วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

จดหมายของซาตาน


 
เรียนท่านซาตาน:

มนุษย์ที่ผมล่อลวงนั้นมีความถ่อมตนมากเหลือเกิน  ผมต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้พวกเขามีความหยิ่งจองหองได้ครับ?

ด้วยความเคารพ

อีโก้แอ๊กส์



อีโก้แอ๊กส์:

ข้ารู้สึกว่าเจ้าจะไม่ได้เข้าเรียนในชั้นเรียนที่เกี่ยวกับความหยิ่งจองหองนะ  ตามที่เรารู้กันดี  ความหยิ่งจองหองเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและดีที่สุดที่จะทำให้มนุษย์ลื่นไถลมาสู่โต๊ะอาหารของพวกเรา  ข้าเข้าใจว่าเจ้าคงจะไม่ได้อยู่ในชั้นเรียนในเวลาเรียน  ดังนั้นข้าจึงอยากรู้ว่าทำไมเจ้าจึงไม่เข้าเรียน

ข้าเป็นคนประดิษฐ์ความหยิ่งจองหองขึ้นมาเอง  เมื่อตอนที่ข้าพยายามยึดครองบัลลังก์ของศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่ง  นั่นมันนานมาแล้ว  ข้าเคยประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธนี้กับมนุษยชาติตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา  ตัวอย่างเช่น ในสวนเอเดน  ข้าได้นำความหยิ่งจองหองเข้าไปในจิตใจของมนุษย์คนแรก ด้วยการชักจูงเขาว่า “เจ้าจะเป็นเหมือนพระเจ้า” แล้วมันก็ฮุบเหยื่อ  ดูซิว่าพวกเราสนุกสนานสักเพียงไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา  – การฆาตกรรม  การข่มขืน  การปล้นสะดม การคอร์รัปชั่น สงคราม  การหย่าร้าง  การทำแท้ง  ฯลฯ  ทุกอย่างเกิดขึ้นเนื่องมาจากอาดัมและเอวาที่ต้องการเป็นเหมือนพระเจ้า

ความสวยงาม

มีลักษณะพิเศษ สี่ อย่างของมนุษย์ ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา เมื่อเราจั่วไพ่แห่งความหยิ่งจองหอง อย่างแรก ก็คือ  – ความสวยงาม  มนุษย์กำเนิดมาในความสวยงาม  พวกเขาไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรเพื่อเพิ่มความงามเลย  เพราะศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งทรงเป็นผู้บันดาลให้เป็นเช่นนั้น  พระองค์ทรงมีแผนการสำหรับมนุษย์แต่ละคนที่ทรงสร้างมา  แต่มนุษย์เย่อหยิ่งและพูดกับตัวเองและกับข้าด้วยว่า  พวกมันช่างงดงามก็เพราะผิวพรรณที่เต่งตึงและสุขภาพที่ดีของพวกมันเอง  พวกมันชื่นชมในความงามของตัวเอง และเปรียบเทียบความงามของตัวเองกับคนอื่นซึ่งสวยงามน้อยกว่าว่า  คนๆนั้นช่างเป็นคนอาภัพเสียเหลือเกิน  และเขามีคุณค่าน้อยกว่าพวกมันในสายตาของชาวโลก  ต้องขอขอบคุณความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ที่ทันสมัย  คนที่หน้าตาไม่สวยสามารถจ่ายเงินเพื่อทำศัลยกรรมความงามได้แล้ว

ดังนั้น ความสวยงามจึงเป็นอุปสรรคต่อแผนการของศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเรา  ซึ่งทรงมีต่อพวกเขา  พวกเขาได้ทำลายกางเขนที่พวกเขาควรจะแบกไว้ในชีวิตของพวกเขาจนกว่าจะบรรลุถึงอาณาจักรสวรรค์  และต้องขอบคุณผู้ช่วยเหลืออีกอย่างหนึ่ง  นั่นคือ “สื่อสารมวลชน” – อันได้แก่ ฮอลลีวู้ด , เมดิสันเอวินู ฯลฯ ที่เติมแต่งความสวยงามให้ดูน่าทึ่งมากขึ้นในแมกกาซีน ข่าวสารในทีวี  ในภาพยนตร์ ฯลฯ  สิ่งเหล่านี้จะทำลายมนุษย์จนหมดสิ้น  พวกมันกำลังฆ่าตัวตาย  ดังนั้นจงกระซิบในจิตใจของมนุษย์เมื่อมีเวลาเถอะ

เงิน

ลักษณะพิเศษอย่างที่สอง คือ “เงิน”  คนที่มีเงินมากยิ่งมีความโลภมาก  พวกมันมีความเชื่อในเงิน  ไม่ได้มีความเชื่อในพระเจ้า  หรือไม่พวกมันก็มีความเชื่อในวงศ์ตระกูลของตัวเอง  เชื่อในประเทศชาติ  หรือเชื่อในงานการที่ดีของตัวเอง  แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกมันเชื่อในแผ่นกระดาษสีม่วง สีแดงที่อยู่ในบัญชีธนาคารของพวกมัน  พระเจ้าตรัสว่า เป็นการยากที่เศรษฐีจะเข้าสู่พระราชัยสวรรค์  อูฐจะลอดรูเข็มยังง่ายกว่า  พวกมันปฏิเสธพระเจ้าและปรารถนาที่จะกอบโกยเงินให้ได้มากๆ  ถ้าเราสามารถทำให้พวกมันมีทั้งความงามและมีทั้งเงินได้  ก็จะทำให้ปฏิบัติการอันชั่วร้ายของพวกเราประสบความสำเร็จอย่างง่ายดาย

คนประเภทนี้หาเจอได้ไม่ยากในฮอลลีวู้ด  พวกมันสร้างภาพยนต์เพื่อบูชาข้า  ภาพยนตร์ลามกอนาจาร  ภาพการคบชู้ ภาพเปลือยซึ่งปรากฏในจอหนังขนาดใหญ่  ถูกสร้างขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินของพวกมัน  เท่ากับเป็นการใส่ข้อมูลเข้าไปในจิตใจของพวกมันว่า  การผิดประเวณี,การคบชู้,การอยู่กินกันก่อนแต่งงาน ไม่ใช่เป็นเรื่องผิดศีลธรรม  ความตลกขบขันที่หยาบคายแฝงตัวอยู่ภายใต้คำว่า “ความบันเทิง”  แต่มันเป็นความบันเทิงของพวกเราที่เห็นมนุษย์ที่หยาบช้าพวกนี้  พวกมันคืออาหารยามว่างของพวกเรา  ในขณะที่พวกมันกำลังจ้องมองไปที่ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องคบชู้และการผิดประเวณี  และก็จินตนาการว่าพวกมันจะได้ทำตามอย่างดารานักแสดงหนุ่มสาวที่ยั่วยวนเหล่านั้น  พวกเราเป็นนักชิมอาหารของโลก  เราต้องฆ่าอาหารเสียก่อน  ก่อนที่จะกิน  เหมือนคำพูดที่ว่า “ไม่มีธุรกิจใดที่เสมอเหมือนธุรกิจการแสดง”

อำนาจ

ลักษณะพิเศษอย่างที่สามคือ อำนาจ  สิ่งนี้ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องเสียเงินทองเลย  มนุษย์ที่น่าเกลียด  เหมือนอย่างฮิตเลอร์และสตาลินซึ่งเป็นข้ารับใช้ของพวกเรา  ก็อยู่ในประเภทนี้  ด้วยการพูดเร้าใจและก้าวร้าว ก็สามารถมัดใจคนทั้งประเทศได้  และทำให้พวกมันทำตามความต้องการของเขาคือ  การไม่เชื่อในศาสนา  การทำสงคราม  การสังหารหมู่  การดูถูกมนุษย์ด้วยกันเอง พระเจ้าถูกลบล้างออกไปจากประเทศต่างๆที่ตกอยู่ในอำนาจของมัน  มันเป็นวันแห่งชัยชนะของพวกเราในศตวรรษที่ 20   แต่เวลานี้ดูเหมือนพวกเราจะสูญเสีย “ผู้นำที่ทรงอำนาจ” ไปแล้ว  อย่างไรก็ตาม พวกเรายังมี “ความสวยงามและเงิน” อยู่ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำหรับความหยิ่งจองหองของพวกเรา  เพราะแม้แต่คนที่เรียกตัวเองว่า “คริสตชนที่ดี”  ก็ดูจะพึงพอใจในความสวยงามและความร่ำรวย

ความสามารถ

ลักษณะพิเศษอย่างที่สี่และประการสุดท้ายคือ ความสามารถ  ศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเราทรงประทานความสามารถให้แก่มนุษย์ทุกคน  แต่ไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน  ด้วยเหตุนี้  มนุษย์บางคนจึงเป็น จิตรกรผู้ยิ่งใหญ่  เป็นนักกีฬา หรือเป็นนักแสดงที่ดีเด่น  มนุษย์ตระหนักในความสามารถที่มีอยู่ในตัวของพวกมัน  แต่พวกมันคิดว่าความสามารถนี้มาจากฝีมือของตัวเอง  ดังนั้น ความหยิ่งจองหองก็ฝังในจิตใจ  ทำให้พวกมันดูถูกคนอื่นที่มีความสามารถด้อยกว่า  หาว่าพวกเขาเกียจคร้านและโง่เขลา  จึงไม่อยู่ในสายตาของพวกมัน  สิ่งนี้เป็นความต้องการของพวกเราอยู่แล้ว

ความหยิ่งจองหองที่พรางตัว

ข้าได้ดัดแปลงความหยิ่งจองหองให้อยู่ในชื่อเรียกอื่นๆ  อาทิเช่น – การนับถือตนเอง  การให้คุณค่าแก่ตัวเอง ฯลฯ  ปฏิบัติการของพวกเราทำให้มนุษย์มองว่าตัวเองอยู่เหนือพระเจ้า  ทำให้นำไปสู่ความเห็นแก่ตัว ,การหย่าร้าง , การฆาตกรรม และอื่นๆ  ศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเราทรงประสงค์ให้พวกมันรู้จักการเสียสละตนเองซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าทุกสิ่ง  พระเจ้าเองเคยตรัสว่า “พระองค์เสด็จมาเพื่อรับใช้  มิใช่เพื่อให้ผู้ใดมารับใช้พระองค์ และผู้รับใช้ย่อมไม่อยู่เหนือนายของตน”  โชคดีที่พระวาจาของพระเจ้านี้ถูกละลืมไปเสียจากใจของมนุษย์ส่วนมาก  เวลานี้ การนับถือตนเองเป็นสิ่งที่ถูกสอนในชั้นเรียน  มากกว่าการสอนให้ล้างเท้าผู้อื่นที่ด้อยกว่า  “ตัวเองต้องมาก่อน” กลายเป็นกฎทองแล้วในตอนนี้  และคำสอนที่ว่า “จงปฏิบัติต่อผู้อื่น”ถูกทิ้งไป

ความอิจฉาริษยา

ข้าจะสอนบทเรียนสั้นๆเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความหยิ่งจองหองให้  และอย่าลืมนำบทเรียนข้อนี้ไปใช้เสียล่ะ  มันคือความอิจฉาริษยา  มนุษย์ที่ไม่มีความสวยงาม หรือ ไม่ร่ำรวย  หรือไม่มีอำนาจ  หรือไม่มีความสามารถ  พวกมันทุกคนต้องการจะมีสิ่งเหล่านี้บ้างแม้จะมีเพียงเล็กน้อย หรือมากๆเลยก็ยิ่งดี  ดังนั้นเจ้าจงทำงานกับพวกมัน จงกระซิบบอกพวกมันให้รู้จักโกง  เพื่อจะได้รับทุกสิ่งที่พวกมันต้องการ  ทำให้พวกมันกลัวการไม่มีเงิน  ความยากจน  บอกกับพวกมันว่า  ถ้าเพียงแต่พวกมันมีหน้าตาดี  หรือเกิดมาในกองเงินกองทอง  พวกมันก็จะได้ทุกสิ่งในโลกนี้  อย่าให้พวกมันมีเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีที่จะคิดถึงและไว้วางใจในพระบิดาสวรรค์ผู้น่ารักของพวกมัน  ผู้ทรงเฝ้ารอคอยพวกมัน  แต่จงทำให้พวกมันเชื่อมั่นในตัวเองดังปรัชญาที่กล่าวว่า “จงยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง” และคำพูดของเบนจามิน แฟรงคลินที่ว่า “พระเจ้าทรงช่วยเหลือผู้ที่ช่วยเหลือตัวเอง” จงกระซิบบอกพวกมันว่า “จงเชื่อในตัวเอง อย่าวางใจในพระเจ้า”

จำไว้ว่า  พวกมันที่ถลำเข้ามาอยู่ในกรงเล็บของเจ้า  แต่ยังคงวางใจในศัตรูผู้อยู่เหนือทุกสิ่งของพวกเรานั้น  จะไม่มาสู่โต๊ะอาหารของพวกเราได้เลย  ต้องจดจำเรื่องนี้ไว้เสมอ


จงทำงานอันชั่วร้ายของเจ้าต่อไป...

ซาตาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น