นิมิตแรก ของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ท่านเห็นตัวเองถูกห้อมล้อมด้วย
"เด็กๆและคนที่ยากจนที่สุด" คนเหล่านั้นกำลังร้องว่า "โปรดมาหาเรา,โปรดช่วยพวกเรา --- โปรดนำเราไปหาพระเยซูเจ้าด้วย"
เสียงที่ท่านได้ยินภายในจิตใจนี้
(locutions) เริ่มขึ้นเมื่อวันที่
10 กันยายน 1946 ขณะที่ท่านนั่งอยู่ในรถไฟ
ท่านได้ยินเสียงของพระเยซูเจ้าตรัสขอร้องให้ท่านไปทำงานที่สลัมในอินเดีย.
พระองค์ทรงเรียกท่านว่า
"เจ้าสาวของเรา" หรือ "เด็กน้อยของเรา" -
คล้ายกับผู้เห็นนิมิตหลายคนซึ่งได้บรรยายว่าพระเยซูเจ้าเรียกเขาเช่นนี้เหมือนกัน
(แม่พระเรียก "เด็กๆที่รักของแม่") สาส์นต่อมาของท่านเริ่มในราวๆช่วงกลางปี.
คุณแม่เทเรซามักจะบอกว่าเป็น"เสียง" แต่ท่านก็ไม่มีความสงสัยเลย ท่านเชื่อแน่ว่าเป็นพระเยซูเจ้า.
พระเยซูเจ้าตรัสเรียกท่าน
"มาเถิด, จงนำเราไปอยู่ท่ามกลางคนยากจน"
พระองค์ทรงขอร้องต่อคุณแม่. "จงมาเป็นแสงสว่างของเราเถิด" ("Come,
be My light.")
จากหนังสือ
"Come, be My light." นอกจากคุณแม่ได้ยินเสียงของพระเยซูเจ้าแล้ว ท่านยังได้ยินเสียงของแม่พระด้วย
นิมิตครั้งที่สองนี้เอง ที่ได้ทำให้ท่านรับรู้ถึงความทุกข์ลำบากและความเศร้าโศกของบรรดาคนยากจนที่น่าสงสาร.
คุณแม่รู้สึกใกล้ชิดแม่พระมากขึ้น พระนางขอร้องเธอ
"จงนำพวกเขามาหาพระเยซูเจ้า - และนำพระเยซูเจ้าไปหาพวกเขา"
นิมิตครั้งที่สาม
คุณแม่เห็นฝูงชน "ถูกห้อมล้อมด้วยความมืด"
และพระเยซูเจ้าอยู่บนกางเขน.
สุรเสียงของพระองค์ได้ตรัสเตือนเธอว่า
"เราได้ขอร้องลูกแล้ว, พวกเขาได้ขอร้องลูกแล้ว
และพระนางก็ได้ขอร้องลูกด้วยเช่นกัน"
"ลูกจะปฏิเสธที่จะทำสิ่งนี้เพื่อเราเชียวหรือ?"
"เราปรารถนาให้นางชีชาวอินเดีย, ผู้เป็นยัญบูชาแห่งความรักของเรา,
ผู้ที่เป็นทั้งมารีย์ มักดาลาและมาร์ธา, ผู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับเรา
ช่วยแผ่กระจายรังสีแห่งความรักของเราให้แก่วิญญาณทั้งหลาย"
คุณแม่ได้ยินพระองค์ตรัสว่า
"เราต้องการนางชีที่เป็นอิสระซึ่งสวมใส่ความยากจนแห่งกางเขน"
"เราต้องการนางชีผู้มีความเชื่อฟังที่สวมใส่ความนบนอบแห่งกางเขน"
"เราต้องการนางชีผู้เปี่ยมด้วยความรักซึ่งสวมใส่ความเมตตาแห่งกางเขน"
"ลูกจะปฏิเสธที่จะทำสิ่งนี้เพื่อเราเชียวหรือ?"
พระองค์ทรงสัญญาว่าภารกิจนี้จะไม่หนักมากเกินไปสำหรับเธอ.
เธอไม่ต้องพลีชีพเพื่อชดเชยบาปแทนคนอื่นเหมือนกับพระองค์. แต่เธอจะได้รับความทุกข์ลำบากเพราะกระแสเรียกนี้
- และคุณแม่ก็ได้รับจริงๆ, คุณแม่ได้ประสพกับค่ำคืนอันมืดมิดของวิญญาณ
นั่นคือความแห้งแล้งในจิตใจเนื่องจากการไม่ได้สัมผัสรับรู้ถึงพระองค์.
"กระแสเรียกครั้งที่สองซึ่งมาจากพระเยซูเจ้าและฝูงชนยังคงสะท้อนกังวานในดวงใจของคุณแม่เทเรซาจนตราบวาระสุดท้ายของชีวิต"
คุณพ่อ ไบรอัน โคโลเดอชุก กล่าวในข้อเขียนของท่าน. จากหนังสือของท่านซึ่งบรรยายถึงค่ำคืนอันมืดมิดของวิญญาณของคุณแม่ทำให้บางคนนำมาเบี่ยงเบนประเด็น
ให้กลายเป็นว่า คุณแม่มีความสงสัยในพระเจ้า เพราะพวกเขาไม่เข้าใจในพระวาจาของพระเยซูเจ้าซึ่งตรัสล่วงหน้าไว้แล้วว่าคุณแม่จะประสพกับ
"ความทรมานในหัวใจของลูก"
ในระหว่างที่ได้รับนิมิตครั้งแรก, คุณแม่กล่าวว่า ยิ่งท่านสวดภาวนา, ท่านก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดเจนมากขึ้น ท่านยืนยันเช่นนี้และเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าท่านจดจำทุกคำพูดของพระองค์ได้อย่างแม่นยำ
แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของท่าน.
เราได้เห็นถึงกิจการอันเหลือเชื่อและน่าอัศจรรย์ใจที่คุณแม่ได้กระทำแล้ว
สิ่งเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ในความเป็นนักบุญของคุณแม่เทเรซาได้เป็นอย่างดี และวันหนึ่งในภายหน้า, กิจการเหล่านี้จะเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่แสดงให้เราเห็นถึงภารกิจแห่งพระเมตตาของพระเป็นเจ้า.
********************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น