วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

นักบุญปีเตอร์ จูเลียน เอียมาร์ด-4


มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับปีเตอร์  ขณะที่เขามีอายุ 5 ขวบ  และพี่สาวเป็นผู้ดูแลเขา  วันหนึ่งเขาหายตัวไป  พี่สาวตกใจมากเที่ยวตามหาเขาไปทั่วเมืองแต่ก็ไม่พบตัว  จนในที่สุดพี่สาวเข้าไปในโบสถ์ประจำหมู่บ้าน  แล้วเธอก็เห็นน้องชายกำลังเอาบันไดมาวางไว้ที่ตู้ศีลและปีนขึ้นไปเอาหูแนบกับตู้ศีล  พี่สาวเข้าไปนำตัวน้องชายลงมาและดุว่าเขา  ถามเขาว่าทำอย่างนี้ทำไม  ปีเตอร์ตอบเธอว่า “ผมจะได้ยินพระองค์ตรัสชัดขึ้นด้วยวิธีนี้ครับ”  เมื่อปีเตอร์อายุ 12 ขวบ ก่อนที่เขาจะรับศีลมหาสนิทครั้งแรก  เขาได้เขียนหนังสือบทสวดเล่มเล็กๆเอาไว้สวดหลังจากรับศีล เขาเขียนไว้ดังนี้

พระเยซูสุดที่รักของผม
ผมขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระหรรษทาน
ที่พระองค์ประทานแก่ผม
ในการที่พระองค์เสด็จมาประทับในหัวใจของผม

ปีเตอร์ต้องการเป็นพระสงฆ์ตั้งแต่อายุยังน้อย  แต่บิดาของเขาไม่พอใจในความคิดนี้ของเขาเลย   เมื่อเป็นพระสงฆ์แล้ว  ปีเตอร์รู้สึกใกล้ชิดพระเยซูเจ้าผ่านทางศีลมหาสนิทมากยิ่งขึ้น  และตัดสินใจว่า  จำเป็นต้องมีพระสงฆ์ที่มีความศรัทธาต่อศีลมหาสนิทเป็นพิเศษ  ในปี 1856 คุณพ่อปีเตอร์ จูเลียน  เอียมาร์ดจึงได้ก่อตั้งคณะศีลมหาสนิทขึ้น  ผู้ที่อยู่ในคณะนี้จะผลัดกันเฝ้าศีลมหาสนิทตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ที่เข้าในคณะนี้มีทั้งพระสงฆ์ นักบวช และฆราวาส  จุดประสงค์ของคณะคือการเผยแพร่ความศรัทธาต่อศีลมหาสนิท  จัดให้มีพิธีเคารพศีลมหาสนิท  และเฝ้าศีลมหาสนิทอย่างต่อเนื่อง

วันที่  13 พฤษภาคม 1856  พระสังฆราชก็อนุมัติแผนการณ์ของปีเตอร์ในการตั้งคณะศีลมหาสนิท งานแรกของคณะเริ่มต้นกับบรรดาเด็กๆแห่งกรุงปารีสโดยการเตรียมตัวพวกเขาให้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกอย่างดี  คณะนี้ได้รับการรับรองจากพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ในปี 1858  และในปีเดียวกันปีเตอร์ก็ตั้งคณะผู้รับใช้ศีลมหาสนิทสำหรับสุภาพสตรีขึ้น

ปีเตอร์มีความศรัทธาในแม่พระมากด้วย  เขาเป็นเพื่อนกับนักบุญยอห์น มารีย์  เวียนเนย์  เจ้าอาวาสแห่งอารส์  เพราะคุณพ่อเวียนเนย์ เป็นอธิการของคณะ Society of Mary ในปี 1845  และปีเตอร์ก็เป็นสมาชิกในคณะนี้เช่นกัน

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต  ปีเตอร์มีประสบการณ์ซึ่งนักบุญหลายองค์เคยประสบมาก่อน  นั่นคือประสบการณ์ที่นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนเรียกว่า “ค่ำคืนอันมืดมิดของวิญญาณ”  เขารู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างในจิตวิญญาณ  ไม่รู้สึกถึงความยินดีและการปลอบประโลมใจจากพระเป็นเจ้าเลย  ประสบการณ์นี้เป็นการชำระล้างจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์สำหรับผู้ที่รักพระเป็นเจ้าและเป็นพระหรรษทานพิเศษของพระเป็นเจ้า  ความรักอันบริสุทธิ์ของพระเป็นเจ้านำวิญญาณให้ผ่านไปในทะเลทรายเพื่อให้วิญญาณชิดสนิทกับพะองค์มากยิ่งขึ้น  เมื่อถึงช่วงปลายชีวิตของปีเตอร์  เขาได้เดินทางเป็นครั้งสุดท้ายไปที่เมืองลามูร์ บ้านเกิดของเขา  เขาทุกข์ทรมานมากจากอาการชัก  เขาพูดไม่ได้เลย ในวันที่ 1 สิงหาคม 1868  ซึ่งตรงกับวันฉลองนักบุญเปโตรถูกจับล่ามโซ่  เวลานั้นปีเตอร์อายุ 57 ปี  ขณะที่กำลังเพ่งมองไม้กางเขน  เขาก็สิ้นลมหายใจแต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความยินดี  แม้แต่ในเวลานี้ศพของเขาก็ยังแสดงให้เห็นรอยยิ้มอยู่  เขาสวดภาวนาเสมอว่า “พระเยซูเจ้าข้อ  โปรดครอบครองข้าพเจ้าเถิด  โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นข้ารับใช้อยู่แทบพระบาทแห่งพระบัลลังก์ศีลมหาสนิทเทอญ”

ปีเตอร์ได้รับเกียรติในการประกาศให้เป็นนักบุญโดยพระสันตะปาปายอห์นที่ 23 ในวันที่ 9 ธันวาคม  1962  พระสันตะปาปาทรงเรียกปีเตอร์ว่าเป็น “อัครสาวกแห่งศีลมหาสนิท”
นักบุญปีเตอร์ จูเลียน  เอียมาร์ด ช่วยวิงวอนเพื่อพวกเราเทอญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น