วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ผู้เห็นแม่พระในอินเดีย


ผู้เห็นแม่พระในอินเดีย

ที่เมืองเคราลา  ทางตอนใต้ของอินเดีย  สตรีชาวอินเดียชื่อ  รานี  ยอห์น Rani John  อ้างว่าเธอได้เห็นแม่พระและได้รับสาส์นจากพระนางในระหว่างปี 1996 – 2002  

นอกจากนี้ยังมีอัศจรรย์ศีลมหาสนิทเกิดขึ้นกับเธอด้วย  คุณพ่อ Joe Kallupura  ผู้ที่ติดตามเรื่องนี้กล่าวว่า “รานีเขียนสาส์นจากการได้ยินเสียงของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์  หรือจากการเห็นสาส์นในนิมิต  เมื่อรานีป่วยและไม่สามารถเขียนสาส์นของแม่พระจำนวน 3 สาส์นได้  ในเวลานั้น แม่พระทรงจับมือขวาของรานีและเขียนสาส์น 3 สาส์นนั้น  สาส์นทั้งสามถูกมอบในวันที่ 31 พ.ค. 1998 , วันที่ 8 ธ.ค. 1999 และวันที่ 10 มิ.ย. 2000  รานีได้รับสาส์นทั้งหมด 51 สาส์นซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่ การช่วยให้วิญญาณได้รับความรอดโดยการ สวดภาวนา , การสำนึกผิด , การชดเชยใช้โทษบาป , การรับศีลมหาสนิท , การสารภาพบาป , สายประคำ , การพลีกรรมอดอาหาร ,  และพระวาจาของพระเจ้า  ทั้ง 5 ประการนี้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ได้รับความรอด”  และขับไล่ปีศาจ   

            Reverend Dr. George Nedungatt S.J  ศาสตราจารย์แห่งสถาบัน Pontifical Oriental Institute ในโรม ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งกล่าวถึงเธอเอาไว้ด้วยว่า “รานี  ยอห์น แห่ง เคราลา  ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ในบางครั้ง และแม่พระทรงประจักษ์แก่เธอหลายครั้ง  เมื่อแม่พระประจักษ์มาจะมีกลิ่นหอมที่ไม่ใช่ของโลกนี้เกิดขึ้น  รานีผู้เป็นคนเรียบง่าย จริงใจ กล่าวว่า  กลิ่นหอมนี้เป็นเครื่องหมายชั่วคราวที่พระแม่แห่งสวรรค์ทรงตั้งพระทัยปลุกเร้าความสนใจของบรรดาลูกๆของพระนางต่อการปรากฏมาและต่อสาส์นแห่งความรักของพระนาง  เพื่อเรียกร้องให้มีการสวดภาวนา”

มีอัศจรรย์ศีลมหาสนิทเกิดขึ้นกับรานี  เมื่อแผ่นศีลสัมผัสลิ้นของเธอ  ได้มีโลหิตไหลออกมาจากแผ่นศีลที่อยู่บนลิ้น  และแผ่นศีลปรากฏเหมือน”เนื้อมนุษย์ที่มีชีวิตจริงๆ”  (เราคงต้องระวังในเรื่องนี้และต้องใช้วิจารณญาณก่อนที่จะเชื่อถือ  เพราะบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่มาจากสวรรค์  แต่บางเรื่องอาจมาจากการกระทำของปีศาจเพื่อล่อลวงให้เราหลงผิดก็ได้)

รานีเป็นคนเรียบง่ายและมีความศรัทธา  เธอประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสนจักรอย่างดี  ปัจจุบันเธอมีอายุ 45 ปี  เธอเล่าให้ฟังว่า “ดิฉันมีประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์ในการรับศีลมหาสนิทจากพระเยซูเจ้าเองถึง 13 ครั้ง  แผ่นศีลได้กลับกลายเป็นเนื้อที่มีชีวิตและมีเลือดไหลอยู่บนลิ้นของดิฉันถึงสามครั้งในเวลาที่ต่างกัน  สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ต.ค. 1997 , 2 พ.ย. 1997  และ 12 ก.พ. 1998  เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้  ดิฉันมีความรู้สึกเหมือนมีลูกไฟกลมอยู่บนลิ้นของดิฉัน  มีนักบุญหลายองค์ที่กล่าวว่าศีลมหาสนิทเป็นลูกไฟกลม  เหตุผลหลักที่เกิดอัศจรรย์ศีลมหาสนิทนี้ก็เพื่อทำให้ทุกคนเชื่อถึงการปรากฏของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทอย่างแท้จริง  เมื่ออ่านสาส์นของพระเยซูเจ้าซึ่งประทานไว้ในวันที่ 26 ต.ค. 1997 (อ่านสาส์นที่ข้างล่างย่อหน้านี้)  ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงความจริงดังกล่าว  เราจำเป็นต้องระลึกไว้เสมอว่า ศีลมหาสนิทเป็นท้องพระคลังแห่งพระหรรษทานของพระเยซูเจ้าสำหรับพวกเราด้วย”

สาส์นของพระเยซูเจ้า วันที่ 26 ต.ค. 1997 “การลบหลู่และการสบประมาทที่มนุษยชาติกระทำต่อเรา  ผู้เป็นแกะยัญบูชาบนพระแท่น  และกระทำต่อความรักของพระเป็นเจ้าพระบิดานั้น  มีเพิ่มขึ้นมากมาย  ในเวลาที่พระสงฆ์เสกศีลนั้นเป็นเวลาสำคัญอันสูงสุดที่เราได้เสด็จมาหาบรรดาลูกๆแต่ละคนในฐานะพระเป็นเจ้าผู้ทรงชีวิต  เราเสด็จมาพร้อมด้วยความรักและการเป็นยัญบูชา  ลูกสาวของเราเอ๋ย พระวจนาตถ์ได้กลายมาเป็นเนื้อหนัง  และเนื้อหนังได้กลายเป็นยัญบูชา  ยัญบูชาที่ให้ชีวิตใหม่  กิจการแห่งการไถ่กู้ซึ่งเกิดขึ้นในนิรันดรภาพได้สำเร็จสมบูรณ์ในทุกๆพระแท่นแห่งยัญบูชา  นั่นมิใช่สิ่งที่ลูกได้ลิ้มรสและมีประสบการณ์หรอกหรือ  ลูกสาวของเรา?  ความจริงที่มิอาจปฏิเสธได้นี้ได้สำเร็จสมบูรณ์ ณ. เบื้องพระพักตร์ขององค์พระตรีเอกภาพ  นี่เป็นผลพวงแห่งการสวดภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อนของพระมารดาศักดิ์สิทธิ์ของเรา”

news report  ได้รายงานว่า “พระสังฆราชคาทอลิกสององค์มาอยู่ท่ามกลางประชาชนนับร้อยคนที่ปรารถนาจะเห็นอัศจรรย์ศีลมหาสนิท  ที่แผ่นปังได้กลายเป็นเลือดและเนื้อจริงๆในปากของรานี  หญิงสาวแห่งเคราลา   ตามมาด้วยการประจักษ์มาของพระแม่มารีย์   บ้านของเธอที่หมู่บ้าน   Kanjikode  ในรัฐเคราลา ได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญไปแล้ว  เจ้าหน้าที่ของทางพระศาสนจักรให้ความเห็นเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ซึ่งขณะนี้ดึงดูดประชาชน 2000 คนให้มาที่นี่ในแต่ละวัน  พระอัครสังฆราช Jacob Thoomkuzhy of Trichur  และพระสังฆราช Jacob Manathodath of Palghat  ไม่มีความสงสัยในความน่าเชื่อถือของเรื่องนี้  พระอัครสังฆราช Thoomkuzhy ให้สัมภาษณ์ว่า  ท่านเห็นเนื้อและเลือดในปากของรานีในไม่กี่นาทีหลังจากที่เธอได้รับศีลมหาสนิท  ในเวลานั้นเธอมีอายุ 30 ปี และร่วมในพิธีมิสซาซึ่งมีประชาชนร่วมด้วยประมาณ 100,000 คน”

ยังมีปรากฏการณ์พิเศษอีกอย่างหนึ่งซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน  นั่นคือ “น้ำนมและน้ำผึ้ง”

รานีกล่าวว่า “วันที่ 15 ส.ค. 1998  มีน้ำนมปริมาณสองลิตรได้ไหลออกมาจากสายประคำ”  (และพระสงฆ์ก็บอกเช่นนี้ด้วย) “น้ำนมและน้ำผึ้งถูกประทานมาในฝ่ามือของดิฉันมากกว่า 70 ครั้ง  ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นที่คอนแวนต์อัสซีซี ใน  Kanchikode  น้ำนมและน้ำผึ้งเป็นเครื่องหมายของความรักความเอาใจใส่เยี่ยงมารดาของแม่พระ”

พระแม่มารีย์ทรงเรียกพระนางเองว่า “ประกาศกหญิงแห่งชั่วโมงสุดท้าย” ที่มาประกาศ “ยุคใหม่”

 “ดิฉันได้รับสาส์น 51 สาส์นจากพระเยซูเจ้าและจากแม่พระ”

“บางคนอาจสงสัยว่าสาส์นนี้ถูกประทานมาอย่างไร  นี่เป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์ด้วยเช่นกัน  บางสาส์นถูกเขียนขึ้นจากการได้ยินพระเยซูเจ้าและแม่พระตรัส  บางสาส์นถูกเขียนขึ้นจากการที่ดิฉันเห็นสาส์นเหมือนเป็นนิมิต  และบางครั้ง  แม่พระทรงจับมือขวาของดิฉันเขียน  เมื่อดิฉันเขียนอยู่  ดิฉันไม่รู้ว่ากำลังเขียนอะไร  ต่อมาหลังจากที่ได้อ่านสาส์นแล้ว  ดิฉันจึงเข้าใจในสาระของสาส์นนั้น”
 
ประวัติของรานี

รานีเกิดเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 1970 ที่เมือง Mannampetta ในสังฆมณฑล Trissur แห่งรัฐเคราลาของอินเดีย   รานีเป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว Panthalookaran  เธอมีพี่สาวหกคน  พี่สาวห้าคนมีครอบครัวแล้ว  มีหนึ่งคนที่บวชเป็นซิสเตอร์  พ่อแม่ของรานีและตัวเธอเองเป็นคนที่มีใจศรัทธาต่อศีลมหาสนิทและแม่พระมาก  ตั้งแต่เธออายุยังน้อย  เธอได้รับประสบการณ์พิเศษ( mystical experiences ) นับครั้งไม่ถ้วน  ประสบการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่เธอรับศีลมหาสนิทครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 1977  ตอนอายุ 15 ปี  รานีได้เข้าบวชเป็นซิสเตอร์ในคอนแวนต์  หลังจากจบหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา  เธอก็ขอเข้าเรียนหลักสูตรพยาบาล และไปประจำอยู่ในอีกคอนแวนต์หนึ่ง  ระหว่างที่เรียนพยาบาลนี้  เธอล้มป่วยเป็นโรคไทฟอยด์และสายตาไม่สู้ดีนัก  ทำให้เธอไม่สามารถเรียนต่อไปได้  และเป็นโอกาสที่ทำให้เธอถูกเสนอให้รับการฟื้นฟูจิตใจ  ในระหว่างการฟื้นฟูจิตใจ  พระสงฆ์ท่านหนึ่งได้สวดภาวนาให้เธอและแนะนำเธอว่า  เธอได้รับกระแสเรียกที่พิเศษมาก  และแตกต่างไปจากกระแสเรียกให้เป็นซิสเตอร์หรือพยาบาล  ท่านยังแนะนำเธอว่าให้ยกถวายความเจ็บป่วยและความทุกข์ยากลำบากทั้งหมดแด่พระเยซูเจ้า  และให้รอคอยด้วยความอดทนจนกว่าจะรู้ว่าแผนการของพระเป็นเจ้าสำหรับเธอคืออะไรแน่  หลังจากนั้นรานีได้ออกจากคอนแวนต์ กลับไปอยู่ที่บ้านที่ Mannampetta  เธอยกถวายความเจ็บป่วยและความทุกข์แด่พระเยซูเจ้า และรอคอยแผนการณ์ของพระองค์ที่ทรงมีต่อเธอ  วันที่ 21 ต.ค. 1992  รานีได้แต่งงานกับ John George Palooparambil  หลังจากที่รานีแต่งงานแล้ว  เธอก็ได้รับประสบการณ์พิเศษมากมาย  คำแนะนำของพระสงฆ์ที่กล่าวว่าเธอได้รับกระแสเรียกพิเศษจากพระเป็นเจ้านั้น  เป็นที่ตระหนักชัดในวันที่  2 พ.ย. 1996  เมื่อเธอได้รับสายประคำอย่างอัศจรรย์จากแม่พระ ที่อาสนวิหารเวลังกานี  ในรัฐทมิฬนาดู  shrine in Velankanni, Tamil Nadu  (อาสนวิหารในรูปที่แสดงไว้)
จาก SpiritDaily
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น