Pope benedict
15/ unofficial truce
นี่เป็นเรื่องราวแห่งความหวังของมนุษย์ยุคใหม่ เป็นแสงสลัวในท่ามกลางความมืดของศตวรรษที่
20 บางทีเราอาจไม่ถึงจุดจบของการทำลายล้าง
ผมกำลังพูดถึงการพักรบวันคริสต์มาส
Christmas Truce
ในปี 1914 ซึ่งเกิดในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารเยอรมนี
อังกฤษและตลอดทั่วทั้งยุโรปเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในวันก่อนวันคริสต์มาสและวันคริสต์มาส และให้มีพื้นที่ปลอดทหาร “no-man’s land”
ของทั้งสองฝ่าย
ทหารทุกคนจะได้ฉลอง, ร้องเพลงคริสต์มาสแคร์รอล และเล่นกีฬาร่วมกัน
แต่คุณทราบหรือไม่เกี่ยวกับบทบาทของพระสันตะปาปาในเรื่องดังกล่าวนี้?
สงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นในปี
1914 ในสมัยของพระสันตะปาปาปีโอที่ 10
ขณะนั้นพระองค์ทรงประชวรและใกล้สิ้นพระชนม์
จึงไม่สามารถกระทำสิ่งใดในเรื่องนี้ได้
พระองค์สิ้นพระชนม์ในเดือนสิงหาคม
และในเดือนกันยายน พระสันตปาปาองค์ใหม่ก็ได้รับการแต่งตั้งขึ้นคือ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่
15 เพราะฉะนั้นพระภารกิจหลักของพระสันตปาปาองค์ใหม่อย่างแรกก็คือความพยายามที่จะนำสันติภาพกลับคืนมาสู่ยุโรป
พระองค์ทรงเรียกสงครามว่าเป็น “การฆ่าตัวตายของยุโรป” “the suicide of civilized Europe.”
ในต้อนต้นเดือนธันวาคม พระสันตะปาปาทรงเสนอให้คู่สงครามตกลงกันให้มีการหยุดยิงกันอย่างน้อยก็ในวันคริสต์มาสของปีนั้น
เพื่อที่ทหารทั้งสองฝ่ายจะได้หยุดงานในวันศักดิ์สิทธิ์และบางทีจะทำให้พวกเขามีเวลาคิดทบทวนว่า
พวกเขาจะต้องต่อสู้กันไปทำไม
และอาจเป็นความหวังที่ทำให้คู่สงครามทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบอย่างถาวรในที่สุด
พระสันตะปาปาทรงวิงวอนว่า
“เพื่อที่ปืนจะได้สงบเสียง
อย่างน้อยก็ในวันที่เหล่าทูตสวรรค์กำลังขับร้องประสานเสียง”
แต่โชคร้าย
ข้อเสนอของพระองค์ได้รับการปฏิเสธอย่างเป็นทางการจากผู้นำของทั้งสองฝ่าย แต่มันไม่ได้โชคร้ายเสียทีเดียว เมื่อข้อเสนอของพระองค์มิได้รับการตอบสนองอย่างเป็นทางการ การตอบสนองอย่างไม่เป็นทางการก็เกิดขึ้นแทนและเกิดขึ้นไปทั่วทั้งทวีป อะไรเป็นสาเหตุของการพักรบชั่วคราว(truce) นี้? เราไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดนัก
เพราะไม่ปรากฏว่ามีการประสานร่วมมือกันแต่อย่างใด
มันเกิดขึ้นจากทหารผู้น้อยบางคนซึ่งไม่มีใครรู้จัก อย่างไรก็ดี พระประสงค์ของพระสันตะปาปาย่อมมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งบ้างไม่ว่าต่อมนุษย์หรือต่อพระเป็นเจ้าด้วย
ให้เราระลึกถึงพระวาจาของพระคริสต์ว่า
“เป็นบุญของผู้สร้างสันติ” ผู้ที่ได้สวดภาวนาอย่างต่อเนื่องและทำงานเพื่อสันติภาพในโลกของเราทุกวันนี้ เราอาจไม่รู้ว่าการกระทำของเรานั้นบางทีจะมีผลต่อโลกของเราบ้างไม่มากก็น้อย พระเป็นเจ้าจะทรงสดับฟังเสียงวิงวอนของเรา พระองค์ทอดพระเนตรเห็นการกระทำเพื่อสร้างสันติของเรา และพระองค์จะทรงประทานให้ในสิ่งที่เราวอนขอเพื่อสันติภาพของโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น