วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วีดีโอการทรงสร้างจักรวาลของพระเป็นเจ้า



นักวิทยาศาสตร์ได้สรุปว่า  ถ้าหากสภาวะต่างๆของจักรวาลผิดเพี้ยนไปเพียงเล็กน้อย  ชีวิตจะไม่สามารถอุบัติขึ้นได้  วีดีโอสั้นๆนี้อธิบายวิธีที่จักรวาลดูเหมือนจะได้รับการ”ปรับแต่งค่าอย่างละเอียด” (“fine tuned”)  เพื่อทำให้ชีวิตบังเกิดและดำรงอยู่ได้
บทแปล

จากกาแลกซี่และดวงดาว เล็กลงไปถึงอะตอมและอนุภาคที่เล็กกว่าอะตอม  โครงสร้างที่แน่นอนของจักรวาลถูกกำหนดด้วยตัวเลขเหล่านี้
* ความเร็วแสง
Speed of Light: c=299,792,458 m s-1
* ค่าคงที่แรงโน้มถ่วง
Gravitational Constant: G=6.673 x 10-11 m3 kg-1 s-2
* ค่าคงที่พลังก์
Planck's Constant: 1.05457148 x 10-34 m2 kg s-2
* ค่า มวล-พลังงาน พลังก์
Planck Mass-Energy: 1.2209 x 1022 MeV
* มวลของอิเล็กตรอน , โปรตอน , นิวตรอน
Mass of Electron, Proton, Neutron: 0.511; 938.3; 939.6 MeV
* มวลของควาร์กชนิดขึ้น, ลง
Mass of Up, Down, Strange Quark: 2.4; 4.8; 104 MeV (Approx.)
* อัตราส่วนมวลระหว่างอิเล็กตรอนและโปรตรอน
Ratio of Electron to Proton Mass: (1836.15)-1
* ค่าคงที่การยึดเหนี่ยวของแรงโน้มถ่วง
Gravitational Coupling Constant: 5.9 x 10-39
* ค่าคงที่ดาราศาสตร์
Cosmological Constant: (2.3 x 10-3 eV)
* ค่าคงที่ฮับเบิ้ล
Hubble Constant: 71 km/s/Mpc (today)
* ค่าสุญญากาศฮิ๊กส์
Higgs Vacuum Expectation Value: 246.2 GeV

ตัวเลขเหล่านี้คือค่าคงที่พื้นฐานและปริมาณของจักรวาล  นักวิทยาศาสตร์ได้มาถึงบทสรุปที่น่าตกใจว่า ตัวเลขเหล่านี้แต่ละตัวถูกกำหนดให้มีค่าที่มีความละเอียดอย่างน่าประหลาดใจ  ความละเอียดนั้นอยู่ในช่วงที่แคบมาก ซึ่งเป็น “ช่วงแคบที่ทำให้ชีวิตบังเกิดและดำรงอยู่ได้” เรียกว่า life-permitting range  ถ้าตัวเลขเหล่านี้ตัวใดตัวหนึ่งแปรเปลี่ยนไปเพียงเศษส่วนน้อยมากยิ่งกว่าเส้นผม  จะไม่มีสิ่งมีชีวิตที่สามารถกำเนิดและดำรงอยู่ได้เลยไม่ว่าจะเป็นที่ใด  จะไม่มีดวงดาว  ไม่มีชีวิต  ไม่มีดาวเคราะห์  ไม่มีสารเคมี

ยกตัวอย่าง  แรงโน้มถ่วงซึ่งถูกกำหนดโดย ค่าคงที่แรงโน้มถ่วง  ถ้าค่านี้ผิดเพี้ยนไปเพียงแค่ 1 ใน 1060  ส่วน พวกเราทุกคนจะไม่มีอยู่เลย  เพื่อทำความเข้าใจถึงความแน่นอนและช่วงห่างของ life-permitting range  ลองเปรียบเทียบกับจำนวนเซลล์ในร่างกายของคุณ ( 1040) ถ้าค่าคงที่แรงโน้มถ่วงออกนอกช่วงห่างที่เล็กมากนี้  จักรวาลจะขยายตัวออกและเบาบางลงอย่างรวดเร็วจนไม่มีดวงดาวที่สามารถให้กำเนิดชีวิตอยู่เลย  หรือจักรวาลอาจหดตัวอย่างรวดเร็วและเกิดการแตกดับทำให้เกิดผลลัพท์แบบเดียวกันคือ ไม่มีดวงดาว ดาวเคราะห์ และชีวิต

หรือพิจารณาเรื่องการขยายตัวของจักรวาล  สิ่งนี้ถูกขับเคลื่อนด้วย ค่าคงที่ดาราศาสตร์  การเปลี่ยนแปลงค่าเพียงแค่ 1 ใน 10120 ส่วนจะทำให้จักรวาลขยายตัวเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป และทำให้เกิดผลลัพท์คือชีวิตไม่อาจเกิดขึ้นได้

อีกตัวอย่างหนึ่งของ fine-tuning คือ  ถ้ามวลสารและพลังงานของจักรวาลยุคเริ่มแรกไม่มีการกระจายตัวอย่างแม่นยำในอัตราส่วน 1 ส่วนใน 1010123   จักรวาลจะไม่มีสภาวะที่เหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิตไม่ว่าชนิดใดก็ตาม

ความจริงที่ว่า จักรวาลมีความเหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้โดยอาศัย ค่าคงที่เหล่านี้ และจากตัวเลขอื่นๆซึ่งแต่ละตัวก็เป็นเอกเทศแต่ก็มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันเป็นทอดๆอย่างสมดุลแม่นยำประหนึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกตั้งเรียงต่อๆกันไว้บนเส้นลวดด้วยคมมีดบางๆเท่านั้น
 
วาทะของนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง

“ไม่ว่าจะมองไปทางไหน  นักฟิสิกส์มองเห็นแต่สิ่งที่ยืนยันถึง FINE-TUNING- Sir Martin Rees

“ความจริงที่น่าสังเกตก็คือ ค่าของตัวเลขเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกปรับแต่งอย่างละเอียดเป็นอย่างยิ่งเพื่อทำให้พัฒนาการของชีวิตมีความเป็นไปได้” - Stephen Hawking

“ถ้าใครบอกว่าเขาไม่รู้สึกประหลาดใจในสิ่งพิเศษสุดที่มีอยู่ในจักรวาล  เขาคงเอาหัวไปซุกอยู่ใต้ทราย  สิ่งพิเศษสุดเหล่านี้เป็นเรื่องน่าประหลาดใจและไม่มีอะไรเหมือน” - David Deutsch

คำอธิบายใดที่ดีที่สุดในการอธิบายปรากฏการณ์อันน่าประหลาดใจนี้?  มีทางเลือกอยู่สามทาง นั่นคือ

            fine-tuning ของจักรวาล อาจมีสาเหตุจาก 

1.            ความจำเป็นทางฟิสิกส์  Necessity

2.            ความบังเอิญ  Chance

3.            ถูกออกแบบ  Design

         ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือข้อใด ?

         ข้อสรุป : ทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุดคือข้อ 3

“สวรรค์ประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า
ท้องนภาประกาศถึงผลงานแห่งฝีพระหัตถ์ของพระองค์
วันแล้ววันเล่าสรรพสิ่งแซ่ซ้องสรรเสริญพระองค์
คืนแล้วคืนเล่าสรรพสิ่งยืนยันถึงพระปรีชาญาณ”
กษัตริย์ดาวิด – บทสดุดี 19: 1-2

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น