วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เรากระหาย


 
“ดูเถิด  เรายืนอยู่หน้าประตูและเคาะเรียกอยู่” (วว 3:20)

(พิจารณาไตร่ตรองจากคำสอนฝ่ายจิตของคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา)

                                                                  --------------------------

นี่เป็นความจริง  เรายืนอยู่หน้าประตูหัวใจของลูก  ทั้งวันทั้งคืน  แม้แต่เวลาที่ลูกไม่ได้ฟังเรา  แม้แต่เวลาที่ลูกสงสัยว่าใช่เราหรือไม่?  เราอยู่ที่นั่น  เรารอคอยอยู่  รอคอยการสนองตอบของลูกแม้จะเป็นสัญญาณที่เล็กน้อยที่สุด  แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบที่เชื้อเชิญเราให้เข้าไปข้างใน

และเราต้องการให้ลูกรู้ว่าเมื่อลูกเชื้อเชิญให้เราเข้าไปแล้ว  เราจะมาเสมอไม่ยอมพลาด  เรามาอย่างเงียบๆและไม่อาจมองเห็นได้  แต่เรามาด้วยฤทธานุภาพยิ่งใหญ่และด้วยความรัก  เรานำของขวัญฝ่ายจิตมากมายมาด้วย  เรามาด้วยพระเมตตาของเรา  ด้วยความปรารถนาที่จะให้อภัยและเยียวยารักษาลูกด้วยความรัก  อันเป็นสิ่งที่เกินความเข้าใจของลูก – ทุกส่วนของความรักแม้เล็กน้อยที่สุดก็ยังยิ่งใหญ่เทียบเท่าความรักที่เราได้รับจากพระบิดา  (เรารักลูกมากเทียบเท่ากับที่พระบิดาทรงรักเรา......ยน. 15:9)  เราปรารถนาที่จะปลอบประโลมใจลูกและให้พละกำลังแก่ลูก  เพื่อพยุงลูกให้ลุกขึ้นและรักษาแผลทั้งหมดของลูก  เรานำแสงสว่างของเรามาให้ลูก เพื่อขับไล่ความมืดมิดของลูกและความสงสัยทั้งหมดขอลูก  เรามาพร้อมกับฤทธานุภาพของเรา  เพื่อที่เราจะโอบอุ้มลูกและแบกภาระหนักทั้งหมดของลูกไว้  โดยอาศัยพระหรรษทานของเรา  เพื่อที่เราจะสัมผัสหัวใจของลูกและเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกได้  เราจะประทานสันติภาพในจิตวิญญาณของลูก

เรารู้จักลูกเป็นอย่างดี  เรารู้เรื่องทุกเรื่องเกี่ยวกับลูก  แม้แต่เส้นผมทุกเส้นของลูกเราก็นับไว้แล้ว  ไม่มีสิ่งใดในชีวิตของลูกที่ไม่สำคัญสำหรับเรา  เราติดตามลูกมาตลอดเป็นเวลาหลายปีและเรารักลูกเสมอ  แม้แต่เวลาที่ลูกหลงทางไป  เรารู้ปัญหาทุกอย่างของลูก  เรารู้ความต้องการของลูกและรู้ความวิตกกังวลของลูก  และใช่แล้ว  เรารู้ถึงบาปทุกประการของลูกด้วย  แต่เราขอบอกลูกอีกครั้งหนึ่งว่าเรารักลูก  ไม่ใช่เพราะในสิ่งที่ลูกมีหรือสิ่งที่ลูกไม่ได้กระทำ  เรารักลูกก็เพราะเป็นลูก  เพราะศักดิ์ศรีและความงามที่พระบิดาของเราทรงประทานแก่ลูกโดยการสร้างลูกให้เป็นภาพลักษณ์ของพระองค์  มันเป็นศักดิ์ศรีที่ลูกมักจะละลืมไปเสียบ่อยๆ  ความงามของลูกที่ลูกทำให้เสื่อมเสียไปด้วยบาป  แต่เรารักลูกตามที่ลูกเป็น  และเราได้หลั่งโลหิตของเราเพื่อนำลูกกลับมา  ถ้าเพียงแต่ลูกจะวอนขอต่อเราด้วยความเชื่อ    พระหรรษทานของเราเป็นสิ่งจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูก  และเราจะทำให้ลูกมีพลังที่จะทำให้ลูกเป็นอิสระจากบาปและอำนาจที่ชั่วร้าย

เรารู้ว่ามีอะไรอยู่ในหัวใจของลูกบ้าง  เรารู้ถึงความโดดเดี่ยวและความเจ็บปวดทุกอย่างของลูก  การถูกปฏิเสธ  การถูกตัดสิน  ความอัปยศอดสู  เราจะแบกมันไว้เพื่อลูก  ดังนั้นลูกจะมีส่วนในพละกำลังและชัยชนะของเรา  เรารู้ถึงความต้องการความรักของลูกเป็นพิเศษ  ความกระหายหาอย่างไร้ผล  ด้วยการแสวงหาความรักอย่างเห็นแก่ตัว  พยายามเติมเต็มความว่างเปล่าในตัวลูกด้วยความพึงพอใจที่ไม่ยั่งยืนซึ่งจะผ่านพ้นไป  เติมเต็มด้วยสิ่งที่แม้จะเป็นบาปก็ตาม  ลูกกระหายหาความรักใช่ไหม?  “มาหาเราเถิด  พวกลูกทุกคนที่กระหาย...”(ยน. 7:37)  เราจะทำให้ลูกอิ่มใจและเติมเต็มลูก   ลูกกระหายที่จะเป็นที่รักใช่ไหม?  เราจะรักลูกมากเกินกว่าที่ลูกจะคิดได้เสียอีกรักมากจนเรายอมตายบนไม้กางเขนเพื่อลูก

เรากระหายในตัวลูก  ใช่แล้ว  นั่นเป็นเพียงวิธีเดียวที่สามารถอธิบายความรักของเราต่อลูกได้  เรากระหายในตัวลูก  เรากระหายที่จะรักลูกและที่จะให้ลูกรักเรา  นั่นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของลูกสำหรับเรา  เรากระหายในตัวลูก    จงมาหาเราและเราจะเติมเต็มหัวใจของลูกและเยียวยารักษาบาดแผลของลูก  เราจะทำให้ลูกเป็นสิ่งสร้างใหม่ของเราและจะประทานสันติภาพให้  แม้แต่ในเวลาที่ลูกถูกทดสอบ  เรากระหายในตัวลูก  ลูกต้องไม่สงสัยในพระเมตตาของเรา  การที่เรายอมรับลูก  ความปรารถนาที่จะให้อภัยลูก  ความปรารถนาของเราที่จะอวยพรลูกและการที่เราดำรงอยู่ในตัวลูก  เรากระหายในตัวลูก  ถ้าลูกรู้สึกว่าตนเองไร้ค่าในสายตาของโลก  นั่นไม่ใช่เป็นปัญหาเลย  สำหรับเราแล้ว  ไม่มีใครสำคัญเท่าลูกอีกแล้วในโลกนี้  เรากระหายในตัวลูก  จงเปิดใจให้เรา  จงมาหาเรา  จงกระหายในเรา  มอบชีวิตของลูกแก่เรา  แล้วเราจะพิสูจน์ให้ลูกเห็นว่าลูกมีความสำคัญมากสักเพียงไรต่อดวงพระทัยของเรา

ลูกไม่ตระหนักหรือว่าพระบิดาของเราทรงเตรียบแผนการอันสมบูรณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกไว้แล้ว  ตั้งแต่เวลาเริ่มแรกจนถึงบัดนี้?  จงวางใจในเราเถิด  วอนขอต่อเราทุกๆวันให้เราเข้าไปในลูกและให้เราทำงานในชีวิตของลูก  เราขอสัญญาเบื้องพระพักตร์พระบิดาในสวรรค์ว่า  เราจะทำอัศจรรย์ในชีวิตของลูก  ทำไมเราจึงทำต่อลูกเช่นนี้นะหรือ?  ก็เพราะ เรากระหายในตัวลูก  นะซิ  ทุกอย่างที่เราขอต่อลูกก็คือ ให้ลูกมอบตัวลูกแก่เราอย่างสมบูรณ์  แล้วเราจะทำส่วนที่เหลือเอง

แม้แต่ในเวลานี้  เราก็กำลังมองดูสถานที่ที่พระบิดาของเราได้จัดเตรียมไว้ให้ลูกในพระอาณาจักรของเรา  จงจำไว้ว่าลูกเป็นผู้แสวงบุญในชีวิตนี้  เป็นการเดินทางมาสู่บ้านแท้  บาปไม่อาจทำให้ลูกพอใจหรือมอบสันติสุขที่ลูกต้องการให้แก่ลูกได้  สิ่งใดก็ตามที่ลูกเสาะหานอกจากเรา  มันจะให้แต่ความว่างเปล่ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น  ดังนั้นจงอย่าไปใส่ใจในสิ่งของในชีวิตนี้เลย  เหนือสิ่งอื่นใด  จงอย่าวิ่งหนีไปจากเราเมื่อลูกหกล้ม  จงมาหาเราโดยไม่ลังเลใจ  เมื่อลูกมอบบาปของลูกแก่เรา  ลูกทำให้เรายินดีที่ได้เป็นพระผู้ไถ่ของลูก  ไม่มีบาปใดที่เราไม่สามารถให้อภัยได้หรือไม่อาจเยียวยารักษาได้  ดังนั้นจงมาหาเราเดี๋ยวนี้และปลดเปลื้องจิตวิญญาณของลูก

ไม่ว่าลูกจะหลงไปอยู่ห่างไกลสักแค่ไหน  ไม่ว่าลูกจะหลงลืมเราบ่อยครั้งเพียงใด  ไม่ว่าจะมีกางเขนที่ลูกต้องแบกมากสักเพียงไรในชีวิตนี้  เราต้องการให้ลูกจำไว้อย่างหนึ่งซึ้งไม่มีวันเปลี่ยนแปลง  นั่นคือ เรากระหายในตัวลูก  ตามที่ลูกเป็น  ลูกไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเชื่อในความรักของเรา  เพราะความเชื่อของลูกในความรักของเราจะเปลี่ยนแปลงลูกเอง  ลูกหลงลืมเรา  และเรายังคงตามหาลูกตลอดเวลา  เรายืนอยู่หน้าประตูหัวใจของลูกและกำลังเคาะเรียก  ลูกรู้สึกว่าเรื่องนี้ยากที่จะเชื่อหรือ?  ถ้าเช่นนั้นมองดูที่กางเขนซิ  มองดูที่ดวงพระทัยของเราที่ถูกแทงเพื่อลูก  ลูกยังไม่เข้าใจในกางเขนของเราอีกหรือ?  ถ้าเช่นนั้นจงฟังวาจาที่เรากล่าวที่บนกางเขนเถิด  วาจาที่กล่าวอย่างชัดเจนว่าทำไมเราจึงยอมทนทรมานเพื่อลูก  เรากระหาย”....(ยน. 19:28)  ใช่แล้ว  เรากระหายในตัวลูก  ตามที่บทสดุดีได้พูดถึงตัวเราไว้ว่า  “เรามองหาความรัก  แต่ก็ไม่พบเลย”  (สด. 69:22)   ตลอดชีวิตของลูก  เรามองหาความรักของลูก  เราไม่เคยหยุดที่จะแสวงหาหนทางที่จะรักลูกและให้ลูกรักเรา  ลูกได้พยายามทำหลายสิ่งหลายอย่างในการแสวงหาความสุข  ทำไมไม่ลองเปิดหัวใจให้กับเราบ้างล่ะ?  ทำเสียเดี๋ยวนี้ทำให้มากกว่าที่ลูกเคยทำมาแล้ว

เมื่อไรก็ตามที่ลูกเปิดประตูหัวใจของลูก  เมื่อไรก็ตามที่ลูกมาอยู่ใกล้เรามากเพียงพอ  ลูกจะได้ยินเราตรัสกับลูกครั้งแล้วครั้งเล่า  ไม่ใช่ด้วยคำพูดของมนุษย์แต่เป็นเสียงของจิตวิญญาณ  “ไม่ว่าลูกจะทำอะไรมา  เราก็รักลูกเพื่อลูกเอง  จงมาหาเราในความวิปโยคและในบาปของลูก  ในความยากลำบากและความจำเป็นของลูก  และด้วยความปรารถนาทั้งมวลของลูกที่จะได้รับความรัก  เราจะยืนอยู่ที่ประตูหัวใจของลูกและเคาะเรียก...เปิดให้เราเข้าไปเถิด  เพราะ เรากระหายในตัวลูก....”
(Missionaries of Charity Fathers)
(พระสงฆ์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม)
---------------------

“พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเจ้า  เพราะฉะนั้นความรักของพระองค์  ความกระหายของพระองค์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด  พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างจักรวาล  จงวอนขอให้เรามีความรักต่อสิ่งสร้างทั้งมวลของพระองค์เถิด  พระองค์กระหายความรักของพวกเรา....คำคำนี้ “เรากระหาย”  ได้สะท้อนก้องอยู่ในจิตวิญญาณของเราหรือไม่?”
 (คุณแม่เทเรซา)

-------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น