การประจักษ์ครั้งสุดท้าย
ในระยะสิบเดือนของปลายชีวิตของคุณแม่มาเรียนา
ท่านยังคงมีอาการเจ็บป่วยกระเสาะกระแสและต้องนอนอยู่บนเตียง
แต่ท่านยังคงยิ้มให้กับทุกคนและมีใจสงบทั้งๆที่เจ็บปวดภายใน
กลางคืนของวันที่
8 ธ.ค. 1634 ตรงกับวันฉลองแม่พระปฏิสนธินิรมล
แม่พระประจักษ์มาเป็นครั้งสุดท้าย
มี น.อัครเทวดามีคาแอล
น.อัครเทวดากาเบรียล และน.อัครเทวดาราฟาแอล ตามมาด้วย
และหลังจากเปิดเผยเรื่องราวหลายอย่างแก่คุณแม่มาเรียนา แม่พระทรงสรุปว่า
ในศตวรรษที่
20 ความศรัทธา (ต่อแม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี) จะเริ่มขึ้นในจิตใจของมนุษย์
เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่จะให้ความศรัทธาและความรู้เกี่ยวกับตัวของลูกเป็นที่รู้จักในศตวรรษนี้ อันเป็นเวลาที่การคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นทั่วไปจนเป็นเรื่องธรรมดาและแสงสว่างแห่งความเชื่ออันทรงคุณค่าจะถูกดับลง....”
คุณแม่มาเรียนาเสียชีวิตเวลาบ่ายสามโมง
(3.00 น.) วันที่ 16 ม.ค. 1635 –
ตามที่แม่พระทรงทำนายไว้
ร่างกายไม่เน่าเปื่อย
คุณแม่อธิการ
มาเรียนา เดอ เยซู ทอร์เรส เสียชีวิตเมื่อ
16 มกราคม 1635 และอีก 250 ปีต่อมา
คือในปี 1885
ได้มีการขุดหลุมศพของท่านเพื่อนำร่างของท่านขึ้นมา พบว่าร่างกายของท่านทั้งหมดไม่เน่าเปื่อย
ท่านยังคงสวมชุดนักบวชและมีผ้าคลุมศีรษะสีดำ
ใบหน้าของท่านยังคงสดใสเป็นธรรมชาติมีสีกุหลาบที่แก้มและริมฝีปาก ปากที่เผยอเล็กน้อยทำให้เห็นลิ้นของท่าน นัยน์ตาปิด
ใบหูอ่อนนิ่ม ผมมีสีแดง มีกลิ่นหอมของดอกลิลลี่ออกมาจากร่างของท่าน
ยังมีการค้นพบร่างของคุณแม่อธิการองค์อื่นๆของคณะคอนเซ็ปชั่นนิสต์ซึ่งไม่เน่าเปื่อยด้วย ทุกร่างถูกเก็บรักษาไว้ในโลงตั้งไว้ภายในห้องโถงของคอนแวนต์แม่พระปฏิสนธินิรมลในเมืองควิโต
พระพรการที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อยเป็นหลักฐานอันหนักแน่นของการประจักษ์ของแม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี
รวมทั้งคำทำนายของแม่พระที่ตรัสแก่คุณแม่อธิการมาเรียนา เดอ เยซู ทอร์เรส
คำถามที่ค้างคา
เรายังคงมีคำถามตามที่เคยพูดมาบ้างแล้ว มีอะไรในศตวรรษที่ 20
ซึ่งก่อให้เกิดพระพิโรธของพระเจ้า ตั้งแต่
300 ปีก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
และพระองค์ต้องทรงขอร้องให้บางคนรับความทุกข์เพื่อบรรเทาโทษทัณฑ์ โดยอาศัยพระหรรษทานของพระองค์?
คงไม่ใช่ สงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การทำแท้ง หรือ ความขัดแย้งอย่างรุนแรงของโลก เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ คำสอนนอกรีต (heresy) การเสื่อมศรัทธา (impiety)
และ ความไม่บริสุทธิ์ (impurity)
แม่พระทรงตรัสอย่างชัดเจนว่า ลัทธิเมซอน จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างสาหัสแก่พระศาสนจักรในศตวรรษที่
20 แต่มันเกี่ยวข้องอะไรกับ คำสอนนอกรีต (heresy)
การเสื่อมศรัทธา (impiety) และ ความไม่บริสุทธิ์ (impurity)?
คุณพอจะนึกอะไรออกไหม อะไรหรือสิ่งใดที่ทำให้ศตวรรษที่ 20
หรือในกลางศตวรรษ
ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิด คำสอนนอกรีต (heresy)? การเสื่อมศรัทธา (impiety)?
และ ความไม่บริสุทธิ์ (impurity)?
“พระองค์มีรอยบาดแผลรอยหนึ่งที่ดวงพระหฤทัยของพระองค์ มีหนามเล็กๆหลายอันแทงอยู่รอบๆดวงพระหฤทัย
ทำให้พระองค์เจ็บปวดมากจนถึงกับร้องออกมาด้วยเจ็บปวดแสนสาหัส” ซิสเตอร์ถามพระเยซูเจ้าว่า อะไรเป็นสาเหตุทำให้พระองค์เจ็บปวดมากจนเจียนสิ้นพระชนม์เช่นนี้
“พระเยซูเจ้าทรงจ้องมาที่ซิสเตอร์ด้วยความรัก พลางถอนพระทัย
ตรัสว่า
ลูกได้เห็นหนามเล็กๆเหล่านี้ที่ทิ่มแทงดวงหทัยของเราอย่างเจ็บปวดแล้ว
จงรู้เถิดว่าพวกมันคือความผิดพลาดทั้งที่หนักและเล็กน้อยของพระสงฆ์ ฆราวาส และ นักบวชของเรา ผู้ซึ่งเราได้นำพวกเขาออกมาจากโลกและมาไว้ในอาราม
เราประทานพระหรรษทานฝ่ายจิตให้แก่พวกเขาอย่างฟุ่มเฟือย
บางครั้งเราให้พวกเขาได้รับความเจ็บป่วยที่หนักและยาวนานบ้าง เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นเหมือนเรา แต่พวกเขาช่างอกตัญญูและไร้หัวใจ
พวกเขาบ่นว่าพระญาณเอื้ออาทรแห่งความรักของเรา พวกเขาคิดว่าเราโหดร้ายต่อพวกเขา และแยกตัวไปจากเรา พวกเขาทิ้งให้เราอยู่โดดเดี่ยว
พระเยซูเจ้าตรัสต่อว่า จะมีเวลาหนึ่งที่พระวินัยคำสอนของพระศาสนจักรจะสามารถเข้าถึงทุกคน
“พระสงฆ์ นักบวช และแม้แต่คนธรรมดา
หนังสือหลายเล่มจะถูกเขียนขึ้น
แต่การปฏิบัติและคุณธรรมในพระวินัยคำสอนเหล่านี้จะพบได้ในวิญญาณบางดวงเท่านั้น เพราะเหตุนี้
นักบุญจึงหาพบได้ยาก”
ดูจะมีข้อสงสัยเล็กน้อยว่า
ในระหว่างศตวรรษที่ 20 ลัทธิเมซอนภายในพระศาสนจักรเองจะต้องรับผิดชอบสำหรับการเสื่อมศรัทธาครั้งยิ่งใหญ่ -- ดังที่แม่พระทรงตรัสไว้ล่วงหน้า
ความเฉยเมยจะกลายเป็นแบบแผนและทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงหายไปหรือ?
หรือ
เป็นไปได้ไหมว่าคำทำนายของแม่พระอาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้ามนุษย์เปลี่ยนพฤติกรรมของตนด้วยการสำนึกผิดและชดใช้โทษบาป เหมือนในสมัยของประกาศกโยนาห์
อาจไม่มีการเสื่อมศรัทธาที่แท้จริง
มันอาจเป็นเพียงการสะดุดหกล้มบ้างระหว่างการเดินทางไปสู่ฤดูใบไม้ผลิของพระศาสนจักร?
สิ่งที่ทำให้พระศาสนจักรบาดเจ็บนี้จะหยุดลงไหม? อย่างไรก็ตาม ศตวรรษที่ 20 ได้สิ้นสุดไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ช่วงเวลาวิกฤตได้สิ้นสุดลงหรือยัง? เรากำลังอยู่บนเส้นทางของการฟื้นฟูใช่หรือไม่?
มีความเคลื่อนไหวที่จะทำให้เกิดความบริสุทธิ์มากขึ้นในพระศาสนจักร
หรือการเสื่อมศรัทธาด้วยหรือเปล่า?
คุณเห็นกิจการความเคลื่อนไหวที่ทำให้คำสอนนอกรีตแพร่กระจายไปในทุกวันนี้หรือไม่?
คณะสงฆ์ได้พยายามหยุดยั้งลัทธิเมซอนที่เข้ามาอยู่ท่ามกลางพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?
หรือมีใครในคณะสงฆ์ที่ยอมรับการแทรกซึมของศัตรูสู่พระศาสนจักรไหม? คงจะไม่มี
เพราะพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ทรงตระหนักว่ามีควันของซาตานเข้ามาสู่พระศาสนจักร
– ดังนั้นสิ่งนี้จึงน่าจะถูกกำจัดไปเรียบร้อยแล้ว
จุดสิ้นสุดของวิกฤตจึงไม่ได้อยู่ที่นี่
แต่อาจอยู่ห่างไกลนอกสายตาออกไป
เราได้ให้ข้อมูลอย่างคร่าวๆของชีวิตของคุณแม่อธิการมาเรียนา และเรื่องราวของแม่พระแห่งผลสำเร็จที่ดี เรื่องราวของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือนี้มาจาก Dr. Marian Horvat (traditioninaction.org) เธอได้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับเหตุการณ์ในควิโตที่เป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่แสวงหา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น