วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ซิสเตอร์อักเนส เสียชีวิตแล้ว

 

ข่าวการเสียชีวิตของซิสเตอร์อักเนส ซาซากาวะ ผู้ที่ได้รับการประจักษ์จากแม่พระที่คอนแวนต์อันห่างไกลในเมืองอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ทำให้สาส์นที่เธอได้รับจากแม่พระแพร่หลายไป
 
ซิสเตอร์ซาซากาวา “ได้ยิน” พระนางมารีย์พูดกับเธอจากพระรูปที่ทำด้วยไม้ เธอได้รับสาส์นที่กล่าวกันว่าเหมือนกับความลับข้อที่สามของฟาติมา,ในวันที่ 13 ตุลาคม 1973 ซึ่งตรงกับวันครบรอบอัศจรรย์แห่งดวงอาทิตย์ที่ฟาติมา ซิสเตอร์ได้เสียชีวิตแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม ปี 2024 ซึ่งเป็นวันสมโภชการเสด็จสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณของพระนางมารีย์ หลังจากป่วยมานาน ราวกับเป็นการยืนยันประสบการณ์ของเธอ
 
ซิสเตอร์ซาซากาว่า ถูกย้ายให้ไปอยู่ห่างจากคอนแวนต์อาคิตะและไปอาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชราใกล้สนามบินโตเกียวมาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีรายงานว่าเป็นไปตามคำสั่งของผู้ใหญ่ทางศาสนา
 
พระรูปแม่พระที่ทำด้วยไม้นั้น "ร้องไห้" 101 ครั้ง สาส์นที่ซิสเตอร์ได้รับ,ได้รับการรับรองบางส่วนจากเจ้าหน้าที่พระศาสนจักร (เป็นการตอบรับเชิงบวกจากพระสังฆราชท้องถิ่น แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นการรับรอง nihil obstat จากสมณกระทรวงความเชื่อ)
 
เหตุการณ์ที่น่าทึ่งต่อเนื่องกันเริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 1973 โดยซิสเตอร์อักเนสได้เห็นแสงอันน่าตื่นตาพร่างพราวฉายออกมาจากตู้ศีล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในสองวันถัดมา
 
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1973 เกิดรอยแผลรูปกางเขนที่ฝ่ามือซ้าย ซึ่งทำให้เลือดออกมากและทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก สองสามวันต่อมา วันที่ 6 กรกฎาคม ขณะสวดภาวนาอยู่ในห้องสวดภาวนา, ซิสเตอร์อักเนสได้ยินเสียงดังมาจากพระรูปพระนางมารีย์พรหมจารี ซึ่งสร้างขึ้นจากท่อนไม้คัตสึระ(Katsura)ที่แข็งแกร่งและมีความสูงสามฟุต ในวันเดียวกันนั้นเอง ซิสเตอร์หลายคนสังเกตเห็นเลือดหยดลงจากมือขวาของพระรูป ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอีกสามครั้ง เลือดที่ไหลออกจากมือของพระรูปหยุดลงในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งในเวลานั้นพระรูปก็เริ่มมีความชื้นคล้ายเหงื่อบนหน้าผากและคอด้วย ซิสเตอร์อักเนสได้รับสาส์นเพิ่มเติมในวันที่ 3 สิงหาคม และสาส์นสุดท้ายในวันที่ 13 ตุลาคม
 
สองปีต่อมา ในวันที่ 4 มกราคม 1975 พระรูปพระแม่มารีย์เริ่มหลั่งน้ำตา ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่คงอยู่เป็นระยะๆ ตลอดหกปีแปดเดือนข้างหน้า รวมทั้งหมด 101 ครั้ง
 
สาส์นของแม่พระ 6 ก.ค. 1973 
“ลูกสาวของแม่, โนวิสของแม่, ลูกเชื่อฟังแม่เป็นอย่างดีโดยละทิ้งทุกสิ่งเพื่อติดตามแม่ ความบกพร่องของหูของลูกเจ็บปวดหรือไม่? อาการหูหนวกของลูกจะหายเป็นปกติแน่นอน แผลที่มือทำให้ลูกเจ็บปวดหรือเปล่า? จงสวดภาวนาเพื่อชดใช้บาปของมนุษย์เถิด แต่ละคนในชุมชนนี้คือลูกสาวของแม่ที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ ลูกสวดภาวนาบทผู้รับใช้แห่งศีลมหาสนิทอย่างดีหรือไม่? ถ้าอย่างนั้นให้เรามาสวดภาวนาด้วยกัน”
 
“ข้าแต่พระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระเยซูเจ้า,ซึ่งปรากฏอยู่ในศีลมหาสนิทอย่างแท้จริง ลูกขอถวายร่างกายและวิญญาณทั้งสิ้นของลูกเป็นหนึ่งเดียวกับพระหฤทัยของพระองค์ ซึ่งถูกถวายเป็นยัญบูชาบนพระแท่นทั่วโลกตลอดเวลา และขอสรรเสริญพระบิดาเจ้าโดยวิงวอนขอให้พระอาณาจักรของพระองค์จงมาถึง”
 
“โปรดรับตัวลูกเป็นเครื่องบูชาอันต่ำต้อย โปรดใช้ลูกตามที่พระองค์ประสงค์เพื่อถวายเกียรติแด่พระบิดาและเพื่อความรอดของวิญญาณทั้งหลาย”
 
“พระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของพระเจ้า, โปรดอย่าให้ลูกถูกพรากจากองค์พระบุตรของพระแม่เลย โปรดป้องกันและปกป้องลูกในฐานะลูกพิเศษของพระแม่ด้วย อาแมน”
 
เมื่อสวดภาวนาเสร็จสิ้นแล้ว, มีเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า “จงสวดภาวนามากๆเพื่อพระสันตะปาปา พระสังฆราช, และพระสงฆ์ นับตั้งแต่ที่ลูกรับศีลล้างบาป, ลูกได้สวดภาวนาเพื่อท่านเหล่านั้นอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด สวดภาวนาต่อไปให้มาก…มาก บอกหัวหน้าของลูกถึงเรื่องในวันนี้และเชื่อฟังท่านในทุกสิ่งที่ท่านจะบอกลูก ท่านได้ขอให้ลูกสวดภาวนาด้วยความกระตือรือร้น”
 
สาส์นวันที่ 3 ส.ค. 1973
 
“ลูกสาวของแม่,โนวิสของแม่,ลูกรักพระเยซูเจ้าหรือไม่? ถ้าลูกรักพระเยซูเจ้า,จงฟังสิ่งที่แม่จะพูดกับลูก”
 
มันเป็นเรื่องสำคัญมาก ลูกจะส่งเรื่องนี้ไปให้ผู้ใหญ่ของลูก”
 
“มนุษย์หลายคนในโลกนี้ได้ทำให้พระเยซูเจ้าทรงเป็นทุกข์พระทัย แม่ปรารถนาให้วิญญาณทั้งหลายปลอบพระองค์เพื่อทำให้พระพิโรธของพระบิดาสวรรค์บรรเทาลง แม่ปรารถนา,พร้อมกับพระบุตรของแม่, ให้วิญญาณทั้งหลายช่วยกันชดเชยสิ่งนี้ด้วยความทุกข์ทรมานและความยากจนของพวกเขาสำหรับคนบาปและคนเนรคุณทั้งหลาย”
 
“เพื่อที่โลกจะได้รู้ถึงพระพิโรธของพระองค์, พระบิดาสวรรค์จึงทรงเตรียมการลงทัณฑ์อันยิ่งใหญ่แก่มวลมนุษยชาติ แม่ได้เข้าแทรกแซงหลายครั้งเพื่อบรรเทาพระพิโรธของพระบิดาร่วมกับองค์พระบุตรของแม่ แม่ได้ป้องกันไม่ให้ภัยพิบัติมาเยือนด้วยการถวายความทุกข์ทรมานของพระบุตรบนไม้กางเขน, พระโลหิตอันทรงคุณค่าของพระองค์, และวิญญาณที่รักทั้งหลายซึ่งปลอบประโลมพระองค์จนกลายเป็นกลุ่มวิญญาณที่ยอมรับความทุกข์ การสวดภาวนา, การใช้โทษบาป, และการพลีกรรมอย่างกล้าหาญสามารถบรรเทาพระพิโรธของพระบิดาได้ แม่ปรารถนาสิ่งนี้จากชุมชนของลูกด้วยเช่นกัน…ให้รักความยากจน, และสวดภาวนาเพื่อชดเชยความอกตัญญูและความขุ่นเคืองของมนุษย์จำนวนมาก
 
“สวดบทภาวนาผู้รับใช้แห่งศีลมหาสนิท(prayer of the Handmaids of the Eucharist)โดยตระหนักถึงความหมายของคำภาวนา, นำไปปฏิบัติ; ถวายการชดเชย (ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าจะทรงส่งมา) สำหรับบาป ให้แต่ละคนพยายามถวายตัวแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างเต็มที่ตามความสามารถและตำแหน่ง,เพื่อถวายตนเองทั้งครบแด่พระเยซูเจ้า
 
“แม้แต่ในสถาบันทางโลกก็ยังจำเป็นต้องสวดภาวนา วิญญาณที่ประสงค์จะสวดภาวนากำลังมารวมตัวกันแล้ว จงซื่อสัตย์และสวดภาวนาอย่างแรงกล้าเพื่อปลอบพระทัยพระอาจารย์เจ้าโดยไม่ต้องให้ความสนใจกับรูปแบบมากนัก”
 
หลังจากหยุดชั่วครู่
 
“สิ่งที่ลูกคิดในใจเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? ลูกตัดสินใจที่จะกลายเป็นก้อนหินที่ถูกปฏิเสธอย่างแท้จริงหรือไม่? โนวิสของแม่, ผู้ปรารถนาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมโดยไม่มีข้อจำกัดต่อพระเยซูเจ้า เพื่อเป็นเจ้าสาวที่คู่ควรกับเจ้าบ่าว จงปฏิญาณตนโดยรู้ว่าจะต้องถูกตอกตะปูสามตัวบนไม้กางเขน ตะปูทั้งสามนี้ได้แก่ ความยากจน พรหมจรรย์ และความนบนอบเชื่อฟัง ในสามประการนี้ ความนบนอบเชื่อฟังเป็นรากฐาน จงละทิ้งตนเองโดยสิ้นเชิง ปล่อยให้ตัวเองถูกนำทางโดยผู้ใหญ่ของลูก ท่านจะรู้วิธีที่จะเข้าใจลูกและแนะนำลูก”
 
สาส์นวันที่ 13 ต.ค. 1973
 
“ลูกสาวของแม่,จงฟังให้ดีสิ่งที่แม่กำลังจะบอกกับลูก ลูกจะแจ้งสิ่งนี้ให้แก่ผู้ใหญ่ของลูก”
หลังจากเงียบสักพักหนึ่ง
 
“ตามที่แม่ได้บอกกับลูก,ถ้ามนุษย์ไม่กลับใจและเปลี่ยนแปลงความประพฤติให้ดีขึ้น พระบิดาจะทรงส่งโทษทัณฑ์ร้ายแรงและน่ากลัวมายังมนุษยชาติทั้งมวล มันจะเป็นโทษทัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่กว่าน้ำวินาศ ชนิดที่ไม่ใครเคยเห็นมาก่อน ไฟจะตกจากท้องฟ้าและจะกวาดเอามนุษยชาติส่วนใหญ่ของโลกให้หายไป ทั้งคนดีและคนชั่ว ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์หรือผู้มีความเชื่อ ผู้รอดชีวิตจะพบตัวเองโดดเดี่ยวอ้างว้างและจะอิจฉาคนที่ตายไปแล้ว อาวุธเพียงอย่างเดียวสำหรับลูกคือสายประคำและหมายสำคัญที่องค์พระบุตรของแม่ทรงทิ้งไว้ให้ จงสวดสายประคำทุกวัน สวดสายประคำสำหรับพระสันตะปาปา พระสังฆราชและพระสงฆ์”
 
ผลงานของปีศาจจะแทรกเข้าไปแม้แต่ในพระศาสนจักร จนทำให้ได้เห็นพระคาร์ดินัลขัดแย้งกับพระคาร์ดินัล พระสังฆราชขัดแย้งกับพระสังฆราช พระสงฆ์ที่เคารพนับถือแม่จะถูกดูหมิ่นและถูกต่อต้าน…โบสถ์และพระแท่นบูชาจะถูกทำลาย พระศาสนจักรจะเต็มไปด้วยผู้ที่ยอมรับการประนีประนอม และปีศาจจะกดดันพระสงฆ์และวิญญาณที่ถวายตนจำนวนมากให้ละทิ้งการรับใช้พระเจ้า
 
“ปีศาจจะไม่โอนอ่อนโดยเฉพาะต่อดวงวิญญาณที่ถวายตัวแด่พระเจ้า ความคิดถึงการสูญเสียวิญญาณจำนวนมากมายเป็นสาเหตุของความโศกเศร้าของแม่ หากบาปมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ก็จะไม่มีการอภัยบาปอีกต่อไปสำหรับพวกเขา”
 
“จงพูดอย่างกล้าหาญกับผู้ใหญ่ของลูก ท่านจะรู้วิธีให้กำลังใจพวกลูกแต่ละคนให้สวดภาวนาและทำงานเพื่อการชดเชยใช้โทษบาปให้สำเร็จ”
 
“ท่านบิช็อปอิโตะเป็นผู้ดูแลชุมชนของลูก”
 
และพระนางทรงยิ้มแล้วพูดว่า:
 
“ลูกยังมีอะไรจะถามอีกใช่ไหม? วันนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะพูดกับลูกด้วยเสียง ตั้งแต่นี้ไปลูกจะต้องเชื่อฟังผู้ที่ส่งมาถึงลูกและผู้ใหญ่ของลูก”
 
“จงสวดสายประคำมากๆ แม่เป็นผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลูกให้พ้นจากภัยพิบัติที่ใกล้เข้ามาได้ บรรดาผู้ที่วางใจในแม่จะรอด”
 
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2019 WQPH 98.3 FM สถานีวิทยุคาทอลิกที่ออกอากาศในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐอเมริกา ได้แจ้งข่าวว่าซิสเตอร์ซาซากาวะ ได้รับสาส์นใหม่ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2019 (ช่วงเริ่มต้นของโรคระบาดโควิด)ซิสเตอร์ซาซากาวะถูกปลุกโดยอารักขเทวดาของเธอ และอารักขเทวดาบอกเธอว่า “จงคลุมตัวด้วยขี้เถ้า และโปรดสวดสายประคำแห่งการชดใช้ทุกวัน กลายเป็นเหมือนเด็ก โปรดทำพลีกรรมทุกวัน”
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น