ภาพด้านซ้ายเป็นรูปกางเขนที่ น. คัทริน แห่งลาบูเรา
เห็นในนิมิตระหว่างที่แม่พระประจักษ์แก่เธอ
ในการประจักษ์ของแม่พระแห่งเหรียญอัศจรรย์
นอกจากแม่พระทรงขอให้จัดทำเหรียญตามภาพที่พระนางทรงแสดงให้คัทรีนเห็นแล้ว แม่พระยังทรงขอให้มีการจัดสร้างกางเขนและตั้งไว้ที่ด้านหน้าของมหาวิหารน๊อตเตรอดาม
ในกรุงปารีส
และให้เปิดประตูโบสถ์น้อยเพื่อเป็นที่แสวงบุญอีกด้วย คัทรีนได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับทางผู้ใหญ่ของอาราม แต่ได้รับการปฏิบัติตามเพียงเรื่องเดียว คือการสร้างเหรียญ ส่วนคำขออีกสองเรื่องนั้นได้รับการปฏิเสธ
ซึ่งอาจเป็นเพราะทางผู้ใหญ่ไม่เห็นความจำเป็นและเป็นเรื่องที่ใหญ่มากเกินไป
ส่วนภาพด้านขวา เป็นรูปกางเขนที่สร้างขึ้นในปี 1933 ที่ภูเขา Krizevac (ภูเขากางเขน) ในเมดจูกอเรจ์
น.คัทรีน ได้อธิบายตามที่แม่พระตรัสแก่เธอว่า
“กางเขนนี้จะถูกเรียกว่า กางเขนแห่งชัยชนะ
จะเป็นกางเขนที่จะได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดในฝรั่งเศสและในประเทศอื่นที่อยู่ห่างไกล แม้แต่ประเทศที่อยู่โพ้นทะเล บางคนจะมาเยี่ยมที่นี่ด้วยความศรัทธา บางคนมาเพื่อแสวงบุญ และบางคนมาเพราะอยากรู้อยากเห็น พวกเขาจะได้รับการปกป้องเป็นพิเศษจนทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นอัศจรรย์
ผู้ที่มาที่ฝรั่งเศสทุกคนจะมาเยี่ยมชมกางเขนนี้ ราวกับว่าเป็นผลงานทางศิลปะ”
น.คัทรีน ได้บรรยายขนาดของกางเขนไว้ด้วย
“ฐานกางเขนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีขนาดราว 10 หรือ 12 ฟุต และกางเขนเองจะสูงประมาณ 15 – 20 ฟุต เมื่อตั้งกางเขนขึ้นแล้ว ฉันคิดว่าจะมีความสูงทั้งหมดประมาณ 30 ฟุต”
แต่น่าเสียดายที่โบสถ์น้อยที่แม่พระประจักษ์แก่ น.คัทรีน (บนถนนรือ
ดู บัค ในปารีส)ไม่ได้กลายศูนย์รวมของการแสวงบุญและการเยียวยารักษา ดังที่น.คัทรีนได้เห็นในนิมิต อย่างไรก็ตาม
แม่พระได้เสด็จไปที่ลูรดส์และทรงประจักษ์แก่นักบุญแบร์นาแด๊ต ซูบีรุส
ต่อมาลูรดส์ได้กลายเป็นศูนย์รวมแห่งการแสวงบุญและมีอัศจรรย์การเยียวยารักษาเกิดขึ้นมากมาย
แล้วกางเขนเล่า? ในปี 1930
ในบอสเนีย-เฮอรเซโกวีนา
ที่หมู่บ้านเมดจูกอเรจ์
ได้มีการสร้างกางเขนขึ้นที่ภูเขา Krizevac (ภูเขากางเขน)
กางเขนมีขนาดสัดส่วนใกล้เคียงกับกางเขนที่แม่พระทรงประสงค์ให้มีการสร้างที่ปารีส กางเขนถูกสร้างและตั้งเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้ชัดเจนจากบริเวณใกล้เคียง ปัจจุบันนี้มีประชาชนนับล้านคนได้ขึ้นไปแสวงบุญ
ณ.ที่กางเขนนี้
ขนาดสัดส่วนของกางเขนใกล้เคียงกับขนาดที่
น. คัทรีนได้บอกไว้
เช่นความสูงของกางเขนคือ 16 ฟุต
และคัทรีนระบุไว้ว่า 15 – 20 ฟุต
ฐานกางเขนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาว 12 ฟุต ซึ่งตรงกับที่คัทรีนระบุไว้พอดี เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจมากทั้งๆที่ชาวบ้านในยูโกสลาเวีย(ชื่อประเทศในอดีต)
ที่สร้างกางเขนไม่ได้รู้เรื่องนี้
ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านานนับศตวรรษ
ถ้าไม่แบกสัมภาระ จะต้องใช้เวลานาน 45
นาทีในการปีนขึ้นไปถึงยอดเขา
ผู้แสวงบุญหลายคนบอกว่าเขาได้รับอัศจรรย์ในการเยียวยารักษาหรืออัศจรรย์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกางเขนนี้
หมายเหตุ
คุณพ่อ Rene
Laurentin
ได้เขียนเล่าไว้ว่า
“เมื่อคัทรีนได้ยินประชาชนทั่วไปพูดถึงการประจักษ์ที่ลูรดส์ เธอกล่าวว่า “ที่นั่นก็เหมือนกับที่นี่” แล้วอะไรที่น่าประหลาดใจที่สุดล่ะ ซิสเตอร์ Dufs
ซึ่งเป็นคุณแม่อธิการของคัทรีนได้เล่าเรื่องนี้
“สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ ซิสเตอร์คัทรีนไม่เคยอ่านรายงานหรือหนังสือที่เขียนเกี่ยวกับลูรดส์เลย
แต่เธอสามารถพูดถึงลูรดส์ได้เหมือนกับผู้ที่เคยไปแสวงบุญที่นั่นมาแล้ว” และตามที่ซิสเตอร์ Tranchemer ซึ่งเป็นเพื่อนของคัทรีนได้เล่าให้ฟัง คัทรีนเคยพูดว่า “เธอรู้ไหม อัศจรรย์ที่เกิดที่ลูรดส์ควรเกิดขึ้นที่โบสถ์น้อยของเรา” และซิสเตอร์อีกผู้หนึ่งคือซิสเตอร์ Cosnard เล่าว่า “มีครั้งหนึ่ง ซิสเตอร์คัทรีนพูดกับดิฉันว่าสถานที่แสวงบุญที่น๊อตเตอร์ดาม
และที่ลูรดส์ นั้นเป็นสถานที่ซึ่งแม่พระทรงเป็นผู้ก่อตั้ง เพื่อชดเชยในการที่บรรดาผู้ใหญ่ของที่นี่ไม่เห็นความจำเป็นในคำขอร้องของแม่พระที่จะทำให้โบสถ์น้อยของอารามเป็นที่แสวงบุญ และ ซิสเตอร์คัทรีนยังเคยพูดกับดิฉันหลายครั้งว่า
ผู้แสวงบุญจะไปที่นั่นเช่นเดียวกับที่พวกเขาควรจะได้มาที่นี่”
ประวัติเหรียญแม่พระอัศจรรย์ St. Catherine Laboure and the
Miraculous Medal
มหาวิหารน๊อตเตอร์ดาม กรุงปารีส
เยี่ยมโบสถ์น้อยแห่งเหรียญอัศจรรย์
ที่ถนน รือ ดู บัค ในปารีส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น