นักบุญคัทรินแห่งเจนัว บอกเราว่า “วิญญาณที่อยู่ในไฟชำระได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจนสุดจะพรรณนา
คนที่ฉลาดที่สุดก็ยังไม่สามารถจินตนาการได้ถึงความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับ
เว้นแต่พระเป็นเจ้าจะทรงเปิดเผยให้ทราบด้วยพระหรรษทานพิเศษเท่านั้น”
ในปี 1873 ซิสเตอร์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ผู้หนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ แต่ใช้เพียงนามสมมุติว่า Sister M. de L.C. เธออยู่ในคอนแวนต์ที่ฝรั่งเศส
เธอเริ่มได้ยินเสียงถอนหายใจยาวๆอยู่ใกล้ๆตัวเธอ เสียงนี้มาจากบางคนที่มองไม่เห็นซึ่งเข้ามาใกล้เธอ ในเดือนกุมภาพันธ์ 1874
หลังจากซิสเตอร์ผู้นี้สวดภาวนามากมายและรับศีลมหาสนิทหลายครั้ง บุคคลที่มองไม่เห็นผู้นั้นก็ปรากฏแก่ซิสเตอร์ M และแจ้งให้ทราบว่าเธอเป็นวิญญาณของซิสเตอร์ผู้หนึ่งที่เคยอยู่ในคอนแวนต์นี้แต่เสียชีวิตไปนานแล้วและเวลานี้ยังอยู่ในไฟชำระ ซึ่งเราจะเรียกชื่อซิสเตอร์ผู้นี้ว่า ซิสเตอร์ O
และวิญญาณนี้ได้เปิดเผยให้ทราบเรื่องไฟชำระ
“คนบาปหนาที่ไม่สนใจใยดีในพระเป็นเจ้า
และนักบวชที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตนจะอยู่ในไฟชำระระดับที่ต่ำที่สุด เมื่อพวกเขาอยู่ที่นั่น
คำภาวนาทั้งหลายที่สวดอุทิศให้พวกเขาจะไปไม่ถึงพวกเขา เพราะพวกเขาเมินเฉยไม่สนใจใยดีพระเป็นเจ้าในเวลาที่มีชีวิตอยู่ ดังนั้นในเวลานี้พวกเขาจึงต้องถูกเมินเฉยไม่ได้รับความสนใจเป็นการตอบแทน เพื่อที่พวกเขาจะได้สำนึกและแก้ไขการละเลยและชีวิตที่ไร้ค่าของพวกเขา
มนุษย์ที่อยู่ในโลกไม่สามารถจินตนาการได้ว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นเช่นไร แต่พวกเราที่อยู่ในไฟชำระรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ในพระสภาวะของพระเป็นเจ้า เพราะจิตวิญญาณของพวกเราไม่ได้ยึดติดอยู่กับสิ่งใดๆที่กีดขวางและยึดเราไว้ไม่ให้รับรู้ในความศักดิ์สิทธิ์และสรรพานุภาพของพระเป็นเจ้าและความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พวกเรายอมพลีกรรมเป็นมรณะสักขีด้วยความรัก พลังอันไม่อาจต้านทานได้ดึงดูดเราให้เข้าไปใกล้พระเป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจุดศูนย์กลางของเรา ขณะเดียวกัน
ก็มีพลังอีกอย่างหนึ่งที่ดึงเราให้กลับไปสู่สถานที่แห่งความทุกข์ทรมานของพวกเรา
“พวกเราอยู่ในสถานะที่ไม่อาจทำตามความปรารถนาของเราได้ โอ, ช่างทุกข์ทรมานยิ่งนัก แต่เราก็ยังปรารถนาและไม่มีคำบ่นว่าหรือต่อว่าพระเป็นเจ้าในสถานที่นี้ พวกเราปรารถนาแต่พระประสงค์ของพระเป็นเจ้าเท่านั้น พวกท่านที่อยู่ในโลกไม่สามารถเข้าใจได้หรอกว่า พวกเราต้องทนรับอะไรบ้าง
ฉันได้รับความบรรเทาเป็นอย่างมากเมื่อฉันไม่ได้อยู่ในไฟอีกต่อไปแล้ว เวลานี้ฉันปรารถนาแต่เพียงอย่างเดียวคือได้เห็นพระเป็นเจ้าเท่านั้น ความทุกข์ทรมานนั้นโหดร้ายแสนสาหัสจริงๆ
แต่ฉันรู้สึกได้ว่าการถูกเนรเทศของฉันใกล้จะสิ้นสุดลง และในไม่ช้าฉันจะได้ออกจากสถานที่แห่งนี้
สถานที่ซึ่งฉันมีความปรารถนาในพระเป็นเจ้าอย่างสุดหัวใจของฉัน
“ฉันจะอธิบายให้เธอทราบถึงระดับต่างๆของไฟชำระ เพราะฉันได้ผ่านพวกมันมาแล้ว ในไฟชำระอันยิ่งใหญ่นี้มีหลายระดับ ระดับที่ต่ำที่สุดและเจ็บปวดทรมานที่สุด เหมือนกับเป็นนรกชั่วคราว
เป็นสถานที่สำหรับคนบาปที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรงน่าสยดสยองเมื่อมีชีวิตบนโลกและความตายทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่เขามาอยู่ในสถานที่นี้ มันเกือบเป็นเหมือนปาฏิหารย์ที่พวกเขาได้รับความรอด บ่อยครั้งเป็นเพราะการสวดภาวนาของพ่อแม่ผู้ศรัทธาหรือบุคคลอื่นที่มีใจศรัทธา บางครั้งพวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะสารภาพบาป
และโลกคิดว่าพวกเขาได้สูญเสียวิญญาณไปเรียบร้อยแล้ว แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเมตตาหาที่สุดมิได้
ทรงประทานโอกาสแก่พวกเขาให้สำนึกผิดในบาปความผิดของเขาและทำให้พวกเขาคิดถึงความดีบางอย่างที่พวกเขาเคยกระทำในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ สำหรับวิญญาณประเภทนี้ ไฟชำระเป็นสถานที่อันทารุณโหดร้ายยิ่งนัก มันคือนรกอย่างแท้จริง แต่มีความแตกต่างกัน คือในนรกพวกเขาจะสาปแช่งพระเป็นเจ้า แต่ในสถานที่นี้ในไฟชำระพวกเราสรรเสริญพระเป็นเจ้าและขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยพวกเราให้ได้รับความรอด
“ติดกับสถานที่แห่งนี้คือสถานที่สำหรับวิญญาณที่คิดว่าพวกเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมเหมือนคนอื่นๆ แต่พวกเขาไม่สนใจใยดีในพระเป็นเจ้า พวกเขาไม่ได้กระทำกิจการที่ต้องทำตามหน้าที่ของเขาและได้กลับใจในเวลาที่ใกล้ตาย บางทีพวกเขาไม่มีโอกาสได้รับศีลมหาสนิทในเวลาใกล้ตาย พวกเขาต้องมาอยู่ในสถานที่นี้นานเท่ากับจำนวนเวลาที่พวกเขาไม่สนใจใยดีในพระเป็นเจ้า
พวกเขาได้รับความเจ็บปวดและถูกละทิ้งโดยปราศจากการสวดภาวนาอุทิศให้ หรือถ้ามีใครสวดภาวนาอุทิศแก่พวกเขา พวกเขาก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากคำภาวนานั้น.
“ในไฟชำระระดับที่สอง
เป็นสถานที่สำหรับคนที่ตายในบาปเบาที่ไม่ได้รับการอภัยบาปก่อนตาย หรือทำบาปหนักที่ได้รับการอภัยบาปแล้วแต่ยังไม่ได้ทำการใช้โทษบาปอย่างสาสมกับบาปนั้นๆตามพระยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์
ในไฟชำระระดับนี้ก็ยังมีระดับที่แตกต่างกันไปอีกตามสถานะของวิญญาณแต่ละดวง
“สุดท้าย คือสถานที่ไฟชำระแห่งความปรารถนาที่เรียกว่าธรณีประตู มีวิญญาณไม่มากนักที่หลีกหนีสถานที่นี้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงมันได้ วิญญาณต้องมีความปรารถนาอย่างยิ่งยวดในสวรรค์และในการได้เห็นพระเป็นเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก
ยากเกินกว่าที่คนเราคิด
เพราะแม้แต่คนที่ศรัทธามากที่สุดก็ยังมีความเกรงกลัวพระเป็นเจ้าและยังมีความปรารถนาไม่แรงกล้าเพียงพอที่จะไปสู่สวรรค์ได้ ไฟชำระในระดับนี้เป็นความเจ็บปวดทุกข์ทรมานขั้นสูงสุดในระดับของมรณะสักขีเช่นเดียวกับในระดับอื่นๆ การถูกกีดกันไม่ได้เห็นพระเยซูเจ้าสุดที่รักของพวกเราเพิ่มเติมความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของพวกเราให้สาหัสเข้าไปอีก มันเป็นมรณะสักขีอย่างต่อเนื่อง มันทำให้ฉันเจ็บปวดยิ่งกว่าถูกไฟเผาผลาญในไฟชำระเสียอีก ในสวรรค์ช่างสวยงามยิ่งนัก
มีระยะทางที่ห่างมากระหว่างไฟชำระกับสวรรค์
พวกเราได้รับสิทธิพิเศษในการได้เห็นสวรรค์ชั่วครู่หนึ่ง ได้เห็นความสุขความชื่นชมยินดีสุดพรรณนา แต่นั่นเหมือนเป็นการลงโทษด้วย เพราะทำให้จิตใจของเรากระหายเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นพระเป็นเจ้า ในสวรรค์เป็นความยินดีที่บริสุทธิ์ ในไฟชำระเป็นความมืดสนิท โอ ฉันปรารถนาที่จะไปสวรรค์มากเหลือเกิน ความทุกข์ทรมานและมรณะสักขีอะไรเช่นนี้หนอที่ทำให้เราได้เห็นพระเป็นเจ้า”
*****************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น