เป็นวิญญาณที่รับเคราะห์เพื่อการกลับใจของคอมมิวนิสต์
พระเยซูเจ้าได้เลือกให้เอ็ดวิจเป็นวิญญาณที่รับเคราะห์และเธอก็ยินดีน้อมรับเพื่อความรอดของผู้อื่น
พระเยซูเจ้าทรงขอให้เธอสวดภาวนาและทำการเสียสละมากมายเพราะมีวิญญาณจำนวนมากที่อยู่ในอันตรายที่จะสูญเสียไปชั่วนิรันดร เอ็ดวิจได้เขียนในไดอารี่เมื่อ 25 พ.ค. 1941
“ขณะที่ฉันกำลังสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิท
ฉันได้อยู่ในญาณและฉันเห็นพระเยซูเจ้าทรงอยู่บนกางเขน พระโลหิตไหลออกมาจากบาดแผลแต่ละรอย พระโลหิตตกลงสู่พื้นดิน
ฉันเห็นทูตสวรรค์ถือจอกกาลิกษ์รองรับอยู่ที่รอยบาดแผล จอกกาลิกษ์บรรจุพระโลหิตจนเต็มอย่างรวดเร็ว แล้วพระโลหิตก็ไหลลงมาสู่พื้นดินอีก พระเยซูเจ้าทรงกรรแสง ฉันจึงพูดกับพระองค์ว่า
“เหตุใดพระองค์จึงทรงกรรแสง?”
พระองค์ตรัสตอบว่า “ลูกรัก
เราร้องไห้เพราะโลหิตของเราจำนวนมากที่เราได้หลั่งออกมาในระหว่างการทนทรมานได้สูญเสียไปโดยไม่เกิดประโยชน์”
ในอีกวาระหนึ่งเธอได้เขียนว่า “หลังจากรับศีลมหาสนิท ฉันเห็นไม้กางเขนสามอัน พระเยซูเจ้าทรงอยู่ตรงกลาง อีกสองอันว่างเปล่า แล้วคุณพ่อบอสโกก็เข้ามาหาฉันและพูดว่า
“ลูกเอ๋ย พระเยซูเจ้าทรงให้ภารกิจแก่พ่อในการหาวิญญาณที่รับเคราะห์เพื่อชดเชยใช้โทษการเป็นปฏิปักษ์มากมายที่พระองค์ได้รับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องแฟชั่นที่ไร้ยางอาย
และเพื่อให้เกิดสันติภาพในระหว่างประเทศต่างๆ ลูกรัก,
หลังจากที่พ่อค้นหาอยู่สักพักหนึ่ง
พ่อได้พบลูกกับกราเซีย
กางเขนสองอันนี้จะมีอันหนึ่งเป็นของลูกและอีกอันหนึ่งจะเป็นของกราเซีย”(ไดอารี่
12 มิ.ย. 1941)
กราเซียเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเอ็ดวิจ เธออายุ 33
ปีและได้ถวายตนเองแด่พระเยซูเจ้าและได้มอบตนเองเป็นวิญญาณที่รับเคราะห์เพื่อให้เกิดสันติภาพในระหว่างสงครามโลกครั้งที่
2
พระเยซูเจ้าทรงขอให้เอ็ดวิจมอบตนเองเป็นวิญญาณที่รับเคราะห์เพื่อพวกคอมมิวนิสต์เป็นพิเศษด้วย
เธอเขียนว่า “ฉันฝันเห็นแม่พระตรัสกับฉันว่า “ลูกสาวของแม่ จงสัญญากับแม่ว่าจะยอมรับความทุกข์ยากลำบากทุกอย่าง การถูกปฏิเสธ
การถูกดูหมิ่น และความทุกข์ทรมานเพื่อการกลับใจของคอมมิวนิสต์”
วันหนึ่งซิสเตอร์ กาเบรียล่า
ซาเกห์ดู
ซิสเตอร์ในคณะแทรปปิสต์ผู้ได้มอบตนเองเป็นวิญญาณที่รับเคราะห์เพื่อการกลับคืนดีของแองกลิกันกับพระศาสนจักรคาทอลิก เธอปรากฏต่อเอ็ดวิจและพูดว่า
“จงมอบตนเองเป็นผู้รับเคราะห์เพื่อที่คอมมิวนิสต์จะได้กลับมาสู่พระศาสนจักรเถิด”
มิ.ย. 1941 เธอเขียนในไดอารี่ว่า “ขณะที่กำลังสวดภาวนา ฉันได้เข้าสู่ภวังค์และ น. ยอห์น
บอสโกได้ปรากฏมาและพูดว่า “ลูกสาวน้อยๆของพ่อ
จงระลึกว่าลูกได้มอบตนเองเป็นผู้รับเคราะห์สำหรับการปลดปล่อยชาวรัสเซียที่น่าสงสารจากระบอบบอลเชวิก
ศัตรูผู้ดูหมิ่นพระเป็นเจ้า
จงสวดภาวนาเพื่อที่ไม้กางเขนจะเข้าสู่รัสเซียโดยเร็วเถิด”
การอยู่สองสถานที่ในเวลาเดียวกัน Bilocation
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
เอ็ดวิจได้อยู่สองสถานที่ในเวลาเดียวกันบ่อยครั้ง เธอไปยังสนามรบและนำข่าวเกี่ยวกับทหารที่สูญหายหรือตายไปกลับมา เธอได้เล่าให้คุณพ่อ คาร์ตาเกี่ยวกับความตายของ
ลุยจี เมโลนี นายทหารหนุ่มซึ่งเชื่อว่าได้สูญหายไปในสงคราม เธอยังช่วยให้ผู้ใกล้ตายได้กลับใจด้วย
ในจดหมายของเอ็ดวิจเขียนถึง คุณพ่อ อิกนาซีโอ ปาร์เมกเกียนีเธอเล่าว่า “คุณพ่อค่ะ พระเยซูเจ้าตรัสกับลูกเมื่อบ่ายวานนี้ว่า “ลูกสาวของเรา
จงสวดภาวนาสำหรับความรอดของคอมมิวนิสต์ในประเทศจีน พวกเขาเลวร้ายมาก พวกเขาได้จับพระสังฆราช ดังที่เราได้บอกแก่ลูกในวันก่อนนี้ คนหนึ่งในนั้นคือ มองซิเยอร์ กัทเบิรท โอ การา
พระสังฆราชแห่งนานกิง”
พระเยซูเจ้าทรงให้ลูกเห็นสถานที่ที่พระสังฆราชอยู่ เป็นห้องมืด
ผู้คุมได้ทำร้ายทุบตีท่านแต่ท่านนิ่งเงียบเพ่งมองขึ้นสู่สวรรค์ ลูกกรีดร้องออกมาและบอกพวกเขาว่า “พวกคุณเลวร้ายมาก”
พวกเขาพยายามตีลูก
แต่ลูกอยู่เหนือพวกเขาขึ้นไป
พวกเขาจึงพูดว่า “เธอเป็นแม่มดของพระสันตะปาปา เธอเป็นแม่มด”
ลูกพูดกับพวกเขาว่า
“จำไว้ว่าวันหนึ่งพวกคุณจะถูกพิพากษาจากพระเยซูเจ้า ถ้าพวกคุณไม่สำนึกผิดกลับใจ พวกคุณจะไปนรก” แต่พวกเขายังคงร้องว่า
“แม่มด แม่มด”
คุณพ่อคะ
ช่วยสวดภาวนาเพื่อการกลับใจของบรรดาพี่น้องที่สูญเสียไปด้วยนะคะ”
------------------------------------
เอ็ดวิจยังได้ไปที่มอสโกและเธอได้ไปยังห้องของสตาลินซึ่งอยู่ในพระราชวังเครมลิน เธอเห็นเขากำลังกำกำปั้นและพูดว่า
“ข้าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งและน่ากลัวของพระเจ้า”
เอ็ดวิจเล่าว่าสตาลินจ้องมองมาอย่างน่าเกลียดน่ากลัวจนเธอไม่กล้ามองไปที่เขา วิตาเลียเพื่อนของเอ็ดวิจเล่าว่า
วันหนึ่งฉันอยู่ที่บ้านของเอ็ดวิจและเปาลีนา เราเห็นเอ็ดวิจกำลังสวดภาวนาและอยู่ในภวังค์และได้ยินเธอพูดว่า
“คุณต้องกลับใจ
แต่ถ้าคุณยังต้องการเป็นศัตรูของพระเป็นเจ้านิรันดรละก็ คุณก็จะ”
เมื่อเอ็ดวิจรู้สึกตัวจากการอยู่ในญาณแล้ว
น้องสาวของเธอถามเธอว่า เธอพูดกับใคร
เอ็ดวิจตอบว่า เธอได้เข้าไปในห้องของสตาลินในมอสโก...เธอเกลี้ยกล่อมให้เขากลับใจ
แต่เขาตอบกลับมาว่า “ข้าจะไม่กลับใจ
ข้าจะเป็นศัตรูของพระเจ้าไปตลอดกาล”
-----------------------------------------
-----------------------------------------
สายประคำ
มี.ค. 1942 เธอเขียนว่า “แม่พระทรงปรากฏต่อฉัน พระนางทรงกรรแสง ฉันเข้าไปใกล้พระนางและพูดว่า
“ทำไมพระแม่จึงทรงกรรแสง?” แม่พระตอบว่า
“แม่ร้องไห้เพราะแม่ไม่สามารถยับยั้งพระพิโรธขององค์พระบุตรของแม่ที่ทรงมีต่อมนุษยชาติ ถ้ามนุษย์ไม่สำนึกผิดกลับใจ สงครามจะไม่มีวันสิ้นสุดและเลือดจะหลั่งชโลมดิน ลูกสาวของแม่
แฟชั่นที่ไร้ยางอายและการทุจริตไม่ซื่อสัตย์ทำให้พระเป็นเจ้าทรงพิโรธ จงสวดภาวนาและทำพลีกรรมใช้โทษบาป สวดสายประคำบ่อยๆ
สิ่งนี้เป็นเพียงอาวุธชนิดเดียวที่ดึงดูดพระพรจากสวรรค์”
ม.ค. 1942 เธอเขียนว่า “หลังจากรับศีลมหาสนิท ฉันได้อยู่ในญาณ ฉันเห็นแม่พระทรงถือตระกร้าบรรจุสายประคำสีขาวและสีอื่นๆอยู่เต็มตระกร้า พระนางทรงแจกสายประคำให้กับประชาชนที่สวดภาวนาอยู่ที่นั่น มีน้ำหอมละลายไหลออกมาจากแต่ละเม็ดของสายประคำ
มีสายประคำนับพันสายที่แม่พระทรงแจกให้พวกเขา
แล้วพระนางทรงผินพระพักตร์ไปยังพวกเขาและตรัสกับพวกเขาว่า
“ลูกชายและลูกสาวของแม่
ด้วยสายประคำนี้พวกลูกจะสามารถดับไฟที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก นี่เป็นอาวุธที่ทรงพลังอำนาจ มนุษย์ไม่สามารถหาอาวุธที่ทรงพลังมากเท่านี้ได้” ตรัสแล้วพระนางก็หายไป
อีกวาระหนึ่งเธอเขียนว่า “หลังจากรับศีลมหาสนิท
ฉันเห็นทูตสวรรค์ที่ถือดอกกุหลาบและดอกไอริสที่สวยงามมาก ท่านบอกฉันว่า
“ถ้าเธอสวดสายประคำทุกวันด้วยความเชื่อและความตั้งใจ เราจะทำให้มีดอกกุหลาบเกิดขึ้นจากบทวันทามารีย์ และดอกไอริสจากบทข้าแต่พระบิดา
แล้วเราจะนำมาร้อยเข้าด้วยกันเป็นมงกุฎอันสวยงาม ซึ่งเราจะมอบให้แก่เธอในสวรรค์ เพราะเหตุนี้
ในเดือนพฤษภาคมนี้
จงสวดสายประคำบ่อยๆ”
เธอยังได้เห็นนิมิตหนึ่ง
“วันหนึ่งหลังจากรับศีลมหาสนิท
ฉันเห็นตัวเองอยู่ในทุ่งหญ้า
และบนพระบัลลังก์ ฉันเห็นพระนางมารีย์องค์อุปถัมภ์ของคริสตชน พระนางทรงสวมเสื้อคลุมที่ใหญ่มาก บนที่ราบนั้นมีพายุลมและพายุไฟไหม้ลาม ทันใดนั้น
น.ยอห์น บอสโก ปรากฏมา
ท่านวิ่งผ่านเข้าไปในพายุและเรียกให้ชายหญิงซึ่งอยู่ที่นั่นให้หลบเข้าไปในเสื้อคลุมของแม่พระ คนนับพันได้หลบเข้าไปในเสื้อคลุมของแม่พระ แต่ยังมีคนอีกนับพันที่ไม่ต้องการหลบและหัวเราะเยาะคนที่หลบอยู่ในเสื้อคลุม
คุณพ่อบอสโกในท่ามกลางพายุนั้นได้ขึ้นไปยึนบนโต๊ะและเริ่มเทศน์ว่า
“พวกคุณจะต้องตายเพราะความผิดของพวกคุณเอง
จงมาอยู่ภายใต้ความคุ้มครองและพระมารดาแห่งสวรรค์เถิด”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น