หนังสือประวัติของซิสเตอร์ลูซีอาเล่มใหม่
A Pathway Under the
Gaze of Mary, .ให้ความกระจ่างชัดมากขึ้นในสาส์นแห่งฟาติมา เพื่อนของซิสเตอร์ลูซีอาซึ่งเป็นซิสเตอร์ด้วยกันในคณะ
Sisters of Carmel of Coimbra ในโปรตุเกส เป็นผู้เขียนขึ้นมา ได้พูดถึงการประจักษ์ของแม่พระในปี 1917
และกล่าวถึงเหตุการณ์ภายหลังการประจักษ์นั้นด้วย ครั้งแรกลูซีอาได้เข้าในคณะ the
Dorothean Order ก่อน แล้วจึงย้ายมาอยู่ในคณะคาร์เมลไลท์
และอยู่ที่นี่จนถึงวาระสุดท้ายของเธอ
ในหนังสือยังประกอบด้วยข้อเขียนและจดหมายของลูซีอา รวมทั้งเอกสารและการตอบจดหมายของเธอด้วย
หนังสือยังเล่าถึงความยากลำบากของลูซีอาในการปฏิบัติภารกิจที่เธอได้รับมอบหมายจากแม่พระ เพราะเธอเป็นเพียงผู้เห็นแม่พระเพียงผู้เดียวที่ยังมีชีวิตอยู่
ผู้ใหญ่ในคณะมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป เธอจึงได้รับการปฏิบัติไม่สู้ดีนัก ผู้แนะนำฝ่ายจิตวิญญาณแต่ละท่านก็คิดเห็นไม่ตรงกัน
พระสังฆราชได้ออกคำสั่งที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำสั่งของสวรรค์ และอื่นๆอีก
ในตอนแรก ลูซีอาได้รับอนุญาตให้เข้าในคณะ Dorotheans incognito
ผู้ใหญ่ในคณะห้ามไม่ให้มีการพูดเกี่ยวกับการประจักษ์และห้ามการเยี่ยมเยียนเธอ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปและเธอเป็นผู้เห็นแม่พระเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้ใหญ่ในคณะจึงอนุญาติให้ประชาชนมาเยี่ยมและซักถามเธอหรือขอคำแนะนำจากเธอ
หรือถ่ายรูปได้
สิ่งเหล่านี้ทำความลำบากใจให้แก่ลูซีอามาก
เพราะเธอปรารถนาจะอยู่อย่างเงียบๆเหมือนซิสเตอร์อื่นๆมากกว่า เธอต้องใช้เวลานานหลายปีในการขอย้ายไปอยู่ในอารามคาร์เมไลท์ เธอได้รับการคัดค้านจากเพื่อนร่วมคณะซึ่งไม่ต้องการสูญเสียเธอไป เวลานั้นเธอมีสุขภาพไม่สู้ดี
ลูซีอาสวดภาวนามากขึ้นเพื่อตัดสินใจในกระแสเรียกของเธอ
และเกี่ยวกับภารกิจในการเผยแพร่สาส์นแห่งฟาติมา และหลังจากปี 1917
เธอก็ได้รับนิมิตพิเศษเป็นบางครั้งนั่นคือ
- วันที่ 10 ธันวาคม 1925 แมพระทรงประจักษ์มาหาเธอและขอให้มีความศรัทธาสำหรับการทำเสาร์ต้นเดือนห้าครั้ง พร้อมทั้งสารภาพบาปและรับศีลมหาสนิท เพื่อชดเชยบาปในการลบหลู่ไม่เคารพต่อดวงหทัยนิรมลของแม่พระ
- วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1926 พระเยซูกุมารทรงประจักษ์มา รบเร้าให้ลูซีอาพยายามเผยแพร่ความศรัทธาในการทำเสาร์ต้อนเดือนห้าครั้งนี้ ถึงแม้ผู้ใหญ่ในคณะจะลังเลใจที่จะทำตามคำขอของเธอ (ลูซีอาได้เล่าเรื่องนี้ในหนังสือบันทึกความทรงจำว่า พระเยซูทรงประจักษ์มาอีกครั้งและทรงบ่นว่า หลายๆคนที่เริ่มทำเสาร์ต้นเดือนเพียงวันแรก ต่อมาก็ล้มเลิกความตั้งใจไม่ได้ทำต่อ)
- วันที่ 13 กรกฏาคม 1929 แม่พระทรงประจักษ์มา ทรงขอเป็นพิเศษสำหรับการถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมาลของแม่พระ
- เดือนพฤษภาคม 1930 พระเยซูเจ้าทรงอธิบายแก่ลูซีอาถึงลักษณะห้าอย่างของการเป็นปฏิปักษ์และการกระทำลบหลู่ต่อดวงหทัยนิรมลของแม่พระ และสิ่งที่จะได้รับในการทำเสาร์ต้นเดือนห้าครั้ง
- * ในปี 1936 พระเยซูเจ้าทรงอธิบายแก่ลูซีอา ถึงความจำเป็นที่จะต้องประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียอย่างเป็นทางการโดยพระสันตปาปาและพระศาสนจักรทั้งมวล และสิ่งนี้จะต้องกระทำโดยด่วนก่อนที่จะสายเกินไป
- * วันที่ 13 พฤษภาคม 1942 พระเยซูเจ้าทรงอธิบายอย่างชัดเจนถึง ธรรมชาติของการถวายตัวเองแด่พระเป็นเจ้า (nature of the sacrifice) ซึ่งเวลานี้พระองค์ประสงค์ให้ทำเพื่อชดเชยบาป
- ในปี 1943 ลูซีอาเจ็บป่วยอย่างหนักจนใกล้ตาย พระสังฆราชแห่งไลเรีย ได้มาเยี่ยมและสั่งให้เธอเขียนความลับข้อที่สาม แต่ลูซีอาคัดค้านว่าเธอไม่ได้รับคำสั่งจากสวรรค์ให้ทำเช่นนั้น พระสังฆราชบอกว่าเป็นความรับผิดชอบของท่านและเตือนให้เธอมีความนบนอบเชื่อฟัง นี่เป็นสาเหตุให้ลูซีอาเป็นทุกข์ใจอย่างมาก เธอใช้ความพยายามหลายครั้งและเป็นเวลานานที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง แต่มือของเธอกลับแข็งทื่อ
- ในที่สุดในวันที่ 3 มกราคม 1944 แม่พระทรงประจักษ์มาและตรัสว่า “อย่ากลัวไปเลย พระเป็นเจ้าทรงประสงค์จะทดสอบความนบนอบเชื่อฟัง, ความเชื่อและความถ่อมตนของลูก จงมีใจสงบเถิดและเขียนสิ่งที่พวกเขาสั่งลูก แต่อย่าได้เขียนความคิดเห็นในความหมายของภาพนิมิตนั้น” ลูซีอาได้อธิบายในภายหลังว่า เธอสามารถเขียนรายละเอียดของภาพนิมิตได้ แต่ไม่สามารถเขียนคำอธิบายของแม่พระในความหมายของภาพนิมิตนั้น
ลูซีอาได้เขียนความคิดเห็นเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับอนาคตของโปรตุเกส
“ประเทศโปรตุเกส จะรักษาความเชื่อเอาไว้ได้” และ
“ถ้าโปรตุเกสไม่ยอมรับการทำแท้ง
มันก็จะปลอดภัย
แต่ถ้ายอมรับ
มันก็จะได้รับความทุกข์ยากเป็นอย่างมาก”
เกี่ยวกับการถวายประเทศรัสเซีย ลูซีอาต้องประสบความยากลำบากมาก ในเดือนตุลาคม 1942 เธอบอกพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ว่า ยังไม่ได้มีการถวายนี้ “เพราะไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกับพระสังฆราชทั่วโลก” ต่อมาในสมัยพระสันตะปาปาเปาโลที่ 6
ผู้ทรงประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียในวันที่ 13 พฤษภาคม 1967 เธอเล่าว่า “มีคนมาถามดิฉันว่า
พิธีนั่นได้ทำตามคำขอของแม่พระเสร็จสมบูรณ์หรือไม่? ดิฉันตอบว่า “ไม่” ด้วยเหตุผลเดียวกัน” ในจดหมายของลูซีอา เธอเขียนว่า “เมื่อพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2
ทรงประกอบพิธีในวันที่ 13 พฤษภาคม 1982
พวกเขาได้ถามดิฉันว่าพิธีนี้สมบูรณ์ตามคำขอของแม่พระหรือไม่? ดิฉันตอบว่า ไม่
เพราะไม่เป็นหนึ่งเดียวกับพระสังฆราชทั้งครบ” ในที่สุด “พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้ทรงเขียนจดหมายถึงพระสังฆราชทั่วโลกให้ประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซีย ตามคำขอของแม่พระ และในวันที่ 25 มีนาคม 1984
พระองค์ได้ประกอบพิธีถวายประเทศรัสเซียในที่สาธารณะและเป็นหนึ่งเดียวกับพระสังฆราชทั่วโลกที่ปรารถนาจะร่วมเป็นหนึ่งเดียวด้วย พวกเขาถามดิฉันอีกครั้งว่า
พิธีนี้สมบูรณ์หรือไม่
และดิฉันตอบว่า ใช่ เพราะพิธีนั้นได้กระทำแล้ว
โดยสรุป
จากหนังสืออัตชีวประวัติเล่มนี้ได้พูดถึง ซิสเตอร์ลูซีอาว่า เธอเป็นคนถ่อมตน เธอคือเด็กหญิงเลี้ยงแกะที่พระราชินีแห่งสวรรค์ทรงวางใจมอบภารกิจเพื่อโลกและความลับให้เธอ
เธอพยายามอย่างที่สุดที่จะสัตย์ซื่อต่อกระแสเรียกของเธอในฐานะเป็นนักบวชและไม่ต้องการหลีกหนีจากโลกภายนอก
สาส์นแห่งฟาติมาในปี 1917
ยังคงมีความสำคัญที่สุดและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับในการทำให้บรรลุผลลัพท์ “พระเยซูเจ้า...ทรงประสงค์ให้โลกมีความศรัทธาต่อดวงหทัยนิรมลของแม่ ผู้ที่ยอมรับความศรัทธานี้
แม่สัญญาว่าพวกเขาจะได้รับความรอดของวิญญาณพวกเขา และพวกเขาจะเป็นที่รักของพระเป็นเจ้า ดุจดังบุปผาชาติที่แม่ได้วางประดับไว้บูชาพระองค์
ณ.ที่พระบัลลังก์”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น