ชาวอิสราแอลเดินทางผ่านทะเลทรายเป็นเวลาสี่สิบปี และได้มาถึงแผ่นดินคานาอันที่อุดมสมบูรณ์ โมเสสแต่งตั้งให้โจชัวเป็นผู้นำชาวอิสราแอลต่อจากท่าน เพราะท่านจะไม่มีชีวิตเพื่อเข้าไปยังแผ่นดินแห่งพันธะสัญญา แผ่นดินซึ่งพระเป็นเจ้าทรงสัญญากับอับราฮัมว่าจะยกให้เป็นแผ่นดินของลูกหลานของท่าน แผ่นดินนี้มีชนต่างชาติได้ครอบครองและสร้างเมืองไว้ก่อนแล้ว
คือเมืองเยริโค ชาวอิสราแอลต้องแย่งชิงดินแดนนี้มาจากชาวเยริโคอีกที โจชัวได้ส่งสายลับ 2 คนไปสืบดูว่ามีทางไหนที่จะเข้าเมืองได้บ้าง แต่ชาวเยริโคมีทหารคอยป้องกันอยู่ทุกแห่งเพื่อป้องกันไม่ให้ชาวอิสราแอลเข้ามาได้ ชาวเมืองหวาดกลัวชาวอิสราแอลแต่ก็นอนใจได้ เพราะกำแพงเมืองใหญ่มากยากที่จะทำลายได้
เมื่อสายลับชาวอิสราแอลเข้าไปในเมืองก็ต้องพบกับทหารยามที่คอยสอดส่องดูแล พวกเขาต้องหนีทหารเหล่านี้ โชคดีที่มีนางราหับได้ช่วยเหลือสายลับชาวอิสราแอล
2 คนไว้ โดยนางบอกทหารยามว่า “ชาวอิสราแอลได้หนีออกจากเมืองไปแล้วก่อนที่ประตูเมืองจะปิด”
ทหารยามจึงได้ออกจากเมืองไปตามหา แต่ความจริงนางราหับได้ซ่อนสายลับชาวยิวเอาไว้ใต้ใบป่านที่วางเป็นหลังคา สายลับอิสราแอลถามเธอว่า
“ทำไมนางจึงช่วยพวกเรา?”
นางราหับตอบว่า
“ฉันเคยได้ยินเรื่องราวของชาวอิสราแอลตั้งแต่ฉันเป็นเด็กเล็ก พระเป็นเจ้าทรงปกป้องพวกท่าน ทรงช่วยพวกท่านตั้งแต่ออกมาจากอิยิปต์ เรื่องราวของพวกท่านทำให้พวกเรากลัวในแผนการของพระเป็นเจ้าเป็นอย่างมาก”
นางราหับขอให้สายลับสาบานว่าเมื่อชาวยิวตีเมืองเยริโคแล้ว จะไม่ทำร้ายเธอและคนในครอบครัวของเธอ
ต่อมาไม่นานชาวอิสราแอลก็ตีเมืองเยริโคได้ พวกเขาได้ทำตามที่สายลับสาบานเอาไว้ โดยไว้ชีวิตนางราหับและคนในครอบครัวของเธอเพื่อเป็นการขอบคุณในสิ่งที่เธอกระทำ
1,000 ปีต่อมานักบุญมัทธิวได้ใส่ชื่อของนางราหับในลำดับวงศ์วานของพระเยซูเจ้าด้วย ตามพระวรสารที่นักบุญมัทธิวเป็นผู้นิพนธ์ไว้ นางราหับเป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์ดาวิด โดยปกติการนับลำดับวงศ์วานของชาวยิวนั้น จะนับเฉพาะผู้ชายเท่านั้น
แต่นักบุญมัทธิวกลับเติมชื่อผู้หญิงเข้าไปซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่แปลกมากทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นนางราหับยังเป็นคนที่ไม่ใช่ชาวยิวและเป็นหญิงโสเภณีด้วย จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ปกติเลย
ดูเหมือนนักบุญมัทธิวจะเตือนพวกเราว่า
พระเป็นเจ้านั้นทรงเต็มไปด้วยสิ่งน่าประหลาดใจ
ในแผนการไถ่กู้มนุษยชาติ
พระเป็นเจ้าทรงใช้บุคคลหลายรูปแบบ
นางราหับเป็นหญิงที่ฉลาด ช่างคิดและกล้าหาญ นางมาอยู่ถูกสถานที่และถูกเวลา และถึงแม้เธอจะไม่ใช่ชาวยิว เธอก็รู้และเข้าใจการทำงานของพระเป็นเจ้าและปรารถนาที่จะช่วยพระองค์ หลานของเธอคือโอเบด ได้แต่งงานกับนางรูธ สตรีที่ไม่ใช่ชาวยิวอีกผู้หนึ่งที่มีความกล้าหาญและมีความฉลาดเช่นเดียวกัน จากเชื้อสายของสตรีทั้งสองเช่นนี้แหละ
ที่ได้ให้กำเนิดกษัตริย์ดาวิด....ช่างน่าประหลาดใจนัก
และยิ่งน่าประหลาดใจต่อไปอีก หลังจากที่พระเป็นเจ้าทรงส่งพระบุตรสุดที่รักพระองค์เดียวของพระองค์มายังโลก ตามที่นักบุญมัทธิวได้เล่าไว้ในพระวรสาร
พระเยซูเจ้าได้ทรงเรียกและเชื้อเชิญบุคคลมากมายซึ่งเป็น คนเก็บภาษี
คนพิการ คนใช้แรงงาน หญิงโสเภณี
ชาวซามาเรีย
คนถูกผีสิงและคนอีกหลายประเภทหลายลักษณะให้เข้ามามีส่วนร่วมในแผนการการไถ่กู้มนุษยชาติของพระองค์ คนเหล่านี้ที่ถูกประณามว่าเป็นคนบาปทำให้ผู้นำทางศาสนาในสมัยนั้นไม่พอใจ แต่พระเยซูเจ้าไม่ทรงสนพระทัย พระองค์ตรัสว่า
อาณาจักรของพระเป็นเจ้าใหญ่พอที่จะรวบรวมคนร่ำรวยและคนยากจน คนแข็งแรงและคนเจ็บป่วย นักบุญและคนบาปเอาไว้ได้ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในพระอาณาจักรของพระองค์
____________________
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น