“ดูเถิด
เรายืนอยู่หน้าประตูและเคาะเรียกอยู่” (วว
3:20)
(พิจารณาไตร่ตรองจากคำสอนฝ่ายจิตของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา)
--------------------------
นี่เป็นความจริง เรายืนอยู่หน้าประตูหัวใจของลูก ทั้งวันทั้งคืน แม้แต่เวลาที่ลูกไม่ได้ฟังเรา แม้แต่เวลาที่ลูกสงสัยว่าใช่เราหรือไม่? เราอยู่ที่นั่น เรารอคอยอยู่
รอคอยการสนองตอบของลูกแม้จะเป็นสัญญาณที่เล็กน้อยที่สุด แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบที่เชื้อเชิญเราให้เข้าไปข้างใน
และเราต้องการให้ลูกรู้ว่าเมื่อลูกเชื้อเชิญให้เราเข้าไปแล้ว เราจะมาเสมอไม่ยอมพลาด เรามาอย่างเงียบๆและไม่อาจมองเห็นได้ แต่เรามาด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่และด้วยความรัก เรานำของขวัญฝ่ายจิตมากมายมาด้วย เรามาด้วยพระเมตตาของเรา
ด้วยความปรารถนาที่จะให้อภัยและเยียวยารักษาลูกด้วยความรัก อันเป็นสิ่งที่เกินความเข้าใจของลูก – ทุกส่วนของความรักแม้เล็กน้อยที่สุดก็ยังยิ่งใหญ่เทียบเท่าความรักที่เราได้รับจากพระบิดา
(เรารักลูกมากเทียบเท่ากับที่พระบิดาทรงรักเรา......ยน. 15:9)
เราปรารถนาที่จะปลอบประโลมใจลูกและให้พละกำลังแก่ลูก เพื่อพยุงลูกให้ลุกขึ้นและรักษาแผลทั้งหมดของลูก เรานำแสงสว่างของเรามาให้ลูก
เพื่อขับไล่ความมืดมิดของลูกและความสงสัยทั้งหมดขอลูก เรามาพร้อมกับฤทธานุภาพของเรา เพื่อที่เราจะโอบอุ้มลูกและแบกภาระหนักทั้งหมดของลูกไว้ โดยอาศัยพระหรรษทานของเรา
เพื่อที่เราจะสัมผัสหัวใจของลูกและเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกได้ เราจะประทานสันติภาพในจิตวิญญาณของลูก
เรารู้จักลูกเป็นอย่างดี เรารู้เรื่องทุกเรื่องเกี่ยวกับลูก แม้แต่เส้นผมทุกเส้นของลูกเราก็นับไว้แล้ว
ไม่มีสิ่งใดในชีวิตของลูกที่ไม่สำคัญสำหรับเรา เราติดตามลูกมาตลอดเป็นเวลาหลายปีและเรารักลูกเสมอ แม้แต่เวลาที่ลูกหลงทางไป เรารู้ปัญหาทุกอย่างของลูก เรารู้ความต้องการของลูกและรู้ความวิตกกังวลของลูก และใช่แล้ว
เรารู้ถึงบาปทุกประการของลูกด้วย
แต่เราขอบอกลูกอีกครั้งหนึ่งว่าเรารักลูก
ไม่ใช่เพราะในสิ่งที่ลูกมีหรือสิ่งที่ลูกไม่ได้กระทำ เรารักลูกก็เพราะเป็นลูก
เพราะศักดิ์ศรีและความงามที่พระบิดาของเราทรงประทานแก่ลูกโดยการสร้างลูกให้เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์ มันเป็นศักดิ์ศรีที่ลูกมักจะละลืมไปเสียบ่อยๆ
ความงามของลูกที่ลูกทำให้เสื่อมเสียไปด้วยบาป แต่เรารักลูกตามที่ลูกเป็น และเราได้หลั่งโลหิตของเราเพื่อนำลูกกลับมา ถ้าเพียงแต่ลูกจะวอนขอต่อเราด้วยความเชื่อ พระหรรษทานของเราเป็นสิ่งจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูก
และเราจะทำให้ลูกมีพลังที่จะทำให้ลูกเป็นอิสระจากบาปและอำนาจที่ชั่วร้าย
เรารู้ว่ามีอะไรอยู่ในหัวใจของลูกบ้าง เรารู้ถึงความโดดเดี่ยวและความเจ็บปวดทุกอย่างของลูก การถูกปฏิเสธ
การถูกตัดสิน ความอัปยศอดสู เราจะแบกมันไว้เพื่อลูก
ดังนั้นลูกจะมีส่วนในพละกำลังและชัยชนะของเรา เรารู้ถึงความต้องการความรักของลูกเป็นพิเศษ ความกระหายหาอย่างไร้ผล ด้วยการแสวงหาความรักอย่างเห็นแก่ตัว พยายามเติมเต็มความว่างเปล่าในตัวลูกด้วยความพึงพอใจที่ไม่ยั่งยืนซึ่งจะผ่านพ้นไป เติมเต็มด้วยสิ่งที่แม้จะเป็นบาปก็ตาม ลูกกระหายหาความรักใช่ไหม? “มาหาเราเถิด
พวกลูกทุกคนที่กระหาย...”(ยน. 7:37) เราจะทำให้ลูกอิ่มใจและเติมเต็มลูก ลูกกระหายที่จะเป็นที่รักใช่ไหม? เราจะรักลูกมากเกินกว่าที่ลูกจะคิดได้เสียอีกรักมากจนเรายอมตายบนไม้กางเขนเพื่อลูก
เรากระหายในตัวลูก ใช่แล้ว
นั่นเป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถอธิบายความรักของเราต่อลูกได้ เรากระหายในตัวลูก เรากระหายที่จะรักลูกและที่จะให้ลูกรักเรา นั่นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของลูกสำหรับเรา เรากระหายในตัวลูก จงมาหาเราและเราจะเติมเต็มหัวใจของลูกและเยียวยารักษาบาดแผลของลูก
เราจะทำให้ลูกเป็นสิ่งสร้างใหม่ของเราและจะประทานสันติภาพให้ แม้แต่ในเวลาที่ลูกถูกทดสอบ เรากระหายในตัวลูก ลูกต้องไม่สงสัยในพระเมตตาของเรา การที่เรายอมรับลูก ความปรารถนาที่จะให้อภัยลูก ความปรารถนาของเราที่จะอวยพรลูกและการที่เราดำรงอยู่ในตัวลูก เรากระหายในตัวลูก ถ้าลูกรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าในสายตาของโลก นั่นไม่ใช่เป็นปัญหาเลย สำหรับเราแล้ว
ไม่มีใครสำคัญเท่าลูกอีกแล้วในโลกนี้
เรากระหายในตัวลูก
จงเปิดใจให้เรา
จงมาหาเรา จงกระหายในเรา มอบชีวิตของลูกแก่เรา แล้วเราจะพิสูจน์ให้ลูกเห็นว่าลูกมีความสำคัญมากสักเพียงไรต่อดวงพระทัยของเรา
ลูกไม่ตระหนักหรือว่าพระบิดาของเราทรงเตรียบแผนการอันสมบูรณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกไว้แล้ว ตั้งแต่เวลาเริ่มแรกจนถึงบัดนี้? จงวางใจในเราเถิด วอนขอต่อเราทุกๆวันให้เราเข้าไปในลูกและให้เราทำงานในชีวิตของลูก
เราขอสัญญาเบื้องพระพักตร์พระบิดาในสวรรค์ว่า เราจะทำอัศจรรย์ในชีวิตของลูก ทำไมเราจึงทำต่อลูกเช่นนี้นะหรือ? ก็เพราะ เรากระหายในตัวลูก นะซิ ทุกอย่างที่เราขอต่อลูกก็คือ
ให้ลูกมอบตัวลูกแก่เราอย่างสมบูรณ์ แล้วเราจะทำส่วนที่เหลือเอง
แม้แต่ในเวลานี้ เราก็กำลังมองดูสถานที่ที่พระบิดาของเราได้จัดเตรียมไว้ให้ลูกในพระอาณาจักรของเรา จงจำไว้ว่าลูกเป็นผู้แสวงบุญในชีวิตนี้ เป็นการเดินทางมาสู่บ้านแท้
บาปไม่อาจทำให้ลูกพอใจหรือมอบสันติสุขที่ลูกต้องการให้แก่ลูกได้ สิ่งใดก็ตามที่ลูกเสาะหานอกจากเรา มันจะให้แต่ความว่างเปล่ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจงอย่าไปใส่ใจในสิ่งของในชีวิตนี้เลย เหนือสิ่งอื่นใด จงอย่าวิ่งหนีไปจากเราเมื่อลูกหกล้ม จงมาหาเราโดยไม่ลังเลใจ เมื่อลูกมอบบาปของลูกแก่เรา
ลูกทำให้เรายินดีที่ได้เป็นพระผู้ไถ่ของลูก
ไม่มีบาปใดที่เราไม่สามารถให้อภัยได้หรือไม่อาจเยียวยารักษาได้ ดังนั้นจงมาหาเราเดี๋ยวนี้และปลดเปลื้องจิตวิญญาณของลูก
ไม่ว่าลูกจะหลงไปอยู่ห่างไกลสักแค่ไหน ไม่ว่าลูกจะหลงลืมเราบ่อยครั้งเพียงใด
ไม่ว่าจะมีกางเขนที่ลูกต้องแบกมากสักเพียงไรในชีวิตนี้ เราต้องการให้ลูกจำไว้อย่างหนึ่งซึ้งไม่มีวันเปลี่ยนแปลง นั่นคือ เรากระหายในตัวลูก ตามที่ลูกเป็น
ลูกไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเชื่อในความรักของเรา
เพราะความเชื่อของลูกในความรักของเราจะเปลี่ยนแปลงลูกเอง ลูกหลงลืมเรา
และเรายังคงตามหาลูกตลอดเวลา เรายืนอยู่หน้าประตูหัวใจของลูกและกำลังเคาะเรียก ลูกรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากที่จะเชื่อหรือ? ถ้าเช่นนั้นมองดูที่กางเขนซิ มองดูที่ดวงพระทัยของเราที่ถูกแทงเพื่อลูก ลูกยังไม่เข้าใจในกางเขนของเราอีกหรือ?
ถ้าเช่นนั้นจงฟังวาจาที่เรากล่าวที่บนกางเขนเถิด
วาจาที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าทำไมเราจึงยอมทนทรมานเพื่อลูก “เรากระหาย”....(ยน.
19:28) ใช่แล้ว เรากระหายในตัวลูก ตามที่บทสดุดีได้พูดถึงตัวเราไว้ว่า “เรามองหาความรัก แต่ก็ไม่พบเลย” (สด. 69:22) ตลอดชีวิตของลูก เรามองหาความรักของลูก เราไม่เคยหยุดที่จะแสวงหาหนทางที่จะรักลูกและให้ลูกรักเรา ลูกได้พยายามทำหลายสิ่งหลายอย่างในการแสวงหาความสุข ทำไมไม่ลองเปิดหัวใจให้กับเราบ้างล่ะ? ทำเสียเดี๋ยวนี้ทำให้มากกว่าที่ลูกเคยทำมาแล้ว
เมื่อไรก็ตามที่ลูกเปิดประตูหัวใจของลูก
เมื่อไรก็ตามที่ลูกมาอยู่ใกล้เรามากเพียงพอ ลูกจะได้ยินเราตรัสกับลูกครั้งแล้วครั้งเล่า
ไม่ใช่ด้วยคำพูดของมนุษย์แต่เป็นเสียงของจิตวิญญาณ “ไม่ว่าลูกจะทำอะไรมา เราก็รักลูกเพื่อลูกเอง จงมาหาเราในความวิปโยคและในบาปของลูก ในความยากลำบากและความจำเป็นของลูก และด้วยความปรารถนาทั้งมวลของลูกที่จะได้รับความรัก
เราจะยืนอยู่ที่ประตูหัวใจของลูกและเคาะเรียก...เปิดให้เราเข้าไปเถิด เพราะ เรากระหายในตัวลูก....”
(Missionaries of Charity Fathers)
(พระสงฆ์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม)
---------------------
(พระสงฆ์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม)
“พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้า เพราะฉะนั้นความรักของพระองค์ ความกระหายของพระองค์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างจักรวาล
จงวอนขอให้เรามีความรักต่อสิ่งสร้างทั้งมวลของพระองค์เถิด พระองค์กระหายความรักของพวกเรา....คำคำนี้
“เรากระหาย” ได้สะท้อนก้องอยู่ในจิตวิญญาณของเราหรือไม่?”
(คุณแม่เทเรซา)
-------------------------
-------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น