วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2557

ดร.กลอเรีย โปโล (ตอนที่ 6)

คำแนะนำที่เลว
กี่ครั้งแล้วที่เราได้ฆ่า? หลายคนในพวกเราที่วิตกกังวลว่าลูกของเราจะมีเสื้อผ้าใส่หรือไม่.... หรือมีอาหารกินเพียงพอหรือไม่.... พวกเขาจะได้เล่าเรียนหรือไม่...ถ้าเจ็บป่วยจะไปหาหมอได้ไหม....แต่บ่อยครั้งแค่ไหนที่เราได้ฆ่าลูกของเราเอง?  เด็กหลายคนโศกเศร้า หรือ โกรธ  ขมขื่นใจ  เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ใกล้พ่อและแม่  ไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่  พิจารณาสตรีที่เข้าไปในโบสถ์และพูดว่า “พระเจ้าข้า  ดิฉันขอบพระคุณพระองค์  สำหรับบรรดาลูกๆแสนดีที่พระ องค์ประทานให้ดิฉัน  แต่พวกเขาเป็นคนดีเมื่อสามีของดิฉันทอดทิ้งดิฉันไป  ลูกๆจึงเกลียดพ่อของเขาและรักแต่ดิฉัน”  มารดาผู้นี้ทำอะไรลงไปรู้ไหม?  เธอได้ฆ่าจิตใจของลูกเธอเอง  เพราะความเกลียดคือการฆ่า  กี่ครั้งที่เราได้วางยาพิษให้แก่ลูกของเรา?  คุณไม่รู้หรอกว่าพระเป็นเจ้าทรงเศร้าพระทัยมากเพียงไร  พระเป็นเจ้าไม่ทรงปรารถนาให้เราทำเช่นนี้
พระเยซูเจ้าทรงให้ฉันมองเห็นความจริงว่า  ฉันเป็นฆาตกรที่น่ากลัวเพียงใด  เพราะฉันไม่เพียงทำบาปของการทำแท้งเท่านั้น  ฉันยังให้เงินสนับสนุนการทำแท้งหลายครั้งด้วย  นี่เป็นอำนาจของเงินตราที่มอบให้แก่ฉัน  ฉันทำให้ตัวเองกลายเป็นผู้สมคบ  ฉันเคยพูดว่า  ผู้หญิงมีสิทธิที่จะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ได้...ฉันมองดูในหนังสือแห่งชีวิตของฉัน...และรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นสิ่งที่ฉันทำในปีต่อมา  เมื่อฉันเติบโตขึ้นโดยมียาพิษอยู่ในจิตใจ    ทำให้เราไม่สามารถให้สิ่งดีๆแก่ผู้อื่นได้  และคนที่มาหาเราก็ถูกทำลายโดยเรา  มีเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง  สามคนเป็นหลานของฉันและคนอื่นเป็นคู่รักของหลาน  พวกเขามาเยี่ยมเราที่บ้านบ่อยๆ  เพราะฉันมีฐานะดี  ฉันแนะนำพวกเขาและพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับแฟชั่น  เกี่ยวกับ”ความดึงดูดใจ” ที่ได้อวดรูปโฉม   และให้คำแนะนำแก่พวกเขา  ฉันได้ให้คำแนะนำเลวๆแก่พวกเขา  นี่เป็นบาปที่น่ากลัวอีกอย่างหนึ่ง  ฉันแนะนำว่า “อย่าเป็นเด็กโง่  เด็กผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเชื่อแม่ที่พูดเกี่ยวกับความดีและการรักษาพรหมจรรย์  มันเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว  ท่านชอบพูดเรื่องพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นเรื่องเมื่อ 2,000 ปีก่อน...และพระสงฆ์ก็ไม่ทำตัวให้ทันสมัย  พวกเขาจะบอกเธอว่าโป๊ปพูดอะไรบ้าง  แต่โป๊ปก็เป็นคนล้าสมัยเช่นกัน” คิดดูเถิด ฉันได้วางยาพิษที่เปลี่ยนแปลงจิตใจเด็กหญิงเหล่านี้  ฉันแนะนำเธอว่าเธอสามารถทำอะไรกับร่างกายของตนเองก็ได้  พวกเธอควรคำนึงถึงวิธีการที่จะทำอย่างไรไม่ให้ตั้งครรภ์
คู่รักของหลานชายดิฉันซึ่งอายุเพียง 14 ปี  ได้มาที่คลินิกส่วนตัวของฉัน  ร้องไห้และพูดกับฉันว่า “กลอเรีย  ฉันเป็นเด็กเท่านั้น และฉันก็กำลังตั้งครรภ์”  ฉันตะโกนบอกเธอว่า  ทำไมโง่นัก  ฉันไม่ได้สอนหรือว่าเธอควรทำอย่างไรในเรื่องแบบนี้?”  เธอตอบว่า “ใช่ค่ะ แต่มันไม่ทำงาน”
รู้ไหมว่าพระเป็นเจ้าประสงค์สิ่งใดจากฉันในขณะนั้น  คือการที่ฉันจะช่วยเด็กหญิงคนนั้นไม่ให้ตกลงสู่ห้วงอเวจี  โดยการช่วยให้เธอไม่ทำแท้ง  การทำแท้งลากเราลงไปในนรก  ทำให้เราทุกข์ใจเพราะคุณจะรู้สึกว่างเปล่า  เจ็บปวด  ที่ได้ฆ่าลูกของตนเอง  แต่แทนที่ฉันจะพูดถึงพระเยซูเจ้าและช่วยเธอ  ปลอบใจเธอและช่วยเหลือ  ฉันกลับให้เงินเธอเพื่อไปทำแท้งในโรงพยาบาลซึ่งจะไม่เกิดอันตรายกับร่างกาย...แต่จิตใจที่ย่ำแย่ล่ะ..มันจะคงอยู่ต่อไปตลอดชีวิต
ฉันให้เงินแก่หลายคนเพื่อไปทำแท้ง  และฉันยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทำฆาตกรรม  ฉันเป็นคนดี   ฉันเป็นคาทอลิก  และไม่ถูกต้องที่ฉันจะต้องไปอยู่ในสถานที่น่ากลัวในนรก
มากยิ่งไปกว่านั้น  ฉันได้ทำผิดต่อคนที่ฉันไม่ชอบ  ที่ฉันเกลียดและต่อต้านพวกเขา  ฉันพูดในทางเสียหายต่อพวกเขา  ฉันเป็นคนที่ทำผิด  เห็นแก่ตัวและทำฆาตกรรมด้วย  เพราะไม่ใช่การใช้อาวุธเท่านั้นที่สามารถฆ่าคนได้  แต่การเกลียดชัง  การอิจฉาริษยา  การดูถูกเหยียดหยาม  การกล่าวร้าย  การทำชั่ว ก็เป็นการฆาตกรรมด้วย

การชดเชยใช้โทษบาปของเรา
                          ฉันได้บอกไปแล้วว่า การทำแท้งเป็นบาปที่หนักที่สุดในสายพระเนตรของพระเป็นเจ้า  ดังนั้นจึงมีหลายคนถามฉันว่า  จะต้องทำอย่างไรเพื่อชดเชยใช้โทษบาปสำหรับการทำแท้ง  เราคงไม่สามารถให้ชีวิตของทารกกลับคืนมา  แต่ในพระศาสนจักรคาทอลิกเรามีพระพรที่ยิ่งใหญ่  นั่นคือศีลอภัยบาป  ศีลแห่งการคืนดี  ในการสารภาพบาป  พระเป็นเจ้าทรงอภัยบาปให้เรา  สิ่งที่พระสงฆ์แก้ในโลกนี้  ก็จะถูกแก้ในสวรรค์ด้วย  จงสรรเสริญพระเป็นเจ้าสำหรับสิ่งนี้  จงสรรเสริญพระเยซูเจ้าผู้ทรงพระทัยดียิ่งนัก....พระเยซูเจ้าทรงอภัยบาปของเรา  แต่จงจำพระวาจาของพระ องค์ที่ตรัสกับหญิงที่ทำผิดประเวณีผู้นั้น “จงไปในสันติเถิด  แล้วอย่าทำบาปอีก"
                การแก้ไขอีกวิธีหนึ่งคือ  “ศีลล้างบาปด้วยความตั้งใจ”( Baptism of intention)  โดยการล้างบาปแก่ทารกที่ถูกทำแท้ง  เหมือนที่พระสงฆ์ทำอยู่ทุกวันนี้  ในการประกอบพิธีเช่นนี้  ทารกที่ถูกทำแท้งจะสามารถออกมาจากสถานที่แห่งการรอคอย (Limbo) นี่คือปรีชาญาณในพระศาสนจักรคาทอลิก  ทารกเหล่านั้นจะเข้าสู่พระเกียรติอันรุ่งโรจน์ของพระเป็นเจ้า  พวกเขาเป็นเทวดาองค์น้อยในเวลานี้ ผู้คอยสวดภาวนาและช่วยเหลือสำหรับความรอดของเรา  นี่คือความสวย งามแห่งความดีของพระเป็นเจ้า  พระองค์ทรงปรับเปลี่ยนทุกสิ่งเพื่อความดีของเรา  ไม่มีอะไรสูญเสียไป  และเมื่อมีการเทศน์สอนเรื่องการทำแท้ง  และทารกได้รับการช่วยชีวิต  นี่ก็เป็นการชดเชยใช้โทษบาปด้วย  เมื่อผู้หญิงที่ทำแท้งไปสารภาพบาปขออภัยจากพระเป็นเจ้าและไม่กลับไปทำแท้งอีก  เธอก็มีส่วนร่วมในการหลีกเลี่ยงการทำแท้งอื่นๆ  เธอได้ชดเชยใช้โทษบาปของเธอ  นี่คือการสำนึกผิดกลับใจ
 
การขาดความรักต่อพระเป็นเจ้าของฉัน
                    ความสัมพันธ์ของฉันกับพระเป็นเจ้านั้นแย่มาก  สำหรับฉัน พระเป็นเจ้าเป็นผู้ที่ฉันจะแสวงหาก็ต่อเมื่อฉันมีปัญหา  หลายครั้งฉันไปหาพระองค์เมื่อประสพปัญหาอย่างนั้น...อย่างนี้  และโดยมากก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ  ทั้งหมดเป็นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างฉันกับพระเป็นเจ้า  เหมือนกับ “การขอเงินจากธนาคาร”  ฉันสวดภาวนาเพื่อที่พระเป็นเจ้าจะทรงส่งเงินมาให้ฉัน  ฉันหวังว่าพระเป็นเจ้าจะรักฉันและให้ทุกสิ่งแก่ฉัน  ตามเงื่อนไขของฉัน  และจะต้องไม่มีใครมาบอกว่าถ้าฉันทำอย่างนั้นแล้วฉันกำลังทำบาป  เพราะฉันไม่รู้สึกนิยมชมชอบเขาเลย  ปีศาจทำให้มโนธรรมของฉันหลับใหล  หลายครั้งเมื่อมีปัญหาทางเศรษฐกิจ  ฉันจะเดินผ่านรูปพระเยซูกุมารในเวลาที่เดินออกจากโบสถ์  และจะสัมผัสมือน้อยๆของพระองค์และพูดว่า “โปรดฟังฉัน โปรดให้เงินแก่ฉัน  เพราะฉันกำลังต้องการมัน”
เหมือนบางคนที่ทำกับเทวรูปต่างๆ  พวกเขาถูที่ท้องของเทวรูป  และขอเงินทอง  นี่คือสิ่งที่ฉันทำกับรูปพระเยซูกุมาร  ฉันช่างไร้ความเคารพจริงๆ  และพระเยซูเจ้าทรงให้ฉันเห็นว่าการกระทำเช่นนี้ของฉันทำให้พระองค์เจ็บปวดมากสักเพียงไร  ฉันรู้สึกเสียใจและอับอายมาก 
เมื่อฉันได้เงินมา  มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว  และฉันก็พบว่าในท้ายที่สุด  สถานะทางเศรษฐกิจของฉันก็ตกต่ำลงไปอีก
             มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบเดียวกับฉัน   แต่เธอไปหาศาสนจารย์โปรแตสแตนท์คนหนึ่งที่มีคนแนะนำให้  แล้วทุกอย่างก็ดีขึ้น  ทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้  ฉันก็ถามเธอว่า  ศาสนจารย์ผู้นั้นอยู่ที่ไหน  เพราะฉันต้องการไปพบเขาด้วย....ดูความไม่สัตย์ซื่อของฉันสิ
            ต่อมาฉันก็ได้ไปพบกับศาสนจารย์ผู้นั้น  เขาได้สวดภาวนาเพื่อฉัน  วางมือบนตัวฉัน  บอกให้ฉันทำแบบเดียวกันแล้วฉันจะได้รับพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้าเหมือนกับของคาทอลิก  พวกเขาทำเช่นนี้เหมือนกับฉันรับศีลมหาสนิทเป็นครั้งแรก
             พิธีกรรมของพวกเขาดูมีชีวิตชีวา  พวกเขาจะกระโดด  ตบมือ...ฉันพูดกับตัวเองว่า  พระสงฆ์คาทอลิกช่างน่าเบื่อ ดูทื่อๆไม่น่านิยมเลย  พิธีมิสซาช่างน่าเบื่อจริงๆ....เปรียบเทียบกับพิธีนี้ไม่ได้เลย  พวกเขาทำให้เรารู้สึกดีและเป็นสุขมาก
            พวกเขาไม่เชื่อในรูปเคารพ  พวกเขาบอกว่าการบูชารูปเคารพเท่ากับเป็นการบูชาพระเท็จเทียม  ดังนั้นฉันจึงไม่คุกเข่าต่อหน้ากางเขนอีกเลย  เพราะถือว่าเป็นการบูชารูปเคารพ  และฉันก็เริ่มไปโบสถ์โปรแตสแตนท์  ฉันมีเพื่อนบ้านเป็นหญิงชราที่ยากจนมากอยู่คนหนึ่ง  บ้านของเธออยู่หน้าบ้านของฉัน  ฉันช่วยเหลือเธอโดยให้เงินแก่เธอเป็นค่าไฟฟ้า  ค่าน้ำ และยังซื้อของใช้ให้เธอเมื่อไปชอปปิ้ง  เพื่อที่เธอจะได้มีอาหารกิน  ดังนั้นเธอจึงชอบมาใกล้ชิดกับฉันมากเป็นพิเศษ
            แต่เมื่อเราไม่มีพระเป็นเจ้าอยู่กับเรา  แม้แต่การทำดีก็กลายเป็นสิ่งเน่าเสียเหมือนบาปของเรา
           ดังเช่นที่กล่าวไปแล้ว  ฉันเริ่มไปโบสถ์โปรแตสแตนท์  ฉันชอบโบสถ์นั้นมาก   ฉันรู้สึกมีความสุขในพิธีกรรมของพวกเขา พวกเขาบอกว่ามันจะซ่อมแซมจิตใจที่เสียไปและสิ่งอื่นๆแบบเดียวกันนี้ได้
        แต่หญิงชราผู้นั้นเป็นคาทอลิก  ฉันได้ใช้มิตรไมตรีที่เธอรู้สึกต่อฉัน  พูดแนะนำและทำให้เธอเชื่อมั่น  ฉันทำลายความเชื่อของเธอ  ด้วยคำแนะนำและความคิดที่ฉันใส่ในหัวของเธอ  เธอได้เสียชีวิตโดยไม่ได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์  เธอไม่ต้องการรับ  เพราะเธอไม่รู้สึกว่ามีความสำคัญ  ดูเถิดฉันมีอิทธิพลต่อคนที่อยู่ใกล้ชิดเพียงใด  เมื่อในตัวของเรามีความชั่ว  มันจะนำทางผู้อื่นที่อยู่ใกล้เราให้หลงผิดไปเหมือนกับเราด้วย  ดังตัวอย่างที่ฉันได้ทำกับหญิงชราผู้นั้น
             แต่ต่อมาเมื่อศาสนจารย์คนนั้นถามฉันเกี่ยวกับเรื่องบริจาคทานสิบชักหนึ่ง(ทศางค์)  ฉันก็โกรธ  เพราะในตอนนั้นฉันกำลังอยู่ในภาวะล้มละลาย  และพวกเขายังมาขอส่วนแบ่ง 10 % จากเงินรายได้ของฉัน...เรื่องนี้ทำให้ฉันแตกหักกับโปรแตสแตนท์อย่างเรียบร้อย

1 ความคิดเห็น: