บทความต่อไปนี้นำมาจาก Catholic Exchange:
พระวรสารวันนี้กล่าวถึงโหราจารย์ทางทิศตะวันออกได้ถามชาวเยรูซาเล็มว่า
“กษัตริย์ของชาวยิวที่ทรงบังเกิดใหม่อยู่ที่ไหน?” (มท. 2:1-12)
“โหราจารย์”
ในที่นี้ดูเหมือนกับนักดาราศาสตร์
ซึ่งถือว่าเป็น”นักปราชญ์”ของสมัยนั้น
เพราะพวกเขาใช้เวลาในการสังเกตปรากฏการณ์ต่างๆบนท้องฟ้าเพื่อค้นหาความหมายของเหตุการณ์ บางทีพวกเขาอาจจะมาจากเปอร์เซีย
และอาจได้รับการศึกษาจากสำนักศึกษาที่ประกาศกดาเนียลเป็นผู้ดำเนินงาน เพราะประกาศกดาเนียลได้รับอำนาจหน้าที่นี้เมื่อหลายร้อยปีก่อน
ดาเนียลเป็นชาวยิวที่ถูกจับเป็นเชลยไปอยู่ที่บาบิโลน
นี่เป็นการลงโทษของพระเป็นเจ้าในความไม่ซื่อสัตย์ของยูดาห์ในราวศตวรรษที่ 6
ก่อนค.ศ.
พระเป็นเจ้าทรงเรียกให้ดาเนียลเป็นประกาศกของพระองค์ในบาบิโลน เพื่อปลอบใจชาวยิวที่เป็นทาสและทำให้พวกเขายังคงสัตย์ซื่อต่อพระองค์ ดาเนียลได้อธิบายความหมายของความฝันของกษัตริย์เนบูคันเนสซาร์ ซึ่งไม่มีใครเข้าใจและไม่สามารถอธิบายความฝันให้พระองค์ได้ ดังนั้นกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์จึงได้แต่งตั้งให้ดาเนียล
เป็น “หัวหน้าสูงสุดของบรรดานักปราชญ์ทั้งหลายในกรุงบาบิโลน” (ดน. 2:48)
ท่านจึงเป็นผู้ดูแลสำนักศึกษาของนักปราชญ์ในกรุงบาบิโลน และสำนักศึกษานี้คงอยู่มานานนับศตวรรษ
(ดาเนียลไม่เคยกลับไปที่ยูดาห์อีกเลย)
ถึงแม้ต่อมาบาบิโลนจะถูกพิชิตโดยชาวเปอร์เซีย
สำนักศึกษานี้ก็ยังคงอยู่และแน่นอนว่าในสำนักศึกษาแห่งนี้ย่อมต้องมีพระคัมภีร์ซึ่งกล่าวทำนายถึงพระผู้ไถ่ไว้ด้วยและย่อมเป็นที่สนใจของบรรดานักปราชญ์ทั้งหลาย.....
ทำไมน่ะหรือ?
ระหว่างการเดินทางในทะเลทรายของชาวอิสราแอล (Exodus ประมาณ 1500 ก่อนค.ศ.) ขณะที่ชาวอิสราเอลเดินทางไปสู่ดินแดนแห่งพันธะสัญญา กษัตริย์ต่างชาติองค์หนึ่ง(บาลาค) ถูกบังคับโดยโหรประจำราชสำนัก(บาลาอัม)
ให้สาปแช่งชาวอิสราแอล
แต่พระเป็นเจ้าทรงเปลี่ยนพระทัยของกษัตริย์ แทนที่พระองค์จะกล่าวคำสาปแช่ง พระองค์กลับอวยพรชาวอิสราแอล
พระองค์ได้เห็นนิมิตจากพระเป็นเจ้าและตรัสเป็นคำทำนายว่า
“ข้าพเจ้าเห็นพระองค์ แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ ข้าพเจ้าจ้องมองดูพระองค์ แต่อยู่ไม่ใกล้นัก ดวงดาวจะออกมาจากยาโคบ และคฑาจะถูกยกขึ้นมาจากอิสราแอล” (กดว.
24:17) นี่เป็นคำทำนายที่ออกมาจากผู้ที่ไม่ใช่ชาวยิวซึ่งได้รับการดลใจจากพระเจ้าให้ทำนายถึงกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอิสราแอล แต่ “ไม่ใช่ในเวลานี้” ชาวยิวทุกคนรู้จักคำทำนายนี้ดี และรู้ว่ายาโคบมีบุตร 12 คน และบุตรคนหนึ่งจะเป็นผู้ปกครองด้วย”คฑา” นั่นคือ
ยูดาห์ “คฑาจะไม่ขาดหายไปจากยูดาห์
ทั้งไม้ถือของผู้ปกครองจะไม่ขาดไปจากหว่างเท้าของเขา จนกว่าผู้ที่จะมานั้นได้เสด็จมา และชนชาติทั้งหลายจะเชื่อฟังผู้นั้น”(ปฐ.49:10)
จึงไม่น่าสงสัยเลยว่า
ดาเนียลคงได้เล่าเรื่องคำทำนายเหล่านี้ให้แก่บรรดานักปราชญ์ทั้งหลายในกรุงบาบิโลนฟังโดยไม่หวั่นกลัว และอีกหลายร้อยปีต่อมา
บรรดาโหราจารย์ผู้ซึ่งรอบรู้เรื่องราวต่างๆในอดีต รวมทั้งเรื่องของดาเนียลและคำสั่งสอนของท่าน เมื่อได้เห็นดวงดาวซึ่งไม่ธรรมดาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน จึงทราบทันทีว่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้บังเกิดมาแล้ว และพวกเขาปรารถนาที่จะไปนมัสการกษัตริย์ใหม่ที่บังเกิดมา พวกเขาเดินทางด้วยความยากลำบากไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
ดูซิว่ากษัตริย์เฮรอดจะวุ่นวายพระทัยเพียงใด เพราะในคำทำนายยังกล่าวไว้เกี่ยวกับดวงดาวที่ปรากฏนี้ว่า
“เอดอมจะถูกยึดครอง”(กดว.24:18) เฮรอดไม่ใช่ชาวยิว พระองค์เป็นชาวเอดอมที่มาชิงอำนาจในเยรูซาเล็ม
ดังนั้นเฮรอดจึงปรึกษากับคัมภีราจารย์ชาวยิวเพื่อจะได้รู้สถานที่ประสูติของกษัตริย์องค์ใหม่และรู้ว่าคือที่
“เบทเลเฮ็ม”
สถานที่ซึ่งถูกทำนายไว้แล้วเช่นเดียวกัน (มคา. 5:2) และดวงดาวได้มาหยุดอยู่ที่ถ้ำเลี้ยงสัตว์ โหราจารย์ทั้งสามได้เข้าไปและได้เห็น “พระกุมารในอ้อมแขนของพระนางมารีย์พระมารดาของพระองค์” พวกเขาได้เห็นพระสัญญาของพระเป็นเจ้าที่ประทานในสวนเอเด็น ที่สำเร็จบริบูรณ์ พระสัญญาไม่ใช่ต่อเฉพาะชาวยิวเท่านั้น แต่ต่อมนุษย์ทุกคนทั่วโลก พระองค์ทรงสัญญาว่า “สตรีผู้หนึ่งและบุตรของนาง”
จะเป็นศัตรูกับ “งูร้าย”
โหราจารย์ทั้งสามได้เข้าไปกราบนมัสการพระกุมารและพระมารดา
และพวกเราก็ได้ทำเช่นเดียวกับโหราจารย์ทั้งสาม
เข้าไปกราบนมัสการพระกุมารและพระมารดาเช่นเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น