วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ความช่วยเหลือจากสายประคำ

 


โดย ซิสเตอร์ เอมมานูเอล แห่งเมดจูกอร์เรจ์
 
ใน “เดือนแห่งพระแม่มารีย์” นี้ ฉันอยากจะบอกเล่าเรื่องราวอันแสนงดงามเกี่ยวกับพลังอันเหลือเชื่อของสายประคำ ซึ่งเป็นเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ส่งผลต่อฉันโดยตรง เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณพ่อของฉัน
 
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คุณพ่อของฉันถูกเกสตาโปจับกุมเนื่องจากกิจกรรมของเขาในฐานะส่วนหนึ่งของขบวนการต่อต้าน และถูกเนรเทศไปยังเยอรมนี คุณยาย,แม่ของท่านเป็นหญิงม่าย และพ่อของฉันเป็นลูกชายคนเดียวของท่าน คุณยาย,เป็นหญิงผู้มีความเชื่อ,ได้ฝากทุกอย่างไว้กับพระแม่มารีย์ซึ่งเธอรักยิ่งนัก การเนรเทศครั้งนี้กินเวลานานถึงสามปี คุณยายของฉันทำอย่างไรเมื่อไม่มีข่าวคราวใดๆ เธอสวดสายประคำครั้งแล้วครั้งเล่าและเชื่อมั่นด้วยทั้งหัวใจและจิตวิญญาณว่าลูกชายของเธอจะกลับมา ความเชื่อของเธอที่มีต่อพระแม่มารีย์นั้นไม่สั่นคลอน ในบรรดาผู้ชาย 10 คนที่ถูกจับกุมพร้อมกับพ่อของฉัน ท่านเป็นเพียงคนเดียวที่ได้กลับบ้าน
 
นี่คือผลอันน่าทึ่งที่สุดประการหนึ่งจากการอธิษฐานภาวนาโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนี้:
 
วันหนึ่ง เมื่อพ่อของฉันเหนื่อยและอ่อนล้าเช่นเดียวกับเพื่อนนักโทษคนอื่นๆ หน่วย SS ที่ทำหน้าที่เฝ้าเวรได้ขอให้บรรดานักโทษขนหินจากเหมืองหินไปยังไซต์ก่อสร้าง นักโทษทุกคนจะได้รับหินก้อนหนึ่งเพื่อขนย้าย เมื่อพ่อของฉันเห็นหินก้อนหนึ่งที่จัดสรรให้ เขาก็รู้ว่าถึงเวลาแล้ว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะยกหินก้อนใหญ่ก้อนนี้ขึ้นมาได้ เขายังรู้ด้วยว่าหากเขาไม่แบกหินก้อนนี้ไว้ระหว่างสุนัขและอาวุธของหน่วย SS ความตายจะเป็นจุดจบของเขา เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับนักโทษคนอื่นๆ
 
เขายืนใกล้ก้อนหินด้วยความทุกข์ใจ จึงเงยหน้าขึ้นมองและเห็นบ้านอยู่ใกล้ๆ ตรงหน้าบ้านมีซุ้มประตูที่รูปปั้นพระแม่มารีย์ตั้งตระหง่านอยู่ ทันทีที่เขาเห็นรูปปั้นนี้ เขาก็ร้องตะโกนในใจว่า “พระแม่มารีย์ โปรดช่วยลูกด้วย!” ทันใดนั้น ก้อนหินก็ไม่หนักอีกต่อไป และดังที่พ่อของฉันเล่าให้เราฟัง มัน “เบาเหมือนเศษกระดาษสี!”
 
กรณีพิเศษของการปกป้องคุ้มครองจากพระเจ้านี้ทำให้ฉันได้เกิดมา พ่อของฉันไม่เคยละเลยที่จะสวดสายประคำทุกวัน เขาให้อภัยผู้ที่หวังทำร้ายเขาในค่ายกักกันเสมอ span>
 
************************
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น