เรียนท่านซาตาน:
มนุษย์ที่ผมล่อลวงนั้นมีความถ่อมตนมากเหลือเกิน
ผมต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้พวกเขามีความหยิ่งจองหองได้ครับ?
ด้วยความเคารพ
อีโก้แอ๊กส์
อีโก้แอ๊กส์:
ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะไม่ได้เข้าเรียนในชั้นเรียนที่เกี่ยวกับความหยิ่งจองหองนะ ตามที่เรารู้กันดี
ความหยิ่งจองหองเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดที่จะทำให้มนุษย์ลื่นไถลมาสู่โต๊ะอาหารของพวกเรา
ข้าเข้าใจว่าเจ้าคงจะไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนในเวลาเรียน ดังนั้นข้าจึงอยากรู้ว่าทำไมเจ้าจึงไม่เข้าเรียน
ข้าเป็นคนประดิษฐ์ความหยิ่งจองหองขึ้นมาเอง
เมื่อตอนที่ข้าพยายามยึดครองบัลลังก์ของศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่ง นั่นมันนานมาแล้ว ข้าเคยประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธนี้กับมนุษยชาติตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น ในสวนเอเดน
ข้าได้นำความหยิ่งจองหองเข้าไปในจิตใจของมนุษย์คนแรก ด้วยการชักจูงเขาว่า
“เจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า” แล้วมันก็ฮุบเหยื่อ
ดูซิว่าพวกเราสนุกสนานสักเพียงไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา – การฆาตกรรม
การข่มขืน การปล้นสะดม
การคอร์รัปชั่น สงคราม การหย่าร้าง การทำแท้ง
ฯลฯ
ทุกอย่างเกิดขึ้นเนื่องมาจากอาดัมและเอวาที่ต้องการเป็นเหมือนพระเจ้า
ความสวยงาม
มีลักษณะพิเศษ สี่ อย่างของมนุษย์ ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา
เมื่อเราจั่วไพ่แห่งความหยิ่งจองหอง อย่างแรก ก็คือ – ความสวยงาม
มนุษย์กำเนิดมาในความสวยงาม
พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรเพื่อเพิ่มความงามเลย
เพราะศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งทรงเป็นผู้บันดาลให้เป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงมีแผนการสำหรับมนุษย์แต่ละคนที่ทรงสร้างมา
แต่มนุษย์เย่อหยิ่งและพูดกับตัวเองและกับข้าด้วยว่า พวกมันช่างงดงามก็เพราะผิวพรรณที่เต่งตึงและสุขภาพที่ดีของพวกมันเอง พวกมันชื่นชมในความงามของตัวเอง และเปรียบเทียบความงามของตัวเองกับคนอื่นซึ่งสวยงามน้อยกว่าว่า คนๆนั้นช่างเป็นคนอาภัพเสียเหลือเกิน และเขามีคุณค่าน้อยกว่าพวกมันในสายตาของชาวโลก ต้องขอขอบคุณความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่ทันสมัย
คนที่หน้าตาไม่สวยสามารถจ่ายเงินเพื่อทำศัลยกรรมความงามได้แล้ว
ดังนั้น ความสวยงามจึงเป็นอุปสรรคต่อแผนการของศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเรา
ซึ่งทรงมีต่อพวกเขา
พวกเขาได้ทำลายกางเขนที่พวกเขาควรจะแบกไว้ในชีวิตของพวกเขาจนกว่าจะบรรลุถึงอาณาจักรสวรรค์ และต้องขอบคุณผู้ช่วยเหลืออีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ “สื่อสารมวลชน” – อันได้แก่ ฮอลลีวู้ด
, เมดิสันเอวินู ฯลฯ ที่เติมแต่งความสวยงามให้ดูน่าทึ่งมากขึ้นในแมกกาซีน ข่าวสารในทีวี ในภาพยนตร์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำลายมนุษย์จนหมดสิ้น พวกมันกำลังฆ่าตัวตาย ดังนั้นจงกระซิบในจิตใจของมนุษย์เมื่อมีเวลาเถอะ
เงิน
ลักษณะพิเศษอย่างที่สอง คือ “เงิน”
คนที่มีเงินมากยิ่งมีความโลภมาก
พวกมันมีความเชื่อในเงิน ไม่ได้มีความเชื่อในพระเจ้า หรือไม่พวกมันก็มีความเชื่อในวงศ์ตระกูลของตัวเอง เชื่อในประเทศชาติ หรือเชื่อในงานการที่ดีของตัวเอง แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมันเชื่อในแผ่นกระดาษสีม่วง
สีแดงที่อยู่ในบัญชีธนาคารของพวกมัน
พระเจ้าตรัสว่า เป็นการยากที่เศรษฐีจะเข้าสู่พระราชัยสวรรค์ อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่า พวกมันปฏิเสธพระเจ้าและปรารถนาที่จะกอบโกยเงินให้ได้มากๆ
ถ้าเราสามารถทำให้พวกมันมีทั้งความงามและมีทั้งเงินได้ ก็จะทำให้ปฏิบัติการอันชั่วร้ายของพวกเราประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย
คนประเภทนี้หาเจอได้ไม่ยากในฮอลลีวู้ด พวกมันสร้างภาพยนต์เพื่อบูชาข้า
ภาพยนตร์ลามกอนาจาร ภาพการคบชู้
ภาพเปลือยซึ่งปรากฏในจอหนังขนาดใหญ่
ถูกสร้างขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินของพวกมัน
เท่ากับเป็นการใส่ข้อมูลเข้าไปในจิตใจของพวกมันว่า การผิดประเวณี,การคบชู้,การอยู่กินกันก่อนแต่งงาน ไม่ใช่เป็นเรื่องผิดศีลธรรม ความตลกขบขันที่หยาบคายแฝงตัวอยู่ภายใต้คำว่า “ความบันเทิง”
แต่มันเป็นความบันเทิงของพวกเราที่เห็นมนุษย์ที่หยาบช้าพวกนี้ พวกมันคืออาหารยามว่างของพวกเรา ในขณะที่พวกมันกำลังจ้องมองไปที่ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องคบชู้และการผิดประเวณี
และก็จินตนาการว่าพวกมันจะได้ทำตามอย่างดารานักแสดงหนุ่มสาวที่ยั่วยวนเหล่านั้น พวกเราเป็นนักชิมอาหารของโลก เราต้องฆ่าอาหารเสียก่อน ก่อนที่จะกิน
เหมือนคำพูดที่ว่า “ไม่มีธุรกิจใดที่เสมอเหมือนธุรกิจการแสดง”
อำนาจ
ลักษณะพิเศษอย่างที่สามคือ อำนาจ
สิ่งนี้ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องเสียเงินทองเลย มนุษย์ที่น่าเกลียด เหมือนอย่างฮิตเลอร์และสตาลินซึ่งเป็นข้ารับใช้ของพวกเรา ก็อยู่ในประเภทนี้ ด้วยการพูดเร้าใจและก้าวร้าว ก็สามารถมัดใจคนทั้งประเทศได้ และทำให้พวกมันทำตามความต้องการของเขาคือ การไม่เชื่อในศาสนา การทำสงคราม การสังหารหมู่ การดูถูกมนุษย์ด้วยกันเอง
พระเจ้าถูกลบล้างออกไปจากประเทศต่างๆที่ตกอยู่ในอำนาจของมัน มันเป็นวันแห่งชัยชนะของพวกเราในศตวรรษที่
20 แต่เวลานี้ดูเหมือนพวกเราจะสูญเสีย “ผู้นำที่ทรงอำนาจ”
ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเรายังมี “ความสวยงามและเงิน”
อยู่ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำหรับความหยิ่งจองหองของพวกเรา เพราะแม้แต่คนที่เรียกตัวเองว่า “คริสตชนที่ดี” ก็ดูจะพึงพอใจในความสวยงามและความร่ำรวย
ความสามารถ
ลักษณะพิเศษอย่างที่สี่และประการสุดท้ายคือ ความสามารถ ศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเราทรงประทานความสามารถให้แก่มนุษย์ทุกคน แต่ไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน ด้วยเหตุนี้
มนุษย์บางคนจึงเป็น จิตรกรผู้ยิ่งใหญ่
เป็นนักกีฬา หรือเป็นนักแสดงที่ดีเด่น
มนุษย์ตระหนักในความสามารถที่มีอยู่ในตัวของพวกมัน
แต่พวกมันคิดว่าความสามารถนี้มาจากฝีมือของตัวเอง ดังนั้น ความหยิ่งจองหองก็ฝังในจิตใจ ทำให้พวกมันดูถูกคนอื่นที่มีความสามารถด้อยกว่า หาว่าพวกเขาเกียจคร้านและโง่เขลา จึงไม่อยู่ในสายตาของพวกมัน สิ่งนี้เป็นความต้องการของพวกเราอยู่แล้ว
ความหยิ่งจองหองที่พรางตัว
ข้าได้ดัดแปลงความหยิ่งจองหองให้อยู่ในชื่อเรียกอื่นๆ อาทิเช่น – การนับถือตนเอง การให้คุณค่าแก่ตัวเอง ฯลฯ
ปฏิบัติการของพวกเราทำให้มนุษย์มองว่าตัวเองอยู่เหนือพระเจ้า ทำให้นำไปสู่ความเห็นแก่ตัว ,การหย่าร้าง ,
การฆาตกรรม และอื่นๆ ศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเราทรงประสงค์ให้พวกมันรู้จักการเสียสละตนเองซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าทุกสิ่ง พระเจ้าเองเคยตรัสว่า “พระองค์เสด็จมาเพื่อรับใช้ มิใช่เพื่อให้ผู้ใดมารับใช้พระองค์
และผู้รับใช้ย่อมไม่อยู่เหนือนายของตน”
โชคดีที่พระวาจาของพระเจ้านี้ถูกละลืมไปเสียจากใจของมนุษย์ส่วนมาก เวลานี้
การนับถือตนเองเป็นสิ่งที่ถูกสอนในชั้นเรียน
มากกว่าการสอนให้ล้างเท้าผู้อื่นที่ด้อยกว่า “ตัวเองต้องมาก่อน” กลายเป็นกฎทองแล้วในตอนนี้ และคำสอนที่ว่า “จงปฏิบัติต่อผู้อื่น”ถูกทิ้งไป
ความอิจฉาริษยา
ข้าจะสอนบทเรียนสั้นๆเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความหยิ่งจองหองให้ และอย่าลืมนำบทเรียนข้อนี้ไปใช้เสียล่ะ มันคือความอิจฉาริษยา มนุษย์ที่ไม่มีความสวยงาม หรือ ไม่ร่ำรวย หรือไม่มีอำนาจ หรือไม่มีความสามารถ พวกมันทุกคนต้องการจะมีสิ่งเหล่านี้บ้างแม้จะมีเพียงเล็กน้อย
หรือมากๆเลยก็ยิ่งดี
ดังนั้นเจ้าจงทำงานกับพวกมัน จงกระซิบบอกพวกมันให้รู้จักโกง เพื่อจะได้รับทุกสิ่งที่พวกมันต้องการ ทำให้พวกมันกลัวการไม่มีเงิน ความยากจน
บอกกับพวกมันว่า
ถ้าเพียงแต่พวกมันมีหน้าตาดี
หรือเกิดมาในกองเงินกองทอง
พวกมันก็จะได้ทุกสิ่งในโลกนี้
อย่าให้พวกมันมีเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีที่จะคิดถึงและไว้วางใจในพระบิดาสวรรค์ผู้น่ารักของพวกมัน ผู้ทรงเฝ้ารอคอยพวกมัน แต่จงทำให้พวกมันเชื่อมั่นในตัวเองดังปรัชญาที่กล่าวว่า
“จงยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง” และคำพูดของเบนจามิน แฟรงคลินที่ว่า “พระเจ้าทรงช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือตัวเอง”
จงกระซิบบอกพวกมันว่า “จงเชื่อในตัวเอง อย่าวางใจในพระเจ้า”
จำไว้ว่า พวกมันที่ถลำเข้ามาอยู่ในกรงเล็บของเจ้า แต่ยังคงวางใจในศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเรานั้น จะไม่มาสู่โต๊ะอาหารของพวกเราได้เลย ต้องจดจำเรื่องนี้ไว้เสมอ
จงทำงานอันชั่วร้ายของเจ้าต่อไป...
ซาตาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น