วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559

คุณแม่เทเรซาได้รับนิมิตจากพระเยซูเจ้า


นิมิตแรก   ของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ท่านเห็นตัวเองถูกห้อมล้อมด้วย "เด็กๆและคนที่ยากจนที่สุด" คนเหล่านั้นกำลังร้องว่า "โปรดมาหาเรา,โปรดช่วยพวกเรา --- โปรดนำเราไปหาพระเยซูเจ้าด้วย"

เสียงที่ท่านได้ยินภายในจิตใจนี้ (locutions) เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน 1946 ขณะที่ท่านนั่งอยู่ในรถไฟ ท่านได้ยินเสียงของพระเยซูเจ้าตรัสขอร้องให้ท่านไปทำงานที่สลัมในอินเดีย.

พระองค์ทรงเรียกท่านว่า "เจ้าสาวของเรา" หรือ "เด็กน้อยของเรา" - คล้ายกับผู้เห็นนิมิตหลายคนซึ่งได้บรรยายว่าพระเยซูเจ้าเรียกเขาเช่นนี้เหมือนกัน (แม่พระเรียก "เด็กๆที่รักของแม่") สาส์นต่อมาของท่านเริ่มในราวๆช่วงกลางปี. คุณแม่เทเรซามักจะบอกว่าเป็น"เสียง" แต่ท่านก็ไม่มีความสงสัยเลย ท่านเชื่อแน่ว่าเป็นพระเยซูเจ้า.

พระเยซูเจ้าตรัสเรียกท่าน "มาเถิด, จงนำเราไปอยู่ท่ามกลางคนยากจน" พระองค์ทรงขอร้องต่อคุณแม่. "จงมาเป็นแสงสว่างของเราเถิด" ("Come, be My light.")

จากหนังสือ "Come, be My light." นอกจากคุณแม่ได้ยินเสียงของพระเยซูเจ้าแล้ว ท่านยังได้ยินเสียงของแม่พระด้วย

นิมิตครั้งที่สองนี้เอง  ที่ได้ทำให้ท่านรับรู้ถึงความทุกข์ลำบากและความเศร้าโศกของบรรดาคนยากจนที่น่าสงสาร. คุณแม่รู้สึกใกล้ชิดแม่พระมากขึ้น พระนางขอร้องเธอ "จงนำพวกเขามาหาพระเยซูเจ้า - และนำพระเยซูเจ้าไปหาพวกเขา"
 
             นิมิตครั้งที่สาม   คุณแม่เห็นฝูงชน "ถูกห้อมล้อมด้วยความมืด" และพระเยซูเจ้าอยู่บนกางเขน.

             สุรเสียงของพระองค์ได้ตรัสเตือนเธอว่า "เราได้ขอร้องลูกแล้ว, พวกเขาได้ขอร้องลูกแล้ว และพระนางก็ได้ขอร้องลูกด้วยเช่นกัน"

             "ลูกจะปฏิเสธที่จะทำสิ่งนี้เพื่อเราเชียวหรือ?"

"เราปรารถนาให้นางชีชาวอินเดีย, ผู้เป็นยัญบูชาแห่งความรักของเรา, ผู้ที่เป็นทั้งมารีย์ มักดาลาและมาร์ธา, ผู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา ช่วยแผ่กระจายรังสีแห่งความรักของเราให้แก่วิญญาณทั้งหลาย"

คุณแม่ได้ยินพระองค์ตรัสว่า "เราต้องการนางชีที่เป็นอิสระซึ่งสวมใส่ความยากจนแห่งกางเขน"

"เราต้องการนางชีผู้มีความเชื่อฟังที่สวมใส่ความนบนอบแห่งกางเขน"

"เราต้องการนางชีผู้เปี่ยมด้วยความรักซึ่งสวมใส่ความเมตตาแห่งกางเขน"

"ลูกจะปฏิเสธที่จะทำสิ่งนี้เพื่อเราเชียวหรือ?"

พระองค์ทรงสัญญาว่าภารกิจนี้จะไม่หนักมากเกินไปสำหรับเธอ. เธอไม่ต้องพลีชีพเพื่อชดเชยบาปแทนคนอื่นเหมือนกับพระองค์. แต่เธอจะได้รับความทุกข์ลำบากเพราะกระแสเรียกนี้ - และคุณแม่ก็ได้รับจริงๆ, คุณแม่ได้ประสพกับค่ำคืนอันมืดมิดของวิญญาณ นั่นคือความแห้งแล้งในจิตใจเนื่องจากการไม่ได้สัมผัสรับรู้ถึงพระองค์.

"กระแสเรียกครั้งที่สองซึ่งมาจากพระเยซูเจ้าและฝูงชนยังคงสะท้อนกังวานในดวงใจของคุณแม่เทเรซาจนตราบวาระสุดท้ายของชีวิต" คุณพ่อ ไบรอัน โคโลเดอชุก กล่าวในข้อเขียนของท่าน. จากหนังสือของท่านซึ่งบรรยายถึงค่ำคืนอันมืดมิดของวิญญาณของคุณแม่ทำให้บางคนนำมาเบี่ยงเบนประเด็น ให้กลายเป็นว่า คุณแม่มีความสงสัยในพระเจ้า   เพราะพวกเขาไม่เข้าใจในพระวาจาของพระเยซูเจ้าซึ่งตรัสล่วงหน้าไว้แล้วว่าคุณแม่จะประสพกับ "ความทรมานในหัวใจของลูก"

ในระหว่างที่ได้รับนิมิตครั้งแรก, คุณแม่กล่าวว่า ยิ่งท่านสวดภาวนา, ท่านก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดเจนมากขึ้น ท่านยืนยันเช่นนี้และเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าท่านจดจำทุกคำพูดของพระองค์ได้อย่างแม่นยำ แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของท่าน.

เราได้เห็นถึงกิจการอันเหลือเชื่อและน่าอัศจรรย์ใจที่คุณแม่ได้กระทำแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ในความเป็นนักบุญของคุณแม่เทเรซาได้เป็นอย่างดี    และวันหนึ่งในภายหน้า, กิจการเหล่านี้จะเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่แสดงให้เราเห็นถึงภารกิจแห่งพระเมตตาของพระเป็นเจ้า.

********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น