วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

ความเป็นไปได้ที่อุกาบาติจะพุ่งชนโลก


พระคัมภีร์ได้ทำนายถึงการที่อุกาบาติพุ่งชนโลกหรือไม่?

นาซ่าบอกว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

            15 ก.พ. วันที่ 2013  มีอุกาบาติที่ไม่ถูกตรวจจับพุ่งเข้าใกล้โลก  มันมีน้ำหนักประมาณ 14,000 ตัน  วิ่งแฉลบไปในอากาศอย่างรวดเร็วทำมุมแคบๆกับโลก  จึงไม่ปะทะกับโลกตรงๆ  อุกาบาติระเบิดในอากาศเหนือท้องฟ้าซึ่งอยู่ในเขตเมือง  ส่งผลให้มีประชาชนหลายคนได้รับบาดเจ็บและต้องส่งตัวไปโรงพยาบาล

            เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันในป่าของทุ่งราบทังกัสกา ของรัสเซีย เมื่อหลายสิบปีก่อน  ทำให้ป่าไม้พังราบเรียบเป็นอาณาเขตกว้างถึง 2,000 ตร.กม.          


            ด้วยเหตุนี้ทางองค์การนาซ่า  จึงได้ริเริ่มโครงการที่จะหาวิธีรับมือกับวิกฤตการณ์อุกาบาติพุ่งชนโลก  ซึ่งมีหลายวิธีเช่น  ทำให้วิถีโคจรของอุกาบาตรเปลี่ยนทิศทาง  หรือระเบิดอุกาบาติเสียเลยในอวกาศ  และวิธีการอื่นๆ  แต่วิธีการเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลานาน  แล้วถ้าหากมีเวลาไม่พอล่ะ  จะทำอย่างไร?   ถ้าไม่มีเวลาที่จะส่งจรวดขึ้นไปปฏิบัติการตามวิธีดังกล่าว  จะมีวิธีอื่นอีกหรือไม่?

            คำตอบก็คือ  ไม่มีวิธีการอื่นอีก  เราทำได้แต่เพียงหาวิธีรักษาชีวิตของผู้คนให้ได้มากที่สุดเท่านั้น  ชีวิตคงต้องดำเนินต่อไปหลังจากการชนของอุกาบาติ  ผู้ที่เอาชีวิตรอดได้ในช่วงเวลานั้นก็คงเป็นคนที่มีอำนาจและเงินมากพอที่จะซื้อ/สร้างที่หลบภัย  และต้องเป็นคนที่ได้รับคำเตือนและรู้ล่วงหน้า

             คนอื่นๆนอกจากนี้ก็คงทำได้อย่างเดียวคือ สวดภาวนาและรอความตาย

            โลกอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยจากเหตุการณ์ถูกอุกาบาติขนาดใหญ่ชนหรือไม่?  ทางนาซ่าคิดว่าสิ่งนี้คงต้องเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

            นาซ่ายังคงค้นหาวัตถุขนาดใหญ่ที่อาจเข้ามาพุ่งชนโลก  หลายครั้งที่มีวัตถุพุ่งเฉียดโลกไป  นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าจำนวนของดาวเคราะห์น้อยในระบบสุริยะของเรานี้มีจำนวนมากสักเพียงใด  เราอาจคิดว่าอวกาศนั้นกว้างใหญ่ไพศาลและว่างเปล่า  แต่แท้จริงแล้ว  ในอวกาศรอบๆโลกเต็มไปด้วยวัตถุชิ้นเล็กๆซึ่งเป็นเศษซากของจรวดที่ส่งขึ้นไปและหมดอายุแล้ว  มันลอยอยู่ในอวกาศรอบโลก  วัตถุบางชิ้นก็ตรวจจับได้  และวัตถุบางชิ้นก็ยังตรวจไม่พบและมันอาจจะฆ่าเราได้

            นาซ่าตรวจหาวัตถุต่างๆในอวกาศอย่างต่อเนื่อง  แต่ถ้าพวกเขาเจอวัตถุสักชิ้นที่อยู่ในวิถีพุ่งชน  ก็ไม่มีการรับประกันว่าพวกเขาจะแจ้งให้เรารู้

            เหตุการณ์อุกาบาติขนาดใหญ่พุ่งชนโลกนี้  จะเป็นสิ่งที่ พระคัมภีร์วิวรณ์บทที่ 8 ได้กล่าวไว้ใช่หรือไม่?  พระคัมภีร์กล่าวไว้ดังนี้
ตราผนึกดวงที่เจ็ด

          เมื่อลูกแกะทรงเปิดตราผนึกดวงที่เจ็ด เกิดความเงียบในสวรรค์เป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

 การอธิษฐานภาวนาของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์

ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าได้รับแตรเจ็ดคัน  ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งถือถาดทองคำสำหรับเผากำยานถวาย มายืนอยู่หน้าพระแท่นบูชา ทูตสวรรค์องค์นี้ได้รับกำยานมา เพื่อถวายร่วมกับคำอธิษฐานภาวนาของผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายบนพระแท่นทองคำ ซึ่งอยู่หน้าพระบัลลังก์  ควันของกำยานจากมือของทูตสวรรค์พร้อมกับคำอธิษฐานภาวนาของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ลอยขึ้นไปเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า  ทูตสวรรค์นำถาดทองคำสำหรับเผากำยานมาตักถ่านไฟจากพระแท่นบูชาจนเต็ม แล้วโยนลงไปบนแผ่นดิน ทันใดนั้นก็เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้องเสียงดัง และแผ่นดินไหวทรงเปิดตราผนึกดวงที่เจ็ด เกิดความเงียบในสวรรค์เป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

แตรสี่คันแรก

ทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดองค์ที่ถือแตรเจ็ดคัน เตรียมเป่าแตร  ทูตสวรรค์องค์แรกเป่าแตร ลูกเห็บและไฟผสมกับเลือดตกลงมายังแผ่นดิน หนึ่งในสามของแผ่นดินลุกไหม้ หนึ่งในสามของต้นไม้ลุกไหม้ และหญ้าเขียวทั้งหมดก็ลุกไหม้ด้วยd  ทูตสวรรค์องค์ที่สองเป่าแตร ไฟลูกใหญ่เท่าภูเขาตกลงไปในทะเล หนึ่งในสามของทะเลกลายเป็นเลือด  หนึ่งในสามของสัตว์ทะเลตาย และหนึ่งในสามของบรรดาเรือก็ถูกทำลาย     ทูตสวรรค์องค์ที่สามเป่าแตร ดาวใหญ่ดวงหนึ่งลุกเป็นไฟเหมือนคบเพลิงตกจากท้องฟ้าลงไปยังหนึ่งในสามของแม่น้ำและตาน้ำทั้งหลาย ดาวดวงนี้มีชื่อว่า "บอระเพ็ด" และหนึ่งในสามของน้ำก็กลายเป็นบอระเพ็ด มนุษย์จำนวนมากตาย เพราะน้ำมีรสขมมาก  ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เป่าแตร หนึ่งในสามของดวงอาทิตย์ หนึ่งในสามของดวงจันทร์และหนึ่งในสามของดวงดาวถูกทำลายจนมืดไปหนึ่งในสาม กลางวันดับมืดลงหนึ่งในสาม และกลางคืนก็ดับมืดลงหนึ่งในสามเช่นเดียวกัน

          ข้าพเจ้าเห็นและได้ยินเสียงนกอินทรีตัวหนึ่งที่บินอยู่กลางท้องฟ้าร้องเสียงดังว่า "วิบัติ วิบัติ วิบัติจงเกิดแก่ผู้อาศัยอยู่บนแผ่นดิน เพราะทูตสวรรค์อีกสามองค์กำลังจะเป่าแตร"

-----------------

ตราประทับดวงที่เจ็ดถูกเปิดออกแล้วใช่ไหม?  วาระสุดท้ายใกล้เข้ามาแล้วหรือ  และอุกาบาติขนาดใหญ่จะพุ่งชนโลกหรือไม่?

ทุกๆวัน มีอุกาบาติขนาดเล็กวิ่งเฉียดโลก  อุกาบาติหนึ่งในนั้นสามารถทำอันตรายเราได้ถ้าหากมันชนเข้าในสถานที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่  แต่เจ้าหน้าที่ของนาซ่าจะยอมรับว่ามีการตรวจจับสิ่งนี้ได้หรือ  และเป็นไปไม่ได้ที่ตรวจจับอุกาบาติที่พุ่งมาจากทิศของดวงอาทิตย์

มีกล้องโทรทรรศน์ที่ส่องดูดวงอาทิตย์และดาวต่างๆในหลายองศา  แต่กล้องโทรทรรศน์เหล่านี้ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับตรวจหาอุกาบาติหรือดาวเคราะห์น้อย

มีความเป็นไปได้ที่วัตถุในอวกาศจะพุ่งตรงมาที่โลกและมันจะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงเหมือนที่พระคัมภีร์ได้บรรยาย  นักบินอวกาศจะบอกคุณได้ว่าเหตุการณ์นี้มีความเป็นไปได้อย่างมาก  อย่างไรก็ตาม  เราไม่อาจบอกได้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร  อาจเกิดในวันนี้  วันพรุ่งนี้  หรือในอีกหลายพันปีข้างหน้า

แต่มันจะเกิดขึ้นแน่  และคำถามก็คือ  คุณพร้อมแล้วหรือยังเมื่อวันนั้นมาถึง?
 

------------------------

29 มิ.ย. 2014 - สื่อต่างประเทศรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเซาท์แฮมป์ตันของอังกฤษ ต่างพากันคาดคะเน หลังจากมีเหตุการณ์ ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ 2011 MD พุ่งเฉียดโลกแค่ 7,600 ไมล์ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า นีโออิมแพคเตอร์ เป็นซอฟต์แวร์สำหรับโครงการศึกษากรณีวัตถุใกล้โลกของนาซา
        โดยรายงาน
ข่าวแจ้งว่า กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ออกมาเปิดเผยถึง 10 ประเทศที่เสี่ยงได้รับผลกระทบรุนแรง หากมีเหตุดาวเคราะห์พุ่งชนโลก ได้แก่

- จีน
- อินโดนีเซีย
- อินเดีย
- ญี่ปุ่น
- สหรัฐฯ
- ฟิลิปปินส์
- อิตาลี
- สหราชอาณาจักร
- บราซิล
- ไนจีเรีย

        โดยหากดูจากจำนวนการสูญเสียชีวิตของพลเรือน สหรัฐฯ จีน อินโดนีเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียมากที่สุด ส่วนการสูญเสียโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุด คือ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น สวีเดน

        ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวเตือนว่า ประเทศเหล่านี้จะได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุด ต้องสูญเสียชีวิตผู้คนจำนวนนมหาศาล และได้รับความเสียหายจนแทบไม่สามารถฟื้นฟูคืนมาได้เลย ในมหันตภัยดาวเคราะห์ชนโลกที่ส่อแววใกล้เข้ามา

---------------------


วีดีโอจำลองภาพการชนของอุกาบาติขนาดใหญ่เกือบเท่ากับดวงจันทร์ซึ่งคงเป็นไปได้ยาก  แต่ถ้าอุกาบาติขนาดเล็กกว่าก็มีทางเป็นไปได้มากกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น