วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

นักบุญยอห์น บอสโก พูดถึงสวรรค์

 

นักบุญบางคน,ในชีวิตบนโลกของพวกเขา,ได้รับโอกาสเห็นความสุขในสวรรค์และความน่ากลัวในนรก
 
นักบุญคนแรกๆ ที่ได้รับโอกาสเห็นอาณาจักรสวรรค์ด้วยตนเองคือ นักบุญยอห์น อัครสาวก ในหนังสือวิวรณ์ ท่านบรรยายถึงเยรูซาเล็มลงมาจากสวรรค์ซึ่งประกอบด้วย “พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า มีความสุกใสเหมือนเพชรพลอยล้ำค่า คล้ายแก้วมณีโชติช่วงเป็นผลึกสดใส เมืองนี้มีกำแพงสูงใหญ่ มีประตูสิบสองประตู แต่ละประตูมีทูตสวรรค์สิบสององค์ประจำอยู่ … เมืองนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์ ใสราวกับแก้ว กำแพงเมืองตั้งอยู่บนฐานศิลาสิบสองฐาน กำแพงนี้สร้างด้วยแก้วมณีและนครนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์เหมือนแก้วผลึกสดใส… ประตูเป็นไข่มุกสิบสองเม็ด แต่ละประตูเป็นไข่มุกเม็ดเดียว ลานเมืองเป็นทองคำบริสุทธิ์ สุกใสราวกับแก้ว … วิหารของเมืองนี้คือพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพและลูกแกะ” และ “พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือนครนี้ และตะเกียงของเมืองนี้คือลูกแกะ”
 
นักบุญยอห์นบอกเราว่าในสวรรค์จะไม่มีน้ำตา ความตาย การร้องไห้ หรือความเจ็บปวดอีกต่อไป “พระบัลลังก์ของพระเจ้าและของลูกแกะจะประทับอยู่ในนครนั้น และบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์จะนมัสการพระองค์ พวกเขาจะเห็นพระพักตร์ของพระองค์ และพระนามของพระองค์จะประทับบนหน้าผากของพวกเขา และจะไม่มีกลางคืนอีกต่อไป พวกเขาไม่ต้องการแสงตะเกียงหรือแสงแดด เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นแสงสว่างของพวกเขา และพวกเขาจะครองราชย์ชั่วนิรันดร์” (วิวรณ์ 21)
 
นักบุญยอห์น บอสโก พูดเกี่ยวกับสวรรค์
 
นักบุญยอห์น บอสโก ซึ่งรู้จักกันในนาม ดอน บอสโก เขียนถึงนิมิตที่ท่านได้เห็นสวรรค์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1876 คุณพ่อเขียนว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสีน้ำเงินเหมือนทะเลที่สงบนิ่งที่สุด แม้ว่าสิ่งที่เห็นจะไม่ใช่น้ำก็ตาม”
 
ท่านอธิบายว่า “ถนนกว้างใหญ่ไพศาลแบ่งพื้นที่ราบออกเป็นสวนใหญ่ที่งดงามเกินบรรยาย” และคุณพ่อได้ยิน “เสียงดนตรีที่ไพเราะที่สุด เป็นทำนองที่ไพเราะจับใจจนไม่สามารถบรรยายได้หมด … จากการแสดงสีหน้าที่มีความสุขของบรรดาผู้ร้องเพลง จะเห็นได้ว่าผู้ร้องเพลงไม่เพียงแต่มีความสุขอย่างที่สุดในการร้องเพลงเท่านั้น แต่ยังมีความสุขอย่างยิ่งใหญ่ในการฟังผู้อื่นอีกด้วย … และนี่คือเพลงของพวกเขา: “ความรอด เกียรติยศ และความรุ่งโรจน์แด่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และพระบิดา … พระผู้สร้างผู้ทรงเป็นอดีต, ผู้ทรงเป็นปัจจุบัน, และจะเสด็จมาในอนาคตเพื่อพิพากษาผู้เป็นและผู้ตายตลอดไปชั่วนิรันดร์”
 
เมื่อขบวนแถวของเด็กชายจำนวนมากเข้ามาใกล้ คุณพ่อบอสโกเล่าว่าท่านจำเด็กหลายคนที่เคยอยู่ที่ “บ้านเยาวชนและที่โรงเรียนอื่นๆของเราได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนที่พ่อไม่เคยเห็นมาก่อน … แถวยาวของพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ โดยมี (นักบุญ) โดมินิก ซาวีโอ อยู่หน้าสุดเป็นผู้นำขบวน ตามด้วยพระสงฆ์หลายคนที่นำกลุ่มเด็กๆ โดมินิก ซาวีโอยืนห่างจากคุณพ่อบอสโกประมาณหนึ่งช่วงแขน “[มงกุฎกุหลาบ] สวมศีรษะของเขา” แล้วบทสนทนาก็เกิดขึ้น:
 
โดมินิก ซาวีโอ: “คุณพ่อกำลังอยู่ในที่พำนักแห่งความสุข … ที่ซึ่งบุคคลจะสัมผัสได้ถึงความสุขและความยินดีทุกประการ”
 
ดอนบอสโก: “นี่คือรางวัลของผู้ชอบธรรมใช่หรือไม่?”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “ไม่ใช่เลยครับ! ที่นี่เราไม่ได้มีความสุขเหนือธรรมชาติ แต่เป็นเพียงความสุขตามธรรมชาติ,แต่ก็เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก”
 
ดอนบอสโก: “ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่เป็นธรรมชาติใช่ไหม?”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “ใช่ครับ มีแต่พลังอำนาจของพระเจ้าเท่านั้นที่ทำให้ที่นี่แข็งแกร่งขึ้น”
 
ดอนบอสโก: “โอ้! พ่อคิดว่านี่คือสวรรค์”
 
โดมินิก ซาวิโอ: “โอ้ ไม่ใช่ ไม่ใช่เลยครับ! … ไม่มีดวงตาของมนุษย์คนใดจะมองเห็นความงามของสวรรค์ได้”
 
ดอนบอสโก: “และดนตรีนี้… ดนตรีที่ไพเราะนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขในสวรรค์ใช่ไหม?”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “ไม่ใช่ ไม่ใช่เลยครับ ไม่ใช่แน่นอน!”
 
ดอนบอสโก: “เสียงเหล่านี้เป็นเพียงเสียงธรรมชาติหรือ?”
 
โดมินิก ซาวิโอ: “ใช่ครับ ใช่แน่นอน แต่ถูกทำให้สมบูรณ์แบบด้วยพลังอำนาจอันไม่มีขอบเขตของพระเจ้า”
 
ดอนบอสโก: “และแสงที่ส่องประกายเจิดจ้ากว่าดวงอาทิตย์นี้ – เป็นแสงเหนือธรรมชาติหรือไม่? เป็นแสงจากสวรรค์หรือไม่?”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “เป็นเพียงแสงธรรมชาติที่ได้รับการเสริมพลังและสมบูรณ์แบบด้วยพระฤทธานุภาพของพระเจ้า”
 
ดอน บอสโก: “จะอนุญาตให้พ่อได้เห็นแสงเหนือธรรมชาติสักเล็กน้อยได้ไหม?”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “ไม่มีใครเห็นมันได้จนกว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้าตามที่เขาเป็น แสงที่สว่างเพียงเล็กน้อยที่สุดก็สามารถทำให้คนตายได้ทันที เพราะประสาทสัมผัสของมนุษย์ไม่แข็งแรงพอที่จะทนทานต่อแสงนี้ได้”
 
ดอน บอสโก: “เป็นไปได้ไหมที่จะมีแสงธรรมชาติที่งดงามมากกว่านี้”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “เป็นไปได้ครับ แต่ถ้าคุณพ่อมองแสงธรรมชาตินี้เพียงลำแสงเดียวที่เพิ่มขึ้นเพียงหนึ่งระดับ, คุณพ่อจะเข้าสู่ภวังค์แห่งความสุขอย่างล้นเหลือ … ผมจะพิสูจน์ให้คุณพ่อได้รู้ถึงสิ่งที่ผมพูด...”
 
(คุณพ่อบอสโกเขียนว่า, “ทันใดนั้น จากสวรรค์ที่อยู่ห่างไกลที่สุด ก็มีแสงแวบวาบในอากาศเกิดขึ้นทันที, ละเอียดเหมือนเส้นด้าย, แต่เจิดจ้ามาก, แสบตาจนพ่อมองอะไรไม่ชัดและเจ็บปวดมาก … เส้นใยของแสงนั้นสว่างกว่าดวงอาทิตย์ร้อยล้านเท่า ความเจิดจ้าของมันสามารถทำให้จักรวาลของเราสว่างไสวได้ทั้งหมด … หลังจากนั้นไม่กี่นาที พ่อก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง …)
 
ดอน บอสโก: “นั่นไม่ใช่ลำแสงของสวรรค์หรือ?”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “มันไม่ใช่แสงเหนือธรรมชาติ” โดมินิกตอบ “ถึงจะเหนือกว่าแสงของโลกในด้านความเจิดจ้าก็ตาม มันเป็นเพียงแสงทางโลกที่ส่องแสงเจิดจ้าด้วยพลังอำนาจของพระเจ้า ถึงแม้ว่าแสงอันกว้างใหญ่ที่แรงกล้าเท่ากับแสงที่คุณพ่อเห็นที่ปลายทะเลคริสตัลนั้นจะปกคลุมโลกทั้งใบ มันก็ยังไม่สามารถทำให้คุณพ่อนึกถึงความยิ่งใหญ่ของสวรรค์ได้”
 
ดอน บอสโก: “ดังนั้น เธอเพลิดเพลินกับอะไรในสวรรค์”
 
โดมินิก ซาวีโอ: “โอ้ สิ่งนั้นไม่อาจบรรยายได้ ความสุขในสวรรค์ไม่มีมนุษย์คนใดๆสามารถรับรู้ได้จนกว่าพวกเขาจะตายและกลับมาเป็นหนึ่งเดียวกับพระผู้สร้างอีกครั้ง พวกเราเพลิดเพลินในพระเจ้าเท่านั้น — ไม่มีอะไรอื่น!”
 
ที่มา - https://www.ncregister.com/blog/saints-who-saw-heaven-and-hell
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น