ผู้เห็นแม่พระในอินเดีย
ที่เมืองเคราลา ทางตอนใต้ของอินเดีย สตรีชาวอินเดียชื่อ รานี
ยอห์น Rani John
อ้างว่าเธอได้เห็นแม่พระและได้รับสาส์นจากพระนางในระหว่างปี 1996 – 2002
นอกจากนี้ยังมีอัศจรรย์ศีลมหาสนิทเกิดขึ้นกับเธอด้วย คุณพ่อ Joe Kallupura ผู้ที่ติดตามเรื่องนี้กล่าวว่า “รานีเขียนสาส์นจากการได้ยินเสียงของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์ หรือจากการเห็นสาส์นในนิมิต เมื่อรานีป่วยและไม่สามารถเขียนสาส์นของแม่พระจำนวน
3 สาส์นได้ ในเวลานั้น
แม่พระทรงจับมือขวาของรานีและเขียนสาส์น 3 สาส์นนั้น สาส์นทั้งสามถูกมอบในวันที่ 31 พ.ค. 1998 ,
วันที่ 8 ธ.ค. 1999 และวันที่ 10 มิ.ย. 2000
รานีได้รับสาส์นทั้งหมด 51 สาส์นซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่
การช่วยให้วิญญาณได้รับความรอดโดยการ สวดภาวนา , การสำนึกผิด , การชดเชยใช้โทษบาป
, การรับศีลมหาสนิท , การสารภาพบาป , สายประคำ , การพลีกรรมอดอาหาร , และพระวาจาของพระเจ้า ทั้ง 5
ประการนี้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้ได้รับความรอด” และขับไล่ปีศาจ
Reverend Dr. George
Nedungatt S.J ศาสตราจารย์แห่งสถาบัน
Pontifical Oriental Institute ในโรม
ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งกล่าวถึงเธอเอาไว้ด้วยว่า “รานี ยอห์น แห่ง เคราลา ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ในบางครั้ง
และแม่พระทรงประจักษ์แก่เธอหลายครั้ง
เมื่อแม่พระประจักษ์มาจะมีกลิ่นหอมที่ไม่ใช่ของโลกนี้เกิดขึ้น รานีผู้เป็นคนเรียบง่าย จริงใจ กล่าวว่า
กลิ่นหอมนี้เป็นเครื่องหมายชั่วคราวที่พระแม่แห่งสวรรค์ทรงตั้งพระทัยปลุกเร้าความสนใจของบรรดาลูกๆของพระนางต่อการปรากฏมาและต่อสาส์นแห่งความรักของพระนาง เพื่อเรียกร้องให้มีการสวดภาวนา”
มีอัศจรรย์ศีลมหาสนิทเกิดขึ้นกับรานี เมื่อแผ่นศีลสัมผัสลิ้นของเธอ ได้มีโลหิตไหลออกมาจากแผ่นศีลที่อยู่บนลิ้น และแผ่นศีลปรากฏเหมือน”เนื้อมนุษย์ที่มีชีวิตจริงๆ” (เราคงต้องระวังในเรื่องนี้และต้องใช้วิจารณญาณก่อนที่จะเชื่อถือ เพราะบางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่มาจากสวรรค์
แต่บางเรื่องอาจมาจากการกระทำของปีศาจเพื่อล่อลวงให้เราหลงผิดก็ได้)
รานีเป็นคนเรียบง่ายและมีความศรัทธา เธอประพฤติปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสนจักรอย่างดี ปัจจุบันเธอมีอายุ 45 ปี เธอเล่าให้ฟังว่า “ดิฉันมีประสบการณ์อันน่ามหัศจรรย์ในการรับศีลมหาสนิทจากพระเยซูเจ้าเองถึง
13 ครั้ง
แผ่นศีลได้กลับกลายเป็นเนื้อที่มีชีวิตและมีเลือดไหลอยู่บนลิ้นของดิฉันถึงสามครั้งในเวลาที่ต่างกัน สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ต.ค. 1997 , 2 พ.ย.
1997 และ 12 ก.พ. 1998 เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้
ดิฉันมีความรู้สึกเหมือนมีลูกไฟกลมอยู่บนลิ้นของดิฉัน
มีนักบุญหลายองค์ที่กล่าวว่าศีลมหาสนิทเป็นลูกไฟกลม
เหตุผลหลักที่เกิดอัศจรรย์ศีลมหาสนิทนี้ก็เพื่อทำให้ทุกคนเชื่อถึงการปรากฏของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทอย่างแท้จริง เมื่ออ่านสาส์นของพระเยซูเจ้าซึ่งประทานไว้ในวันที่
26 ต.ค. 1997
(อ่านสาส์นที่ข้างล่างย่อหน้านี้)
ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงความจริงดังกล่าว
เราจำเป็นต้องระลึกไว้เสมอว่า ศีลมหาสนิทเป็นท้องพระคลังแห่งพระหรรษทานของพระเยซูเจ้าสำหรับพวกเราด้วย”
สาส์นของพระเยซูเจ้า
วันที่ 26 ต.ค. 1997 “การลบหลู่และการสบประมาทที่มนุษยชาติกระทำต่อเรา ผู้เป็นแกะยัญบูชาบนพระแท่น และกระทำต่อความรักของพระเป็นเจ้าพระบิดานั้น มีเพิ่มขึ้นมากมาย
ในเวลาที่พระสงฆ์เสกศีลนั้นเป็นเวลาสำคัญอันสูงสุดที่เราได้เสด็จมาหาบรรดาลูกๆแต่ละคนในฐานะพระเป็นเจ้าผู้ทรงชีวิต เราเสด็จมาพร้อมด้วยความรักและการเป็นยัญบูชา ลูกสาวของเราเอ๋ย
พระวจนาตถ์ได้กลายมาเป็นเนื้อหนัง
และเนื้อหนังได้กลายเป็นยัญบูชา
ยัญบูชาที่ให้ชีวิตใหม่
กิจการแห่งการไถ่กู้ซึ่งเกิดขึ้นในนิรันดรภาพได้สำเร็จสมบูรณ์ในทุกๆพระแท่นแห่งยัญบูชา
นั่นมิใช่สิ่งที่ลูกได้ลิ้มรสและมีประสบการณ์หรอกหรือ ลูกสาวของเรา?
ความจริงที่มิอาจปฏิเสธได้นี้ได้สำเร็จสมบูรณ์ ณ. เบื้องพระพักตร์ขององค์พระตรีเอกภาพ นี่เป็นผลพวงแห่งการสวดภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อนของพระมารดาศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
news report
ได้รายงานว่า “พระสังฆราชคาทอลิกสององค์มาอยู่ท่ามกลางประชาชนนับร้อยคนที่ปรารถนาจะเห็นอัศจรรย์ศีลมหาสนิท
ที่แผ่นปังได้กลายเป็นเลือดและเนื้อจริงๆในปากของรานี หญิงสาวแห่งเคราลา ตามมาด้วยการประจักษ์มาของพระแม่มารีย์ บ้านของเธอที่หมู่บ้าน Kanjikode ในรัฐเคราลา
ได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญไปแล้ว เจ้าหน้าที่ของทางพระศาสนจักรให้ความเห็นเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ซึ่งขณะนี้ดึงดูดประชาชน
2000 คนให้มาที่นี่ในแต่ละวัน
พระอัครสังฆราช Jacob Thoomkuzhy of Trichur และพระสังฆราช Jacob Manathodath of
Palghat
ไม่มีความสงสัยในความน่าเชื่อถือของเรื่องนี้
พระอัครสังฆราช Thoomkuzhy ให้สัมภาษณ์ว่า
ท่านเห็นเนื้อและเลือดในปากของรานีในไม่กี่นาทีหลังจากที่เธอได้รับศีลมหาสนิท ในเวลานั้นเธอมีอายุ 30 ปี
และร่วมในพิธีมิสซาซึ่งมีประชาชนร่วมด้วยประมาณ 100,000 คน”
ยังมีปรากฏการณ์พิเศษอีกอย่างหนึ่งซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน นั่นคือ “น้ำนมและน้ำผึ้ง”
รานีกล่าวว่า
“วันที่ 15 ส.ค. 1998
มีน้ำนมปริมาณสองลิตรได้ไหลออกมาจากสายประคำ” (และพระสงฆ์ก็บอกเช่นนี้ด้วย) “น้ำนมและน้ำผึ้งถูกประทานมาในฝ่ามือของดิฉันมากกว่า
70 ครั้ง ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นที่คอนแวนต์อัสซีซี
ใน Kanchikode น้ำนมและน้ำผึ้งเป็นเครื่องหมายของความรักความเอาใจใส่เยี่ยงมารดาของแม่พระ”
พระแม่มารีย์ทรงเรียกพระนางเองว่า
“ประกาศกหญิงแห่งชั่วโมงสุดท้าย” ที่มาประกาศ “ยุคใหม่”
“ดิฉันได้รับสาส์น 51
สาส์นจากพระเยซูเจ้าและจากแม่พระ”
“บางคนอาจสงสัยว่าสาส์นนี้ถูกประทานมาอย่างไร นี่เป็นประสบการณ์ที่มหัศจรรย์ด้วยเช่นกัน
บางสาส์นถูกเขียนขึ้นจากการได้ยินพระเยซูเจ้าและแม่พระตรัส บางสาส์นถูกเขียนขึ้นจากการที่ดิฉันเห็นสาส์นเหมือนเป็นนิมิต และบางครั้ง
แม่พระทรงจับมือขวาของดิฉันเขียน
เมื่อดิฉันเขียนอยู่ ดิฉันไม่รู้ว่ากำลังเขียนอะไร ต่อมาหลังจากที่ได้อ่านสาส์นแล้ว ดิฉันจึงเข้าใจในสาระของสาส์นนั้น”
ประวัติของรานี
รานีเกิดเมื่อวันที่
2 พ.ค. 1970 ที่เมือง Mannampetta ในสังฆมณฑล
Trissur แห่งรัฐเคราลาของอินเดีย รานีเป็นลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว Panthalookaran เธอมีพี่สาวหกคน พี่สาวห้าคนมีครอบครัวแล้ว มีหนึ่งคนที่บวชเป็นซิสเตอร์
พ่อแม่ของรานีและตัวเธอเองเป็นคนที่มีใจศรัทธาต่อศีลมหาสนิทและแม่พระมาก ตั้งแต่เธออายุยังน้อย เธอได้รับประสบการณ์พิเศษ( mystical
experiences ) นับครั้งไม่ถ้วน
ประสบการณ์ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่เธอรับศีลมหาสนิทครั้งแรก เมื่อวันที่
15 พ.ค. 1977 ตอนอายุ 15 ปี รานีได้เข้าบวชเป็นซิสเตอร์ในคอนแวนต์ หลังจากจบหลักสูตรเตรียมอุดมศึกษา เธอก็ขอเข้าเรียนหลักสูตรพยาบาล และไปประจำอยู่ในอีกคอนแวนต์หนึ่ง ระหว่างที่เรียนพยาบาลนี้
เธอล้มป่วยเป็นโรคไทฟอยด์และสายตาไม่สู้ดีนัก ทำให้เธอไม่สามารถเรียนต่อไปได้ และเป็นโอกาสที่ทำให้เธอถูกเสนอให้รับการฟื้นฟูจิตใจ ในระหว่างการฟื้นฟูจิตใจ พระสงฆ์ท่านหนึ่งได้สวดภาวนาให้เธอและแนะนำเธอว่า เธอได้รับกระแสเรียกที่พิเศษมาก
และแตกต่างไปจากกระแสเรียกให้เป็นซิสเตอร์หรือพยาบาล ท่านยังแนะนำเธอว่าให้ยกถวายความเจ็บป่วยและความทุกข์ยากลำบากทั้งหมดแด่พระเยซูเจ้า และให้รอคอยด้วยความอดทนจนกว่าจะรู้ว่าแผนการของพระเป็นเจ้าสำหรับเธอคืออะไรแน่
หลังจากนั้นรานีได้ออกจากคอนแวนต์ กลับไปอยู่ที่บ้านที่
Mannampetta เธอยกถวายความเจ็บป่วยและความทุกข์แด่พระเยซูเจ้า
และรอคอยแผนการณ์ของพระองค์ที่ทรงมีต่อเธอ
วันที่ 21 ต.ค. 1992
รานีได้แต่งงานกับ John George Palooparambil หลังจากที่รานีแต่งงานแล้ว เธอก็ได้รับประสบการณ์พิเศษมากมาย
คำแนะนำของพระสงฆ์ที่กล่าวว่าเธอได้รับกระแสเรียกพิเศษจากพระเป็นเจ้านั้น เป็นที่ตระหนักชัดในวันที่ 2 พ.ย. 1996
เมื่อเธอได้รับสายประคำอย่างอัศจรรย์จากแม่พระ ที่อาสนวิหารเวลังกานี ในรัฐทมิฬนาดู
shrine in Velankanni, Tamil Nadu (อาสนวิหารในรูปที่แสดงไว้)
จาก SpiritDaily
จาก SpiritDaily
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น