การประจักษ์ที่
ลิทมาโนวา Litmanova
ในประเทศสโลวาเกีย ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 1990 – 6 ส.ค. 1995
เป็นการประจักษ์ของแม่พระที่พระศาสนจักรรับรองแล้ว แม่พระประจักษ์แก่เด็กสองคนคือ อิวิตา คอรกา Iveta Korca อายุ 12 ปี
และ แคทกา ซีเซลโควา Katka ceselková อายุ 13 ปี
อิวิตา ได้เห็นและได้ยินเสียงของแม่พระ ส่วนแคทกา
เห็นแม่พระอย่างเดียว
ทั้งสองเห็นแม่พระอยู่ท่ามกลางหมอก
ทรงอาภรณ์หลายสีหลายแบบ
แต่ส่วนใหญ่เป็นสีขาวและมีเสื้อคลุมสีฟ้า
บางครั้งพระนางจะทรงอาภรณ์สีทอง
ม่วง และมีครั้งหนึ่งเป็นสีดำ พระนางทรงถือสายประคำและสวมมงกุฏบนผ้าคลุมพระเศียรที่เป็นสีฟ้าอ่อน
แม่พระทรงประทานคำแนะนำวิธีที่จะปกป้องตนเองในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ
แม่พระทรงขอร้องให้เราสวดสายประคำสามสายทุกวันพร้อมรำพึงในแต่ละข้อ
และให้อดอาหารสัปดาห์ละสองครั้ง
แม่พระตรัสว่า “แม่ไม่สามารถทนดูบาปของสโลวาเกียได้แล้ว พวกลูกมีสิ่งต่างๆมากมายเกินไป
เพราะฉะนั้นลูกจึงไม่ให้เกียรติแด่องค์พระบุตรและแก่แม่
องค์พระบุตรของแม่จะทรงส่งภัยพิบัติมายังสโลวาเกีย แต่ถ้าประชาชนเปลี่ยนแปลงตนเองและเริ่มสวดภาวนาด้วยสิ้นสุดจิตใจ ภัยพิบัตินั้นก็จะผ่านพ้นไป”
แม่พระตรัสกับอิวิตา
ว่า สายประคำมีอานุภาพยิ่งใหญ่
ไม่มีความชั่วร้ายใดสามารถเอาชนะได้
“แม่คือผู้บริสุทธิ์ปราศจากมลทินใดๆและเป็นราชินีแห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์” แม่พระตรัสในปี 1990 “ผู้ที่สวดสายประคำก็ได้รับพระเมตตาที่จำเป็นสำหรับเขาแล้ว” หลังจากวันคริสต์มาสของปีนั้น แม่พระทรงบอกกับเด็กว่า ลมพายุที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น “เป็นการทดสอบจิตใจประชาชนว่าจะมายังสถานที่นี้
(สถานที่ประจักษ์)หรือไม่
เพราะในครั้งก่อนแม่พระทรงบอกว่า
อย่ากลัวหิมะ น้ำแข็ง
และลมแรง ขอให้มาเถิด”
ประชาชนสวมสร้อยคอตามที่แม่พระแนะนำโดยให้เกียรติแด่แม่พระในฐานะ
“แม่พระผู้บริสุทธิ์ปราศจากมลทินใดๆ” และสรรเสริญความบริสุทธิ์นี้ “จะได้รับความช่วยเหลือทุกครั้งที่เขาวอนขอ”
“ลูกทั้งหลายของแม่ ต่างเข่นฆ่ากันและกัน ทั้งๆที่แม่เป็นมารดาที่รักลูก
หายนะภัยนี้ไม่ใช่เป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า
แต่เป็นเพราะปีศาจได้ปกครองโลกนี้เป็นเวลานานหลายปี” แม่พระตรัสเมื่อ 20 ม.ค. 1991 ด้วยความเศร้าพระทัย เวลานั้น
ยูโกสลาเวียกำลังอยู่ในสงครามและสงครามอ่าวเปอร์เซียกำลังดำเนินอยู่ “เพราะฉะนั้น
ถ้าพวกลูกต้องการหายนภัยนี้
มันก็จะเกิดขึ้น
แต่ถ้าพวกลูกยอมให้ตนเองมาอยู่ในพระหัตถ์ของพระเป็นเจ้าและพูดว่า ‘ขอให้น้ำพระทัยจงสำเร็จไป’ หายนภัยนี้ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับพวกลูก เพราะแม่จะมาในเวลาทันท่วงที
แม่เป็นมารดาที่รักลูกและแม่ขอแนะนำพวกลูกให้สวมใส่ศาสนภัณฑ์ที่ได้รับการเสกแล้วไว้กับตัวในเวลาเหล่านั้น เพราะปีศาจจะไม่มีอำนาจทำลายได้”
เมื่อพูดถึงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ครั้งหนึ่งแม่พระตรัสว่า “วิญญาณเกือบทุกดวงถูกสาปแช่ง”
และพระนางทรงได้ยิน “เสียงร้องที่น่ากลัว” ของพวกเขา
วันที่ 5 พ.ค. 1991 มีรถบัสบรรทุกผู้แสวงบุญมายังเนินเขาแห่งการประจักษ์
มีการประมาณว่ามีรถบัสถึง 1,200 คัน
ด้วยพระนาม
แม่พระผู้บริสุทธิ์ปราศจากมลทินใดๆ นี้เองได้คุ้มครองผู้ที่มาแสวงบุญ
“ลูกที่รักทั้งหลายของแม่ แม่มีความสุขที่ลูกได้เข้ามาสู่ดวงใจของแม่ ขอขอบใจลูก
ระยะเวลาที่ลูกดำรงชีวิตอยู่นี้สาหัสมากนัก แต่จิตวิญญาณของลูกจะรอดได้ด้วยวิธีนี้
แม่ปรารถนาจะมอบพระพรแห่งดวงพระทัยของพระเยซูเจ้าแก่ลูก เพื่อที่เราจะสามารถพบกันในสวรรค์”.
“แม่เศร้าใจมากเพราะปีศาจได้โลกมาไว้ในกำมือของมันเป็นเวลาหลายปี”
แม่พระตรัสด้วยภาษาที่ใกล้เคียงและคล้ายกับที่เมดจูกอเรจ์ “เพราะฉะนั้น แม่จึงขอร้องให้ลูกสวดภาวนามากยิ่งๆขึ้น”
“แม่เศร้าใจมากที่ต้องบอกกับพวกลูกเช่นนั้นในวันเฉลิมฉลอง
แต่เวลาแห่งการเสด็จมาของพระเป็นเจ้าอยู่ใกล้แล้ว”
“จงดำรงอยู่ในหัวใจของแม่ในระหว่างเวลาเหล่านี้เถิด
เพราะลูกจำเป็นต้องระมัดระวังและถ่อมตนมากยิ่งขึ้น
เวลานี้ได้มาถึงแล้วและลูกจำเป็นต้องกลับเป็นเด็กซึ่งพึ่งพาพระเป็นเจ้าเสมอ ได้โปรด
พินิจพิจารณาคำพูดของแม่เถิด” แล้วพระนางตรัสว่า
“แม่จะรอคอยลูกในสวรรค์”
ซึ้งใจค่ะ ทุกครั้งที่สวดสายประคำ ก็รู้ว่าจะได้รับพระพรมากมาย ขอบคุณนะคะ ที่แบ่งปัน
ตอบลบ