วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2568

คำอธิษฐานภาวนาที่ไม่ได้รับตามคำวอนขอ

 
ทุกสิ่งที่ท่านจะอธิษฐานภาวนาวอนขอด้วยความเชื่อ ท่านก็จะได้รับ (มัทธิว 21:22)



ไดอารี่ของนักบุญโฟสตินา
 
367 ครั้งหนึ่ง พระเยซูทรงประทานให้ฉันรู้ว่าเมื่อฉันสวดภาวนาวอนขอบางสิ่งที่มีคนฝากไว้กับฉันให้อธิษฐานภาวนาวอนขอเพื่อเขา พระองค์พร้อมเสมอที่จะประทานพระหรรษทานของพระองค์ให้ แต่วิญญาณเหล่านั้นมักไม่ต้องการรับพระหรรษทานเหล่านั้น “ดวงหทัยศักดิ์สิทธิ์ของเราเปี่ยมล้นด้วยความเมตตาอันยิ่งใหญ่ต่อวิญญาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนบาปที่น่าสงสาร เพียงแต่พวกเขาจะรู้และเข้าใจว่าเราเป็นบิดาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา และโลหิตและน้ำได้หลั่งไหลออกมาจากหัวใจของเราเพื่อพวกเขา เสมือนเป็นน้ำพุที่ล้นปรี่ไปด้วยพระเมตตา เราสถิตอยู่ในตู้ศีลทุกวันเพื่อพวกเขาในฐานะกษัตริย์แห่งพระเมตตา เราปรารถนาที่จะประทานพระหรรษทานแก่วิญญาณ แต่พวกเขาไม่ต้องการรับพระหรรษทานเหล่านั้น อย่างน้อยที่สุด ขอให้ลูกมาหาเราบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และรับพระหรรษทานเหล่านี้ที่พวกเขาไม่ต้องการรับ ด้วยวิธีนี้ ลูกจะปลอบโยนใจของเรา โอ้, วิญญาณช่างไม่สนใจต่อความดีมากมายของเรา ต่อหลักฐานแห่งความรักมากมายเหลือล้นของเรา ใจของเราได้ดื่มแต่เพียงความเนรคุณและความหลงลืมของวิญญาณที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ พวกเขามีเวลาสำหรับทุกสิ่ง แต่พวกเขาไม่มีเวลามาหาเราเพื่อวอนขอพระหรรษทาน
 
ดังนั้น เราจึงหันมาหาลูก,วิญญาณที่ถูกเลือก ลูกจะล้มเหลวในการเข้าใจความรักแห่งหัวใจของเราหรือไม่? ที่นี่ก็เช่นกัน, หัวใจของเราก็พบกับความผิดหวัง เราไม่พบการยอมจำนนต่อความรักของเราอย่างสมบูรณ์ มีการสงวนท่าทีมากมาย ความไม่ไว้วางใจมากมาย ความระมัดระวังมากมาย เพื่อปลอบใจลูก, เราขอบอกลูกว่ายังคงมีวิญญาณบางดวงที่อาศัยอยู่ในโลกที่รักเราอย่างสุดซึ้ง เราอาศัยอยู่ในหัวใจของพวกเขาด้วยความยินดี แต่พวกเขามีจำนวนน้อย ในคอนแวนต์ด้วย,มีวิญญาณที่เติมเต็มหัวใจของเราด้วยความยินดี พวกเขาเลียนแบบเรา ดังนั้นพระบิดาบนสวรรค์จึงมองดูพวกเขาด้วยความยินดีเป็นพิเศษ พวกเขาจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับทูตสวรรค์และมนุษย์ จำนวนของพวกเขามีน้อยมาก พวกเขาเป็นเครื่องป้องกันโลกต่อหน้าพระยุติธรรมของพระบิดาบนสวรรค์และเป็นวิธีในการได้รับพระเมตตาสำหรับโลก ความรักและการเสียสละของวิญญาณเหล่านี้ค้ำจุนโลกให้คงอยู่ แต่ความไม่ซื่อสัตย์ของวิญญาณที่เราเลือกเป็นพิเศษทำให้หัวใจของเราเจ็บปวดอย่างที่สุด ความไม่ซื่อสัตย์ดังกล่าวเปรียบเสมือนดาบที่ทิ่มแทงหัวใจของเรา”
 
ในที่นี้,นักบุญโฟสตินากำลังพูดถึงบุคคลที่มักจะฝากเธอให้สวดภาวนาเพื่อพวกเขา แต่พระเยซูทรงอธิบายว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ปรารถนาพระหรรษทานที่ตนแสวงหาอย่างแท้จริง ความคิดแรกของผมเกี่ยวกับบทความนี้คือคำถามเก่าแก่ที่ว่า “ทำไมพระเจ้าไม่สนองตอบคำภาวนาของผมเลย คำตอบทั่วไปคือ “บางครั้งคำตอบของพระเจ้าคือไม่” แต่คำอธิบายของพระเยซูเกี่ยวกับปัญหานี้เกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจของวิญญาณที่แสวงหาพระหรรษทานของพระองค์ “เราไม่พบการยอมจำนนต่อความรักของเราอย่างสมบูรณ์ มีการสงวนท่าทีมากมาย มีความไม่ไว้วางใจมากมาย มีความระมัดระวังมากมาย” ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดคำถามว่า เรากำลังสวดภาวนาขอคำตอบจากพระเจ้าที่ทรงรอบรู้ต่อปัญหาของเรา หรือขอให้พระเจ้าแสดงคำตอบของพระองค์ในแบบมนุษย์? หากเรามีปัญหาทางการเงินและสวดภาวนาต่อพระเจ้า ส่วนใหญ่เราอาจจะสวดภาวนาขอให้ได้รับเงินเดือนเพิ่ม แม้ว่าปัญหาของเราเป็นเพราะต้องการซื้อรถเมอร์เซเดส แต่มีเงินซื้อได้แค่รถเชฟโรเล็ตเท่านั้น แต่ถ้าพระเจ้าทรงชี้แนะภรรยาของเราให้บอกเราประหยัดการใช้จ่าย เราจะรู้หรือไม่ว่านั่นคือคำตอบที่ฉลาดและศักดิ์สิทธิ์กว่าสำหรับคำภาวนาวอนขอของเรา หรือเราพลาดไปและคิดว่าคำอธิษฐานของเราไม่ได้รับคำตอบเลย?
 
หากใครไม่ยอมรับคำตอบที่ดีกว่าของพระเจ้าต่อคำภาวนาวอนขอของตน คนผู้นั้นอาจปิดกั้นพระปรีชาญาณของพระเจ้าด้วยความคาดหวังอันเย่อหยิ่งของเขาและตัดขาดตัวเองจากพระหรรษทานที่เขาแสวงหา ไม่ใช่ว่าคำอธิษฐานภาวนาของเราไม่ได้รับคำตอบ แต่เป็นเพราะเราคาดหวังในใจแล้วว่าคำตอบของพระเจ้าควรเป็นอย่างไร พระเจ้าผู้ทรงฟื้นคืนพระชนม์ผู้ทรงรอบรู้ว่าสิ่งใดดีที่สุดสำหรับคำอธิษฐานภาวนาของเรา,เราซึ่งไม่รู้อะไรเลยและยังตกต่ำเช่นนั้น จากนั้นเนื่องจากความคาดหวังของเราผิดพลาดตั้งแต่แรก เราก็เลยไม่สามารถรับรู้คำตอบที่ดีกว่าและมีประโยชน์กับจิตวิญญาณมากกว่าที่พระเจ้าทรงประทานให้ คำตอบที่ดีกว่าของพระเจ้าไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในความคิดที่ตกต่ำของเราด้วยซ้ำ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เราคาดหวังไว้ ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าเราไม่ได้รับตามคำวอนขอ คำอธิษฐานภาวนาของเราผิดพลาดตั้งแต่ต้นเพราะเรา “มีการสงวนท่าทีมากมาย มีความไม่ไว้วางใจมากมาย มีความระมัดระวังมากมาย” จนเราตัดสินใจเลือกคำตอบก่อนที่จะอธิษฐานภาวนาเสียด้วยซ้ำ ผมอดคิดไม่ได้ว่าการสงวนท่าที ความไม่ไว้วางใจ และความระมัดระวัง ทั้งหมดนี้อาจเนื่องมาจาก การที่เราเกรงว่าพระเจ้าจะทรงคาดหวังจากเรา มากกว่าสิ่งที่เราเรียกร้องจากพระองค์ อย่างไรก็ตาม พระเจ้าทรงมองทะลุผ่านสิ่งนั้น เข้าไปในส่วนลึกของจิตวิญญาณของเรา และทรงตอบคำอธิษฐานภาวนาของเรา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คำอธิษฐานภาวนาของเราไม่ได้รับคำตอบ แต่เหมือนกับว่าคำตอบที่พระเจ้าทรงประทานไม่ได้รับการรับฟังจากเรามากกว่า
 
ข้อความในพระคัมภีร์
 
โรม 8:26 ในทำนองเดียวกัน พระจิตเจ้าเสด็จมาช่วยเหลือเราผู้อ่อนแอ เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องอธิษฐานภาวนาขอสิ่งใดที่เหมาะสม แต่พระจิตเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาวอนขอแทนเราด้วยคำที่ไม่อาจบรรยาย
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น