดยไม่ได้ทำความเคารพอย่างสมควร ด้วยบาปนี้,ผมจึงไปอยู่ในไฟชำระ,และพระเยซูทรงส่งผมมาหาท่าน
ท่านตัดสินใจเถิดว่าผมควรได้รับความทุกข์นานเท่าไรในเปลวไฟ”
คุณพ่อปีโอพูดว่า “พ่อบอกเขาว่า จนกระทั่งถึงพิธีมิสซาในตอนเช้า
เขาพูดว่า “ช่วงโหดร้าย” และหายไป
พ่อยังคงมีบาดแผลในหัวใจ
พ่อควรจะส่งเขาไปสู่สวรรค์ในทันที, แต่เขากลับต้องทนอยู่อีกหนึ่งคืนในเปลวไฟของไฟชำระ”
**
คุณพ่อปีโอบอกกับ Padre Onorato Marcucci ผู้ที่เคยช่วยเหลือท่าน “เมื่อคืนก่อน,พ่อไม่ค่อยสบายและทำให้คุณนอนไม่หลับ
พ่อกำลังคิดว่าจะชดเชยให้คุณอย่างไรดี,ดังนั้นพ่อจึงอุทิศพระคุณการุณย์ชั่วคราวให้แก่มารดาของคุณเพื่อส่งให้เธอไปยังสวรรค์
**
ข้อความต่อไปนี้นำมาจากหนังสือของจอห์น แม็คคัฟเฟรี่(John McCaffery) ที่ชื่อ “Tales of Padre Pio", Kansas City, 1979, pag. 67
ไม่มีข้อความที่คล้ายกันในหนังสือเล่มอื่นเกี่ยวกับคุณพ่อปิโอ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มา ผมจึงขอฝากเรื่องต่อไปนี้ไว้กับผู้อ่าน
John McCaffery สนทนากับ คุณพ่อปีโอ และเขียนไว้ในหนังสือของเขา
“พ่อเชื่อว่ามีวิญญาณไม่มากนักที่ไปนรก
พระเจ้าทรงรักเรามาก, พระองค์ทรงสร้างเราตามภาพลักษณ์ของพระองค์ พระเจ้าทรงรักมากเหนือความเข้าใจของเรา
และเป็นความเชื่อของพ่อว่า เมื่อเราผ่านพ้นจากจิตสำนึกของโลกแล้ว
เมื่อเราปรากฏว่าตายแล้ว,พระเจ้า,ก่อนที่จะทรงพิพากษาเรา,พระองค์จะทรงประทานโอกาสแก่เราให้เห็นและเข้าใจว่า บาปที่แท้จริงเป็นอะไร
และถ้าเราเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว,เราจะไม่สำนึกผิดได้อย่างไร?”
**
บิดาของ Florence Fine Ehrmand ป่วยด้วยโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็งชนิด amyotrophic lateral sclerosis ในรูปแบบที่รุนแรงในปี 1965 เธอได้ขอคำภาวนาจากคุณพ่อปิโอเพื่อบิดาของเธอ บิดาของเธอเสียชีวิตในเดือนมกราคม 1966
เธอไปหาคุณพ่อปีโอในเดือนตุลาคม 1967 เพื่อถามว่าพ่อของเธอซึ่งเป็นชาวยิวผู้เคร่งครัดได้รับความรอดหรือไม่
“จูเลียส ไฟน์ได้รับความรอดแล้ว แต่เราต้องสวดภาวนาเพื่อเขามากๆ”
**
คืนหนึ่งในปี 1944 คุณพ่อปีโอและผู้ที่อยู่ที่นั่นได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่างพูดว่า " Viva Padre Pio "(คุณพ่อปีโอจงเจริญ)
คุณพ่ออธิการ Padre Raffaele da S. Elia a Pianisi บอกกับคนเฝ้าประตู,
คือ Fra Gerardo da Deliceto ให้คนเหล่านั้นออกไปและล็อคประตูให้ดี
Fra Gerardo ลงไปชั้นล่าง แต่ไม่พบใครเลย และประตูก็ถูกล็อคสองชั้นอย่างที่ควรจะเป็น
เขากลับไปรายงาน, คุณพ่ออธิการ Padre Raffaele รู้สึกสงสัยและเดินตรงไปหาคุณพ่อปีโอเพื่อถามว่าท่านรู้อะไรบางอย่างหรือเปล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่
“โอ้! พวกนั้นคือทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ และมาขอบคุณพ่อสำหรับความรอดของพวกเขา”
**
ในปี 1945 Fra' Modestino ถามคุณพ่อปีโอ เกี่ยวกับการเปรียบเทียบระหว่างไฟบนโลกกับเปลวไฟแห่งไฟชำระ
“พวกมันเปรียบเทียบเหมือนน้ำจืดกับน้ำเดือด”
**
วันหนึ่งคุณพ่อปีโอบอกหมอของท่านว่า: "พ่อกำลังสวดภาวนาเพื่อการตายอย่างดีของปู่ทวดของพ่อ"
“แต่เขาเสียชีวิตไปเมื่อกว่าร้อยปีก่อน!” หมอพูด
“จำไว้ว่าสำหรับพระเจ้าไม่มีอดีตและอนาคต และทุกสิ่งเป็นปัจจุบน ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงใช้ประโยชน์จากคำภาวนาที่พ่อกำลังสวดอยู่เพื่อ เวลานั้น”
**
ในปี 1922 Bishop Alberto Costa ถามคุณพ่อปีโอว่า ท่านเคยเห็นวิญญาณในไฟชำระหรือไม่
คุณพ่อปีโอตอบว่า “พ่อเคยเห็นพวกเขามามากจนไม่ทำให้พ่อกลัวอีกต่อไป”
**
นักพรตคนหนึ่งให้การเป็นพยานว่า เราทุกคนอยู่ในห้องอาหาร ทันใดนั้นคุณพ่อปีโอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูคอนแวนต์ ท่านเปิดประตูและเริ่มสนทนา
นักพรตสองคนที่ไปกับคุณพ่อปีโอไม่เห็นใครเลยและเริ่มคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับคุณพ่อปีโอ
ระหว่างทางกลับไปยังที่รับประทานอาหาร คุณพ่อปีโออธิบายว่า:
“อย่ากังวลไปเลย พ่อกำลังพูดคุยกับวิญญาณบางคนระหว่างที่พวกเขาเดินทางจากไฟชำระไปยังสวรรค์ พวกเขามาเพื่อขอบคุณพ่อที่พ่อยังจำพวกเขาได้ในวันนี้ในพิธีมิสซา”
**
Pasqualino น้องชายของ Nina Campanile เสียชีวิตในการต่อสู้เมื่อวันที่ 26 กันยายน 1916 แม่ของเธอส่ง Nina พร้อมกับ Vittorina Ventrella ครูของเธอไปถาม คุณพ่อปีโอ ว่า
Pasqualino ได้รับความรอดแล้วหรือไม่?
“ใช่ เขารอดแล้ว แต่เขาต้องการคำภาวนาของลูก”
เธอถามอีกครั้งในวันคริสต์มาสปี 1918 และคำตอบคือ: "เขาอยู่บนนั้น!"
**
Padre Vittore da Canosa น้องชายของ Carmela Marocchino เสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 29 มกราคม 1958 คาร์เมลาถามคุณพ่อปีโอ ว่าทำไมเขาถึงเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
“คุณรู้ไหมว่าพระเยซูทรงทำอะไรกับน้องชายของคุณ? พระเยซูเสด็จเข้าไปในสวน, และมีดอกไม้มากมาย, และมีดอกหนึ่งที่สวยมากกว่าดอกอื่นๆ
พระองค์ทรงโน้มพระองค์เหนือดอกไม้ที่สวยงามที่สุดแล้วทรงเลือกมัน “เขาได้รับความรอดแล้วหรือไม่?”
“ใช่, แต่เราต้องสวดภาวนาเพื่อเขา”
วันที่ 29 ก.ค
************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น