วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2568

จุดประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างมนุษย์

 

 

         อาดัมกำศรวล

                     เพราะทำผิดพลาดพลั้งไป    จึงต้องเสียใจภายหลัง

      ตรอมตรมก้มหน้ารับกรรม       สิ้นหวังสุดช้ำกล้ำกลืน

               พระบิดารักข้าหนักหนา    ประทานเกียรติสง่าราศี

      ให้อยู่ในแดนสุขาวดี          เอเดนถิ่นที่อภิรมย์

               กลับไปเชื่อฟังคำมาร     ซาตานสร้างทุกข์ขื่นขม

      หลอกล่อให้ต้องระทม        ต้องจมอยู่ในน้ำตา

               ถูกไล่ออกจากเอเดน    ยากแค้นแสนเข็ญหนักหนา

     ลำบากเหน็ดเหนื่อยกายา     จนกว่าชีวาสิ้นไป

               ยังดีพระมีเมตตา      ประทานสัญญายิ่งใหญ่

      สตรีหนึ่งบริสุทธิ์สดใส      บุตรนางจะทรงนำชัย

               จะทรงกอบกู้มนุษย์        ให้พ้นทุกข์ภัยตักษัย

     กลับมาเป็นบุตรพระทรงชัย    มารร้ายพินาศไปใต้พระบาทา                 

               ข้านี้จึงมีความหวัง       ประทังชีวารักษา

      รอคอยพระผู้ไถ่เสด็จมา         ทรงพระกรุณาทั่วทุกคน

               ถ้าพระไม่ประทานพระสัญญา    ชีวาข้าคงหมองหม่น

     คงอยู่แต่ความทุกข์ทน        จวบจนมอดม้วยมรณา

               ไตร่ตรองดูเถิดลูกหลาน       อย่าพาลทำผิดเช่นข้า

     คำนึงถึงพระเมตตา           วันนี้วันหน้าและตลอดไป                                               


อาดัมและเอวาฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้า
 
พระเจ้าทรงต้องการทดลองใจของอาดัมและเอวาว่าจะเชื่อฟังพระองค์หรือไม่ การห้ามกินผลไม้ที่อยู่กลางสวนนั้นดูว่าเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยและปฏิบัติได้ง่ายๆ ถึงกระนั้นอาดัมและเอวาก็ยังฝ่าฝืน ความผิดของพวกเขานั้นใหญ่โตมาก ไม่ใช่เพราะกินผลไม้แต่เป็นเพราะเขากระทำผิดต่อพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด เขาเชื่อฟังปีศาจแทนที่จะเชื่อฟังพระเจ้า เท่ากับสบประมาทพระองค์ เปรียบได้กับขอทานสบประมาทองค์พระมหากษัตริย์ โทษของขอทานนั้นก็จะหนักมากจนถึงต้องประหารชีวิต ฉันใดก็ฉันนั้น โทษของอาดัมและเอวาก็หนักมากจนทำให้สูญเสียความเป็นบุตรของพระเจ้าและไม่สามารถอยู่กับพระเจ้าได้ แต่ด้วยพระเมตตาของพระเจ้า พระองค์จึงได้ส่งพระบุตรมาบังเกิดเป็นมนุษย์และทรงรับโทษแทนมนุษย์ นี่เป็นความล้ำลึกของพระเจ้าในพระเมตตาของพระองค์
 
ทำไมพระเจ้าจึงทรงทดลองใจมนุษย์
 
เหตุผลประการหนึ่งก็คือพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์เรียนรู้ที่จะควบคุมตนเองด้วยจิตใจอิสระ และรู้จักที่จะเลือกความดีปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระองค์ด้วยจิตใจอิสระ มนุษย์จึงจะมีวัยวุฒิฝ่ายจิตเหมาะสมที่จะได้อยู่กับพระเจ้า และตระหนักถึงความรักอันมั่นคงของพระเจ้า
 
เหตุผลอีกประการหนึ่ง เนื่องจากมนุษย์มีความสามารถจำกัดในการที่จะรับความสุขและศักดิ์ศรีจากพระเจ้าและแต่ละคนจะได้รับไม่เท่ากัน แต่ละคนจะมีศักดิ์ศรีในระดับใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาโดยอาศัยการทดสอบอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ละคนตัดสินเลือกระดับความสุขและศักดิ์ศรีของตนเองโดยการประกอบกิจการในระดับคุณธรรมต่างๆ เช่น ความไม่เห็นแก่ตัว ความรัก ความถ่อมตน ความนบนอบเชื่อฟัง ความสม่ำเสมอ และอื่นๆซึ่งกระทำในระหว่างเวลาแห่งการทดสอบ ระยะเวลาในการทดสอบเปิดโอกาสให้มนุษย์แต่ละคนเจริญเติบโตในคุณธรรมต่างๆเหล่านั้น
 
จุดประสงค์ของพระเจ้าในการสร้างมนุษย์
 
ในการสร้างสรรพสิ่งในสวรรค์และแผ่นดิน, พระเจ้าทรงมีจุดประสงค์ในการสร้างสำหรับทุกสิ่ง ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละสิ่ง แต่พระองค์มีจุดประสงค์ที่พิเศษสำหรับทูตสวรรค์และมนุษย์โดยเฉพาะ เพราะทั้งทูตสวรรค์และมนุษย์มีความเหมือนกับพระเจ้า คือ เป็นจิต เป็นนิรันดร และมีจิตใจอิสระ สำหรับทูตสวรรค์พระองค์มีจุดประสงค์ให้พวกเขารักและรับใช้พระองค์ในการดูแลสิ่งสร้างต่างๆของพระองค์ ทูตสวรรค์ไม่มีร่างกาย แต่มีพลังอำนาจ ความรอบรู้ และความฉลาดมากกว่ามนุษย์ ส่วนมนุษย์นั้น,พระเจ้าทรงสร้างโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้มนุษย์รักและรับใช้พระองค์ในฐานะเป็นบุตรของพระองค์ พระองค์สร้างทูตสวรรค์และมนุษย์ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ เพราะพระเจ้าคือความรัก ทรงฤทธานุภาพไม่มีที่สิ้นสุด เป็นองค์สัจจธรรม  และพระองค์ทรงแสดงพระฤทธานุภาพของพระองค์ในบรรดาสิ่งสร้างทั้งหลาย
 
พระเจ้าทรงทดสอบจิตใจของทั้งทูตสวรรค์และมนุษย์ จึงเป็นการแน่นอนว่า,พวกเราแต่ละคนจะถูกทดสอบในโลกนี้ด้วย  ซึ่งก็คือการได้รับความทุกข์ในระดับที่อาจไม่เท่ากัน แต่ละคน,ทั้งทูตสวรรค์และมนุษย์,จะได้รับเกียรติสูงส่งเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับการเลือกและการกระทำของเขาเอง พระเจ้าทรงมีแผนการณ์สำหรับทูตสวรรค์และมนุษย์ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว สิ่งสร้างทั้งสองจึงมีความสัมพันธ์กัน ทูตสวรรค์ได้รับหน้าที่จากพระเจ้าในการปกป้องมนุษย์ผู้เป็นบุตรของพระเจ้า เพราะมนุษย์มีศักยภาพที่ด้อยกว่าทูตสวรรค์ ทูตสวรรค์จึงเปรียบเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลน้องๆของเขา  ทูตสวรรค์รับภารกิจนี้ด้วยความยินดี,แสดงถึงคุณธรรมความเชื่อฟังและความถ่อมตนของทูตสวรรค์ ส่วนมนุษย์จะมีศักดิ์ศรีสูงขึ้นได้,จำเป็นต้องปฏิบัติคุณธรรมความดี  และคุณธรรมที่ดีที่สุดก็คือการปฏิบัติคุณธรรมเฉกเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า,พระคริสตเจ้า, องค์พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า,  โดยดำเนินชีวิตตามพระฉบับแบบและคำสั่งสอนของพระองค์ มนุษย์จึงจะเหมาะสมที่จะได้รับฐานะเป็นบุตรของพระเจ้า ที่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
 
* * * * *
 
พระเยซูคริสต์เสด็จมาในโลกเพื่อไถ่กู้มนุษย์จากบาปที่อาดัมและเอวาได้ก่อไว้ซึ่งได้แยกมนุษย์ออกจากพระเจ้า และบาปนั้นส่งผลมายังมนุษยชาติทั้งมวลด้วย  พระเยซูคริสต์ทรงยกระดับศักดิ์ศรีของมนุษย์ให้สูงขึ้นจากความโน้มเอียงฝ่ายต่ำ อันได้แก่ กิเลส ความหลงมัวเมาในสิ่งของทางโลก ความเห็นแก่ตัว และอื่นๆ พระองค์ทรงเปลี่ยนมุมมองในเรื่องความยากจน,ความทุกข์เข็ญต่างๆ ซึ่งพวกเราไม่ชอบและพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดและพยายามหาทางหลุดพ้นจากความทุกข์ โดยพระองค์ทรงยอมรับความยากจนและความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้นรวมทั้งความตายและเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเกียรติสง่าราศี พระองค์ทรงมีชัยชนะต่อความทุกข์ทั้งหมดและชนะความตาย ด้วยการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ปีศาจมารร้ายพยายามล่อลวงพระองค์เหมือนกับที่ล่อลวงอาดัมและเอวา แต่มันทำไม่สำเร็จ ต้องพ่ายแพ้ต่อพระองค์เพราะพระองค์ทรงทำทุกสิ่งตามพระประสงค์ของพระบิดา  อย่างไรก็ตาม,ปีศาจยังไม่ยอมหยุด มันยังล่อลวงพวกเราที่เป็นลูกหลานของอาดัมและเอวาต่อไปในโลกทุกวันนี้  แต่...พระเยซูเจ้าทรงทำแบบอย่างแก่เราไว้แล้วในการเอาชนะปีศาจ พระองค์ทรงปรารถนาให้เรากระทำเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงทำด้วย ให้เราช่วยเหลือตัวเราเองและช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการยอมรับความทุกข์เล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวันของเราด้วยคุณธรรมความพากเพียร และนำความทุกข์เหล่านั้นรวมเข้ากับพระมหาทรมานของพระองค์ สิ่งนี้คือคุณธรรม สิ่งนี้ทำให้เราเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า  และพระเยซูเจ้า,ผู้ทรงฤทธานุภาพจะทรงประทานศักดิ์ศรีแก่เราให้เราเป็นบุตรของพระเจ้า
 
************************
 

1 ความคิดเห็น:

  1. พระเจ้าเป็นความรัก คำนี้สำคัญมากนะครับ เพราะนี่คือแหล่งที่มาของการสร้างจักรวาลและการให้กำเนิดมนุษย์ เมื่อไตร่ตรองดีๆ พระเจ้าไม่เคยไล่มนุษย์ออกจากสวนเอเดน แต่มนุษย์จำใจต้องออกมา เพราะปฏิเสธการรักษาบาดแผลแห่งบาปที่เกิดจากการทำบาป (บาปทุกชนิดคือการไม่เชื่อพระเจ้านั่นเอง เหมือนลูกไม่เชื่อคำสอนของพ่อแม่) ลูกจึงอยู่ในสวนเอเดนไม่ได้ เพราะที่นั่นเป็นนิรันดร์ ถ้ามนุษย์ยังอยู่มนุษย์จะพิการแบบนิรันดร์ เพราะมีแผลอยู่ พระเจ้าจึงให้ลูกออกมา ด้วยความเศร้าใจ ... เพราะรัก และสัญญาผ่านทางงู ว่าวันหนึ่งจะนำลูกกลับมาที่แห่งนี้อีก ในสภาพที่สมบูรณ์ ... นี่คือการเข้าใจพระคัมภีร์ โดยต้องมี "ความรัก" เป็นแก่น มิฉะนั้นความเข้าใจในพระคัมภีร์จะสับสน ว่าพระเจ้าเป็นความรัก แต่กระทำกับมนุษย์เหมือนลูกจ้าง เหมือนทาส ... ทั้งที่มนุษย์ที่มีบาปแบบเราก็ยังไม่ทำอย่างนี้กับลูก แล้วพระเจ้าที่ไม่มีบาปจะทำกับลูกตนเองแย่กว่ามนุษย์ได้อย่างไร

    ตอบลบ