วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ลำดับวงศ์วานของพระเยซูเจ้าอันน่าประหลาดใจ



ชาวอิสราแอลเดินทางผ่านทะเลทรายเป็นเวลาสี่สิบปี  และได้มาถึงแผ่นดินคานาอันที่อุดมสมบูรณ์  โมเสสแต่งตั้งให้โจชัวเป็นผู้นำชาวอิสราแอลต่อจากท่าน  เพราะท่านจะไม่มีชีวิตเพื่อเข้าไปยังแผ่นดินแห่งพันธะสัญญา  แผ่นดินซึ่งพระเป็นเจ้าทรงสัญญากับอับราฮัมว่าจะยกให้เป็นแผ่นดินของลูกหลานของท่าน  แผ่นดินนี้มีชนต่างชาติได้ครอบครองและสร้างเมืองไว้ก่อนแล้ว คือเมืองเยริโค  ชาวอิสราแอลต้องแย่งชิงดินแดนนี้มาจากชาวเยริโคอีกที  โจชัวได้ส่งสายลับ 2 คนไปสืบดูว่ามีทางไหนที่จะเข้าเมืองได้บ้าง  แต่ชาวเยริโคมีทหารคอยป้องกันอยู่ทุกแห่งเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวอิสราแอลเข้ามาได้  ชาวเมืองหวาดกลัวชาวอิสราแอลแต่ก็นอนใจได้  เพราะกำแพงเมืองใหญ่มากยากที่จะทำลายได้  เมื่อสายลับชาวอิสราแอลเข้าไปในเมืองก็ต้องพบกับทหารยามที่คอยสอดส่องดูแล  พวกเขาต้องหนีทหารเหล่านี้  โชคดีที่มีนางราหับได้ช่วยเหลือสายลับชาวอิสราแอล 2 คนไว้ โดยนางบอกทหารยามว่า “ชาวอิสราแอลได้หนีออกจากเมืองไปแล้วก่อนที่ประตูเมืองจะปิด” ทหารยามจึงได้ออกจากเมืองไปตามหา  แต่ความจริงนางราหับได้ซ่อนสายลับชาวยิวเอาไว้ใต้ใบป่านที่วางเป็นหลังคา  สายลับอิสราแอลถามเธอว่า “ทำไมนางจึงช่วยพวกเรา?”

นางราหับตอบว่า “ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของชาวอิสราแอลตั้งแต่ฉันเป็นเด็กเล็ก  พระเป็นเจ้าทรงปกป้องพวกท่าน  ทรงช่วยพวกท่านตั้งแต่ออกมาจากอิยิปต์  เรื่องราวของพวกท่านทำให้พวกเรากลัวในแผนการของพระเป็นเจ้าเป็นอย่างมาก” นางราหับขอให้สายลับสาบานว่าเมื่อชาวยิวตีเมืองเยริโคแล้ว  จะไม่ทำร้ายเธอและคนในครอบครัวของเธอ

ต่อมาไม่นานชาวอิสราแอลก็ตีเมืองเยริโคได้  พวกเขาได้ทำตามที่สายลับสาบานเอาไว้  โดยไว้ชีวิตนางราหับและคนในครอบครัวของเธอเพื่อเป็นการขอบคุณในสิ่งที่เธอกระทำ

1,000 ปีต่อมานักบุญมัทธิวได้ใส่ชื่อของนางราหับในลำดับวงศ์วานของพระเยซูเจ้าด้วย  ตามพระวรสารที่นักบุญมัทธิวเป็นผู้นิพนธ์ไว้  นางราหับเป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์ดาวิด  โดยปกติการนับลำดับวงศ์วานของชาวยิวนั้น  จะนับเฉพาะผู้ชายเท่านั้น  แต่นักบุญมัทธิวกลับเติมชื่อผู้หญิงเข้าไปซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่แปลกมากทีเดียว  ยิ่งไปกว่านั้นนางราหับยังเป็นคนที่ไม่ใช่ชาวยิวและเป็นหญิงโสเภณีด้วย  จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเลย

ดูเหมือนนักบุญมัทธิวจะเตือนพวกเราว่า พระเป็นเจ้านั้นทรงเต็มไปด้วยสิ่งน่าประหลาดใจ  ในแผนการไถ่กู้มนุษยชาติ  พระเป็นเจ้าทรงใช้บุคคลหลายรูปแบบ  นางราหับเป็นหญิงที่ฉลาด ช่างคิดและกล้าหาญ  นางมาอยู่ถูกสถานที่และถูกเวลา  และถึงแม้เธอจะไม่ใช่ชาวยิว  เธอก็รู้และเข้าใจการทำงานของพระเป็นเจ้าและปรารถนาที่จะช่วยพระองค์  หลานของเธอคือโอเบด  ได้แต่งงานกับนางรูธ  สตรีที่ไม่ใช่ชาวยิวอีกผู้หนึ่งที่มีความกล้าหาญและมีความฉลาดเช่นเดียวกัน  จากเชื้อสายของสตรีทั้งสองเช่นนี้แหละ  ที่ได้ให้กำเนิดกษัตริย์ดาวิด....ช่างน่าประหลาดใจนัก

และยิ่งน่าประหลาดใจต่อไปอีก  หลังจากที่พระเป็นเจ้าทรงส่งพระบุตรสุดที่รักพระองค์เดียวของพระองค์มายังโลก  ตามที่นักบุญมัทธิวได้เล่าไว้ในพระวรสาร  พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกและเชื้อเชิญบุคคลมากมายซึ่งเป็น  คนเก็บภาษี  คนพิการ  คนใช้แรงงาน  หญิงโสเภณี  ชาวซามาเรีย  คนถูกผีสิงและคนอีกหลายประเภทหลายลักษณะให้เข้ามามีส่วนร่วมในแผนการการไถ่กู้มนุษยชาติของพระองค์  คนเหล่านี้ที่ถูกประณามว่าเป็นคนบาปทำให้ผู้นำทางศาสนาในสมัยนั้นไม่พอใจ  แต่พระเยซูเจ้าไม่ทรงสนพระทัย  พระองค์ตรัสว่า  อาณาจักรของพระเป็นเจ้าใหญ่พอที่จะรวบรวมคนร่ำรวยและคนยากจน  คนแข็งแรงและคนเจ็บป่วย  นักบุญและคนบาปเอาไว้ได้  ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในพระอาณาจักรของพระองค์

____________________

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น