แปลจากภาษาอิตาลีเป็นภาษาอังกฤษโดย
: Anna Grasso
เมื่อคุณพ่อปีโอประกอบพิธีมิสซา
ท่านใช้เวลานานเป็นชั่วโมง
ในระหว่างนั้นมีบางอย่างซึ่งพิเศษมากเกิดขึ้นกับท่าน ท่านไม่เคยเล่าให้ใครฟังเกี่ยวกับประสบการณ์ของท่านบนพระแท่น แต่มีบุคคลท่านหนึ่งที่ได้สัมภาษณ์ท่านและโชคดีที่ได้ยินท่านเล่าประสบการณ์นี้จากปากของคุณพ่อปีโอเอง และเรานำมารายงานไว้ ณ.ที่นี้
เป็นเรื่องที่มีลักษณะทางเทววิทยาของมิสซาซึ่งมีค่าแก่การรับรู้
“คุณพ่อครับ
การประกอบพิธีมิสซาของคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?
“มันเป็นการผสมผสานของพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า
ความรับผิดชอบของพ่อนั้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษในโลกนี้”
“มีบทเรียนอะไรบ้างที่ผมต้องเรียนรู้และต้องเข้าใจจากการประกอบพิธีมิสซาของคุณพ่อครับ?”
“นั่นคือ พ่อต้องรับความทุกข์ทรมานทุกอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงได้รับในระหว่างพระมหาทรมานของพระองค์ หมายถึงมากเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทนรับได้”
“คุณพ่อครับ,
คุณพ่อมีความทุกข์จนถึงขั้นเข้าตรีฑูตเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้าทรงได้รับที่สวนเก็ธเซเมนีด้วยหรือไม่?”
“แน่นอน”
“และทูตสวรรค์ได้มาหาคุณพ่อเพื่อปลอบบรรเทาใจคุณพ่อด้วยหรือเปล่าครับ?”
“ใช่”
“และคุณพ่อตอบรับ FIAT อย่างไรครับ?”
“พ่อตอบรับเพื่อบรรดาเพื่อนนักบวชของพ่อ
และเพื่อการมาถึงของพระอาณาจักรของพระคริสตเจ้า”
“คุณพ่อได้พูดออกมาว่า
‘พวกเขาจะร้องตะโกนว่า
‘นำเขาไปตรึงกางเขน นำไปตรึงกางเขน’ และใครที่จะเป็นผู้ตะโกนแบบนี้ครับ?”
“คือบรรดาบุตรของมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือคนที่เคยได้รับประโยชน์มาแล้ว”
“คุณพ่อครับ
พระกายของพระเยซูเจ้าเป็นอย่างไรหลังจากถูกเฆี่ยน?”
“เหมือนกับที่ประกาศกกล่าวไว้
‘ท่านมีบาดแผลทั่วร่างกาย ท่านเป็นเหมือนคนโรคเรื้อน’”
“และคุณพ่อมีบาดแผลพุพองเต็มไปหมดตั้งแต่ศีรษะถึงเท้าด้วยใช่ไหมครับ?”
“และสิ่งนี้ไม่ใช่เกียรติรุ่งโรจน์ของเราหรอกหรือ?
ถ้าหากไม่มีเนื้อที่บนร่างกายสำหรับบาดแผลใหม่ๆ
พ่อก็จะให้บาดแผลใหม่เหล่านั้นมาอยู่บนบาดแผลเดิม”
“คุณพ่อครับ
เมื่อคุณพ่อถูกเฆี่ยน
คุณพ่ออยู่เพียงลำพังหรือมีผู้อื่นมาอยู่คอยช่วยคุณพ่อด้วย?”
“แม่พระทรงมาช่วยพ่อ รวมทั้งสวรรค์ทั้งมวลก็มาด้วย”
คุณพ่อครับ พระเยซูเจ้าทรงประทานความเข้าใจแก่ผมว่าคุณพ่อได้รับความทุกข์จากมงกุฎหนามด้วย
มิฉะนั้นความทุกข์ทรมานก็จะไม่สมบูรณ์ มงกุฏหนามนั้นวางรอบเป็นวงบนศีรษะบริเวณหน้าผากของคุณพ่อเท่านั้นหรือวางครอบคลุมศีรษะทั้งหมดครับ?”
“รอบๆร่างกายทั้งหมดของพ่อ”
“คุณพ่อครับ คนบาปได้ดึงหนวดเคราของคุณพ่อเหมือนที่ทำกับพระเยซูเจ้าหรือเปล่าครับ?”
“พวกเขาไม่เพียงแต่ดึงหนวดเคราเท่านั้น พวกเขาดึงกระดูกของพ่อด้วย”
“คุณพ่อครับ คุณพ่อได้รับความทุกข์ทรมานมากเพียงใดในระหว่างประกอบพิธีมิสซาครับ?”
“อย่าไปสนใจกับเรื่องนี้เลย ในระหว่างพิธีมิสซา ความทุกข์ทรมานจะมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมิสซาสิ้นสุด”
“คุณพ่อครับ ในภาคเสกศีลมหาสนิทศักดิ์สิทธิ์
คุณพ่ออุทิศถวายเพื่อคุณพ่อเองหรือเพื่อบาปของพวกเราครับ?”
“พ่อไม่สามารถทำแบบนั้นได้ไม่ว่าด้วยวิธีใด เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของศีลศักดิ์สิทธิ์ เพราะคำพิพากษาลงโทษคนบาปตกลงมาที่ตัวของพ่อ”
“คุณพ่อครับ
ผมเห็นคุณพ่อตัวสั่นเทาขณะที่คุณพ่อเดินขึ้นไปบนพระแท่น ทำไมจึงเป็นเช่นนั้นครับ? เป็นเพราะคุณพ่อกำลังจะได้รับความทุกข์ทรมานใช่ไหม?”
“ไม่ใช่เพราะพ่อกำลังจะได้รับความทุกข์ทรมานหรอก แต่เป็นเพราะพ่อกำลังถวายตัวของพ่อเอง”
“คุณพ่อครับ
ทำไมคุณพ่อจึงร้องไห้เวลาที่คุณพ่ออ่านพระวรสารในพิธีมิสซา”
“เธอคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือที่พระเป็นเจ้าทรงสนทนากับสิ่งสร้างของพระองค์
ทั้งๆที่พวกเขาต่อต้านพระองค์ โบยตีพระองค์ตลอดเวลาด้วยความโหดเหี้ยมและดุร้ายของพวกเขา?”
“คุณพ่อครับ ทำไมคุณพ่อจึงร้องไห้เมื่อกำลังชูศีล?”
“พ่อเห็นพวกลูกอยากจะมาฉกฉวยสิ่งล้ำค่าของพ่อไป และก็เป็นเช่นนั้น ขณะที่ชูศีลเป็นเวลาที่วิญญาณแยกออกจากแผ่นดิน วิญญาณแยกออกจากแผ่นดินเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์”
“คุณพ่อครับ
โปรดบอกผมว่าทำไมคุณพ่อจึงรับความทุกข์ทรมานเช่นนี้ในการประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้?”
“เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดซึ่งการพังทลายและการสร้างขึ้นใหม่อันน่ามหัศจรรย์บังเกิดขึ้น
โลกและมนุษยชาติทั้งมวลถูกทำลายและถูกสร้างขึ้นใหม่ในพิธีมิสซา ทุกๆมิสซา”
“คุณพ่อครับ คุณพ่อยังคงอยู่ได้อย่างไรบนพระแท่น?”
“ในแบบเดียวกับที่พระเยซูเจ้าทรงคงอยู่บนไม้กางเขน”
“คุณพ่อครับ พวกทหารที่โหดร้ายได้กลับด้านไม้กางเขนหรือเปล่าเพื่อตอกตะปู?”
“ใช่พวกเขาทำ”
“และพวกเขาทำกับคุณพ่อด้วยหรือเปล่าครับ?”
“ใช่ แต่นั่นอย่าทำให้เธอวิตกไปเลย”
“คุณพ่อครับ แม่พระทรงมาช่วยในการประกอบพิธีมิสซาของคุณพ่อหรือเปล่า?”
“และเธอไม่คิดว่าพระนางจะไม่สนใจลูกของพระนางบ้างเลยหรือ?”
“และเทวดาก็มาช่วยด้วยใช่ไหมครับ?”
“มากมายทีเดียว”
“คุณพ่อครับ คุณพ่อได้พูดคำพูด 7
คำสุดท้ายที่พระเยซูเจ้าตรัสบนกางเขนด้วยใช่ไหมครับ?”
“ใช่ พ่อได้พูด
ถึงแม้ว่าพ่อจะไม่มีค่าเหมาะสมที่จะพูดก็ตาม”
“และคุณพ่อพูดคำว่า ‘สตรีเอ๋ย นี่คือบุตรของท่าน’
กับใครครับ?”
“พ่อพูดกับพระนางมารีย์ว่า
‘โปรดมองดูบรรดาลูกของพระบุตรของพระนางเถิด’”
“คุณพ่อมีประสบการณ์การกระหายน้ำและการถูกทอดทิ้งของพระเยซูเจ้าหรือเปล่า?”
“ใช่”
“พระเยซูเจ้าที่ถูกตรึงกางเขนทรงมีอวัยวะภายในระบมด้วยใช่ไหมครับ?”
“เธอหมายถึง’ถูกเผาไหม้’ใช่ไหม?”
“แม่พระทรงทำอะไรที่แทบพระบาทของกางเขนครับ?”
“พระนางทรงทุกข์ทรมานด้วยความทุกข์ทรมานของพระบุตรของพระนาง พระนางถวายความเจ็บปวดทั้งหมดของพระนางรวมทั้งของพระบุตรด้วยแด่องค์พระบิดาสวรรค์เพื่อความรอดของมนุษยชาติทั้งมวล”
“คุณพ่อครับ
เราต้องร่วมพิธีมิสซาอย่างไรครับ?”
“แบบเดียวกับที่แม่พระและสตรีใจศรัทธากระทำ
แบบเดียวกับที่นักบุญยอห์นกระทำที่ศีลมหาสนิทและที่ยัญบูชาบนกางเขน”
“คุณพ่อครับ เราจะได้รับประโยชน์อะไรจากการร่วมพิธีมิสซา?”
“ไม่อาจประมาณนับได้หรอก เธอจะได้เห็นเองเมื่ออยู่ในสวรรค์”
“คุณพ่อครับ ศีลมหาสนิทคืออะไร?”
“คือความเมตตาอย่างบริบูรณ์
ทั้งภายในและภายนอก ครอบคลุมทั้งหมด จงสวดภาวนาวอนขอพระเยซูเจ้าให้เธอมีประสบการณ์การปรากฏของพระองค์ทั้งทางกายภาพและทางจิตวิญญาณ”
“หลังจากการรับศีลแล้ว
ความทุกข์ทรมานยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่ครับ?”
“ใช่
เป็นความทรมานแห่งความรัก”
คุณพ่อครับ
ในพิธีมิสซาคุณพ่อได้เสียชีวิตด้วยหรือเปล่า?”
“พ่อตายด้วยวิธีลึกลับ ในศีลมหาสนิท”
“คุณพ่อตายเพราะความเร่าร้อนของความรักหรือเพราะความทุกข์โศกเศร้าครับ?”
“ทั้งสอง แต่ส่วนใหญ่เพราะความรัก”
“ร่างที่เสียชีวิตของพระเยซูเจ้าถูกวางไว้กับผู้ใดในวาระสุดท้ายครับ?”
“วางบนพระมารดาของพระองค์”
“และสำหรับคุณพ่อ ถูกวางไว้กับใครครับ?”
“วางไว้บนบรรดาเพื่อนนักบวชของพ่อ”
“คุณพ่อครับ คุณพ่อพูดว่าในการรับศีลมหาสนิท และคุณพ่อได้ตาย และพวกเขาวางคุณพ่อไว้บนอ้อมแขนของแม่พระหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า พวกเขาวางพ่อไว้บนอ้อมแขนของนักบุญฟรังซิส”
***************************
เป็นคำตอบที่น่าสนใจมากใช่ไหม!!!
***************************
ขอบคุณนะคะที่แบ่งปันเรื่องดีๆ
ตอบลบ