ถ้าจะมีคำใดที่ใช้บรรยายชีวิตของ
น. ปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ดได้แล้วก็คงเป็นคำว่า “เข็นครกขึ้นภูเขา” นั่นแหละ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ปีเตอร์จัดซื้อพระรูปต่างๆ สร้างพระแท่นใหม่ขึ้นมาแทนพระแท่นเก่าซึ่งเสื่อมไปตามอายุ เขาได้รับความรักจากบรรดาสัตบุรุษ ปีเตอร์ทำงานทั้งวันและคืนเพื่ออำนวยความสะดวกในสิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่มีสิ่งใดมากเกินไปสำหรับเขาที่พร้อมจะทำให้ คนงานสามารถมาสารภาพบาปกับเขาได้เสมอ แม้จะเป็นเวลากลางคืน เขาซ่อมแซมโบสถ์น้อยซึ่งอยู่ชานเมืองเพื่อใช้เป็นสถานที่ให้บริการพิเศษ เพื่อที่สัตบุรุษจะได้ไม่ต้องเข้าไปในเมือง สำหรับสัตบุรุษแล้ว ปีเตอร์เป็นเหมือนเทวดาที่พระเป็นเจ้าทรงส่งมาให้พวกเขา ระหว่างที่ปีเตอร์อยู่ที่มอนทรียาร์ดนี้ มิตรสนิทและผู้ให้คำปรึกษาของปีเตอร์ – คุณพ่อโตเช่ จากอาสนวิหารแม่พระแห่งเลาส์ ได้มาเยี่ยมปีเตอร์ ท่านเล่าให้ปีเตอร์ฟังเกี่ยวกับคณะที่ก่อตั้งใหม่ที่เมืองลียอง Lyons มีชื่อคณะว่า "สมาคมของแม่พระ" the Society of Mary หรือเรียกว่า มาริสต์ Marists ปีเตอร์ได้ไปพบกับคุณพ่ออธิการผู้ก่อตั้งคณะคือ คุณพ่อโคลิน Fr. Colin และท่านบอกให้ปีเตอร์สวดภาวนาขอความสว่างจากพระเป็นเจ้าว่าพระองค์ทรงเลือกเขาให้มาเข้าคณะใหม่นี้หรือไม่ ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าเขาก็จะได้ขออนุญาติจากพระสังฆราชเพื่อให้ปล่อยเขาไปเข้าคณะมาริสต์เพื่อเป็นมิชชันนารี ปีเตอร์เขียนจดหมายถึงพระสังฆราชเพื่อขออนุญาติ แต่พระสังฆราชไม่อยากสูญเสียปีเตอร์ไป จึงบอกปีเตอร์ว่า เวลานี้มีงานของมิชชันนารีจำนวนมากในสังฆมณฑลนี้ที่จะต้องทำ แต่ในขณะเดียวกัน อธิการของคณะมาริสต์ก็เขียนจดหมายตอบรับที่จะให้คุณพ่อปีเตอร์เข้าคณะได้ เขาจึงต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร? เขาได้อธิบายสถานการณ์ของเขาให้คุณพ่ออธิการคณะมาริสต์ทราบ และเขาต้องเชื่อฟังพระสังฆราชจนกว่าพระสังฆราชจะอนุญาตให้เขามาได้ ในที่สุดพระสังฆราชก็ตระหนักว่าพระเป็นเจ้าทรงชี้นำคุณพ่อปีเตอร์ ดังนั้นท่านจึงอนุญาตให้ปีเตอร์ออกจากสังฆมณฑล ดูเหมือนว่าทุกสิ่งจะดำเนินไปอย่างสะดวก เขาได้รับอนุญาตจากพระสังฆราชแล้ว ต่อไปคือต้องอธิบายและรับมือกับพี่สาวและบรรดาสัตบุรุษของเขา
ปีเตอร์วางแผนที่จะจากไปอย่างเงียบๆโดยไม่ให้ใครรู้ตัว เขาเก็บข้าวของลงในถุงสัมภาระไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจ้างนักดนตรีให้มาบรรเลงเพลงที่โบสถ์หลังพิธีมิสซาเพื่อดึงความสนใจของชุมชน จะได้ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าเขากำลังจากพวกเขาไปพร้อมกับข้าวของของเขา พี่สาวของเขาได้ออกจากเกรโนเบิลเพื่อไปพบกับพระสังฆราชเพื่อเจรจาให้ท่านสั่งให้ปีเตอร์ทำงานเป็นมิชชันนารีในสังฆมณฑลนี้ เมื่อพระสังฆราชบอกให้เธอรู้เกี่ยวกับแผนการณ์ของปีเตอร์ที่กำลังจะจากเธอและสังฆมณฑลนี้ไป เธอก็รีบไปที่มอนทรียาร์ดทันทีเพื่อยับยั้งปีเตอร์ และโชคก็เข้าข้างเธอ เธอไปถึงโบสถ์ทันเวลาพอดีขณะที่ปีเตอร์กำลังเอาสัมภาระใส่ในรถม้าซึ่งจะนำเขาไปยังเมืองลียองเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ พี่สาวได้วอนขอให้ปีเตอร์คิดทบทวนอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจ เขายังคงยืนกรานความตั้งใจของเขา เธอวิงวอนให้เขาอยู่ต่อกับเธออีกวันหนึ่ง เขาพูดว่า “พี่สาวที่รัก พระเป็นเจ้าทรงเรียกน้องในวันนี้ วันพรุ่งนี้จะสายเกินไป” พี่สาวเป็นลมล้มลงบนอ้อมแขนของเพื่อนที่มากับเธอด้วย ปีเตอร์เดินทางต่อไป เขารู้ว่าถ้าเขาสะดุด ทุกอย่างจะสูญเสียไปหมดสิ้น เขาไม่สามารถลบลืมภาพในวันนั้นออกไปจากสมองของเขาได้เลย แม้จะนานหลายปีแล้ว เขายังคงพูดถึงความยากลำบากที่เขาต้องตัดใจจากพี่สาวและชุมนุมชนของเขา แต่พระเป็นเจ้าทรงเรียกเขาและเขาต้องตอบรับพระองค์ ปีเตอร์ได้พบกับความปิติยินดีอันยิ่งใหญ่ที่ได้มีส่วนร่วมอยู่ในคณะมาริสต์ที่ตั้งขึ้นใหม่ ถึงแม้สุขภาพของเขายังคงย่ำแย่เหมือนเดิม จนบางครั้งกลัวว่าเขากำลังจะตาย เขาก็ยังเดินหน้าต่อ และกลายเป็นผู้ร่วมงานของคณะที่แนบแน่นยิ่งขึ้น เขาได้รับตำแหน่งในคณะที่สูงขึ้น ได้รับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น และเขาก็ยอมรับทุกสิ่งเหมือนเป็นดังพระพรของพระเป็นเจ้า เขารับผิดชอบงานทุกอย่างที่พระเป็นเจ้าทรงมอบหมายให้เขา เขาเดินทางไปทั่วฝรั่งเศสเพื่องานของคณะมาริสต์
ในปี 1849 เขาไปที่ปารีสเป็นครั้งแรกสำหรับงานของคณะมาริสต์ ขณะที่อยู่ที่นั่น เขาได้พบกับบุคคลที่มีอิทธพลต่อชีวิตของเขาและอนาคตของคณะ ชื่อของบุคคลผู้นั้นคือ เรยมอนด์ เดอ คูเออร์ส Raymond de Cuers เขาคือผู้ที่มีส่วนในการจัดให้มีการสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิท และพระเป็นเจ้าทรงสัมผัสจิตใจของปีเตอร์ในเวลานั้น เขาคิดว่ากิจการนี้เป็นสิ่งที่ดี การสวดภาวนาเบื้องหน้าศีลมหาสนิทด้วยความศรัทธา เมื่อเขากลับมายังเมืองลียอง เขาก็จัดตั้งให้มีกิจการนี้ในสังฆมณฑลนั้นด้วย ในเวลาว่างซึ่งไม่ค่อยมีบ่อยนัก ศีลมหาสนิทและการสวดภาวนาจะเป็นสิ่งแรกที่ปีเตอร์คิดถึง และคณะนักบวชหญิงคณะใหม่ที่ศรัทธาในศีลมหาสนิทก็ก่อตั้งขึ้นที่เมืองลียองนี้เอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น