วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2567

เผ่ายูดาห์และตำแหน่งพระสันตะปาปา

 



‬“คทาจะไม่ไปจากยูดาห์ ไม้เท้าของผู้ปกครองจะไม่ถูกยกไปจากระหว่างเท้าของเขา จนกว่าผู้เป็นเจ้าของจะมา และประชาชาติจะนอบน้อมต่อเขา" 
ปฐมกาล 49:10
 
นี่เป็นคำพยากรณ์ที่จะสำเร็จในวาระสุดท้ายในพระคริสต์,พระเมสสิยาห์,ผู้มาจากเผ่ายูดาห์
 
เมื่อพระเยซูทรงเลือกอัครสาวกสิบสองคน พระองค์ทรงเลือกโดยใช้วิธีแบบเดียวกับสิบสองเผ่าของอิสราเอล ในการสถาปนาพระศาสนจักรของพระองค์,เป็นอิสราเอลใหม่,ซึ่งชาวยิวและคนต่างชาติมีความเท่าเทียมกันในพระเมสสิยาห์ และไม่ได้เป็น "การแทนที่" อิสราเอลเก่า แต่เป็นการขยายเพื่อรวมประชาชาติทั้งหมดของโลกไว้พร้อมกับชาวยิว อัครสาวกเหล่านี้เองจะเป็นผู้สืบทอดซึ่งดังที่พระคริสต์ตรัสไว้ว่า จะนั่งบน “บัลลังก์สิบสองที่นั่ง” และจะพิพากษาชนเผ่าอิสราเอล “ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์หลายหลัง และบรรดาผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นได้รับอำนาจที่จะพิพากษา” (วิวรณ์ 20:4)
 
ในทำนองเดียวกัน, ประวัติของอิสราเอลสิบสองเผ่าเองก็สามารถย้อนเวลากลับไปถึงบุตรชายทั้งสิบสองคนของยาโคบ ปฐมกาล 49 เป็นบทที่ยาโคบอวยพรลูกชายแต่ละคนของเขา ซึ่งต่อมาลูกชายเหล่านั้นก็กลายเป็นบรรพบุรุษของแต่ละเผ่าในสิบสองเผ่า
 
ยาโคบทำนายเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ว่าจะเกิดมาในตระกูลของยูดาห์ ยูดาห์จะเป็นชนเผ่าที่จะครอบครองกรุงเยรูซาเล็ม และเป็นที่ตั้งของราชวงศ์ดาวิด ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่าพระเมสสิยาห์จะมาจากดาวิด ยูดาห์จึงกลายเป็นหัวหน้าเผ่าของอิสราเอล “คทาจะไม่ขาดไปจากยูดาห์” ดังที่ยาโคบกล่าวไว้ แต่เมื่อสิบเผ่าทางเหนือแยกตัวออกไป พวกเขาก็ทำลาย “ความเป็นหนึ่งเดียวกัน” กับเผ่ายูดาห์และเยรูซาเล็ม พวกเขามีเหตุผลที่เข้าใจได้ในการทำเช่นนั้น เพราะเรโหโบอัมโอรสของโซโลมอนเป็นผู้กดขี่ข่มเหงทำให้เผ่าอื่นๆไม่พอใจ ถึงกระนั้น “คทาจะไม่ไปจากยูดาห์” และกษัตริย์แห่งยูดาห์ยังคงเป็นผู้รับผลประโยชน์จากพันธสัญญาของพระเจ้าที่ประทานแก่ดาวิด และต่อหน้ากษัตริย์เรโหโบอัม,สิ่งแรกที่เยโรโบอัมผู้นำการแยกตัวออกไปทำคือสร้าง "พระวิหาร" แห่งใหม่โดยที่เขามีฐานะเป็นสมณะใหม่ในดินแดนของเขาเอง,นอกเหนือจากกรุงเยรูซาเล็มและเผ่ายูดาห์ ชาวอิสราเอลที่ซื่อสัตย์ที่เหลืออยู่ในบรรดาชนเผ่าทางตอนเหนือสิบเผ่า,ยังคงภักดีต่อยูดาห์,และมานมัสการพระเจ้าในพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม
 
ทำไมถึงพูดเรื่องทั้งหมดนี้? เนื่องจากประวัติศาสตร์ทั้งหมดของอิสราเอลจนถึงการประสูติของพระเยซูผู้มาจากเชื้อสายของเจสซีแห่งเผ่ายูดาห์นั้นได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงตามคำพยากรณ์ของยาโคบที่มอบให้ยูดาห์ลูกชายคนโต ในที่สุดคำสัญญาทั้งหมดเหล่านั้นก็สรุปไว้ในคำพยากรณ์และการอวยพรของยาโคบที่มอบให้ลูกชายคนโตของเขา
 
ตอนนี้กลับไปที่อัครสาวก พระเยซูทรงตั้งพระศาสนจักรของพระองค์บนเปโตร พระองค์ทรงมอบกุญแจแห่งอาณาจักรสวรรค์แก่เขา และตรัสอีกว่าสิ่งใดก็ตามที่เขา [เปโตร] ผูกและแก้บนแผ่นดินโลก,จะถูกผูกและแก้ในสวรรค์ด้วย ในตอนท้ายของพระวรสารนักบุญยอห์น,พระเยซูทรงสั่งให้เปโตรดูแลฝูงแกะทั้งหมดของพระองค์
 
คำสั่งของพระเยซูต่อเปโตรนี้สอดคล้องกับรูปแบบในพระคัมภีร์พระธรรมเก่า ซึ่งทำให้เปโตรเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่มาจาก “เผ่ายูดาห์” ของพระศาสนจักรคาทอลิก,ที่ซึ่งทุกคน,ชนเผ่าอื่นๆ ของอิสราเอลใหม่จะต้องอยู่ร่วมกัน,เป็นหนึ่งเดียวกัน,หากพวกเขาปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลใหม่
 
คำสัญญาของพระคริสต์สำเร็จแล้วในพระศาสนจักรคาทอลิก เราจึงมีผู้สืบทอดตำแหน่งของเปโตรตลอดมาในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีการสืบทอดกันมายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ บรรดานักบุญ,ปิตาจารย์,และนักปราชญ์ของพระศาสนจักรได้แสดงความเชื่อฟังและนอบน้อมต่อสถาบันของพระเจ้านี้
 
พระศาสนจักรผ่านการทดลองและความยากลำบากนับไม่ถ้วน ผ่านการแย่งชิงและแตกแยกต่างๆ ผ่านความวุ่นวายและการโจมตีจากภายนอกและภายใน บัลลังก์ของนักบุญเปโตรยังคงอยู่เสมอ เป็นศูนย์กลางของพระศาสนจักรคาทอลิกเหมือนที่เป็นมาเป็นเวลา 2,000 ปี เป็นยูดาห์ใหม่ของอิสราเอลใหม่
 
“ฝนและหิมะลงมาจากท้องฟ้าและไม่กลับไปที่นั่นถ้าไม่ได้รดแผ่นดิน ทำให้แผ่นดินอุดม ทำให้พืชงอกขึ้น เพื่อให้ผู้หว่านมีเมล็ดพันธ์ และผู้กินมีอาหารฉันใด ถ้อยคำของเราที่ออกจากปากของเราก็จะไม่กลับมาหาเราโดยไม่เกิดผล ไม่ทำตามที่เราปรารถนา และไม่บรรลุจุดประสงค์ที่เราส่งมาฉันนั้น” 
(อิสยาห์ 55:10-11)
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น